แพทย์ เผย เด็กดาวน์ซินโดรม มีวิธีช่วยให้ดีขึ้นได้
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
แฟ้มภาพ
วันที่ 21 มีนาคมทุกปี เป็นวันดาวน์ซินโดรมโลก รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ เผยมีวิธีช่วยพ่อแม่ที่มีลูกเกิดใหม่เป็นดาวน์ซินโดรม โดยแนะให้รีบกระตุ้นพัฒนาการทางร่างกาย ภาษา อารมณ์ และสังคม เริ่มตั้งแต่วัยแบเบาะอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ให้ความรักความอบอุ่น เล่นกับลูกให้ลูกสนุกจะช่วยส่งเสริมให้ศักยภาพในตัวเด็กดีขึ้น ใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับคนปกติเรียนหนังสือทำงานและประกอบอาชีพได้
นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาล(รพ.)จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สาเหตุของดาวน์ซินโดรมเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมของเซลล์คู่ที่ 21 ทำให้เด็กมีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ทั้งรูปร่างหน้าตาและอวัยวะอื่นๆ มีภาวะบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา องค์การอนามัยโลกรายงานมีเด็กเกิดใหม่เป็นเด็กดาวน์ซินโดรมปีละ 3,000-5,000 คน โดยพบได้ 1 คนต่อเด็กเกิดใหม่ มีชีวิตทุก 800 คน ในส่วนของประเทศไทยจะพบเด็กเกิดใหม่เป็นเด็กดาวน์ซินโดรมได้ 1-2 คน ต่อวัน จากจำนวนเด็กเกิดใหม่ที่มีวันละประมาณ 1,700 คน ทั่วประเทศ
โรคนี้ไม่มียารักษาให้หายขาดวิธีการดูแลที่สำคัญที่สุดที่ถือว่าเป็นยาขนานเอกของเด็กกลุ่มนี้คือ การช่วยส่งเสริมพัฒนาการทั้งร่างกาย ภาษา อารมณ์ และสังคมให้เด็ก โดยพ่อแม่ต้องเริ่มให้เร็วที่สุด ตั้งแต่วัยแบเบาะทำต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ให้ความรักความอบอุ่นแก่เด็ก ให้พ่อแม่เป็นเพื่อนเล่นคนแรก แค่เล่นกับลูกให้ลูกสนุกจะส่งผลให้ศักยภาพในตัวเด็กดีขึ้น เด็กจะสามารถช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวันได้เล่นกับเด็กปกติอื่นๆได้เรียนได้ตามศักยภาพและใช้ชีวิตอยู่ในสังคมใกล้เคียงกับคนปกติมากที่สุดส่วนใหญ่เด็กกลุ่มนี้มักจะเลี้ยงง่ายอารมณ์ดีเป็นทุนอยู่แล้ว
นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน กล่าวต่อว่า ในการดูแลสุขภาพของเด็กที่เป็นดาวน์ซินโดรม จะต้องดูแลด้านพัฒนาการจิตใจอารมณ์สังคมควบคู่กับการดูแลสุขภาพกายเป็นพิเศษ เนื่องจากเด็กจะมีความผิดปกติหลายเรื่อง อาทิ หัวใจพิการแต่กำเนิดพบได้ร้อยละ 40-60 การได้ยินผิดปกติร้อยละ75 ความผิดปกติระบบประสาท เช่นเกิดโรคลมชัก พบได้ประมาณร้อยละ 14 เป็นต้น หากได้รับการดูแลดี เด็กจะมีอายุยืนยาวขึ้น โดยในส่วนของการดูแลด้านจิตและสังคม รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ ได้เพิ่มศักยภาพบุคลากรสาธารณสุขในการประเมินคัดกรองและช่วยเหลือเบื้องต้นและได้เชื่อมโยงบริการกับโรงพยาบาลทุกแห่งที่อยู่ในเขตสุขภาพที่ 9 คือ นครราชสีมาชัยภูมิบุรีรัมย์และสุรินทร์เพื่อให้เด็กสามารถใช้บริการใกล้บ้านโดยมีรพ.มหาราชนครราชสีมาจังหวัดนครราชสีมาเป็นศูนย์เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ