แนะหลักในการฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีปัญหาการเดินที่ผิดปกติ
ที่มา : กรมการแพทย์
แฟ้มภาพ
สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ เผยหลักปฎิบัติในการฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีปัญหาการเดินที่ผิดปกติ แนะทำสิ่งที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้น หรือหากพิการถาวรไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นได้ควรใช้อุปกรณ์ช่วย
นายแพทย์ภาสกร ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า การเดินเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่สำคัญในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เป็นกระบวนการที่อาศัยความสัมพันธ์อันสลับซับซ้อนของสะโพก ข้อเข่า ข้อเท้าและเท้า ทำให้มีการเคลี่อนที่ของร่างกายไปทางด้านหน้า โดยขาข้างหนึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวรับน้ำหนัก ส่วนขาอีกข้างหนึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวก้าวไปข้างหน้า หลังจากนั้นจะมีการสลับหน้าที่กันของขาทั้ง 2 ข้าง เรียกว่า วงจรการเดิน ทั้งนี้การทำงานของระบบต่างๆ ของร่างกายจะต้องประกอบไปด้วยสิ่งต่างๆ เพื่อทำให้เกิดการเดินที่ปกติ ได้แก่ ขาต้องสามารถรับน้ำหนักโครงสร้างของร่างกายได้โดยไม่มีการทรุด สามารถทรงตัวอยู่ได้ในช่วงที่เท้าข้างเดียวมีการสัมผัสพื้น ขาอีกข้างจะต้องเหวี่ยงไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อทำหน้าที่รับน้ำหนักต่อไป และต้องมีกำลังเพียงพอในการเคลี่อนขาและลำตัวไปข้างหน้า หากพบว่ามีการเดินที่ผิดปกติจะเป็นอาการแสดงอย่างหนึ่งของภาวะหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบกระดูก ข้อ กล้ามเนื้อ และโรคทางระบบประสาท ดังนั้นในการฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีปัญหาการเดินที่ผิดปกติ แพทย์จะวินิจฉัยเพื่อหาแนวทางรักษาและฟื้นฟูอย่างเหมาะสมต่อไป
นายแพทย์ศักรินทร์ วงศ์เลิศศิริ ผู้อำนวยการสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุของการเดินที่ผิดปกติสามารถแบ่งได้ดังนี้ 1.โครงสร้างมีความผิดปกติ เช่น ข้อติด ข้อหรือกระดูกผิดรูป 2.กล้ามเนื้ออ่อนแรง 3.ระบบประสาทรับความรู้สึกผิดปกติ 4.การมองเห็นผิดปกติหรือตาบอด 5.ระบบประสาทส่วนกลางผิดปกติ สำหรับการบำบัดรักษาฟื้นฟูการเดินที่ผิดปกติ มีหลักทั่วไปในการฟื้นฟูสภาพ คือ 1.ทำสิ่งที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้น เช่น กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการอ่อนแรงและทำให้เดินผิดปกติ ควรออกกำลังกายเพื่อทำให้กล้ามเนื้อมีกำลังเพิ่มมากขึ้น หรือถ้าเกิดจากอาการปวด ให้กำจัดสาเหตุที่ทำให้มีอาการปวด 2.ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่สามารถแก้ไขได้มีความพิการถาวรควรใช้อุปกรณ์ช่วย อาทิ เครื่องช่วยเดิน ใช้กายอุปกรณ์เสริม เช่น กรณีข้อเท้าแตก แก้ไขโดยการใช้อุปกรณ์ประคองข้อเท้า นอกจากนี้หากไม่สามารถเดินได้ควรใช้รถนั่งคนพิการ เป็นต้น