เล่นการพนันขั้นไหนถึงต้องรักษา
อาการหรือการแสดงออกของการติดการพนันตามเกณฑ์การวินิจฉัยของ American Psychiatric Association มีดังนี้ โดยได้จัดลำดับเป็นคำย่อ WAGER OFTEN เพื่อให้สะดวกในการจดจำได้ง่าย
Withdrawal – รู้สึกกระสับกระส่ายหรือหงุดหงิดง่าย เวลาพยายามหยุดหรือลดการเล่นพนัน
Affect significant relationship – ความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญ โอกาสในด้านการงาน การเรียน หรืออาชีพเสียไปเพราะการพนัน
Goal is to get even by chasing – หลังจากเสียเงินพนันแล้ว ได้พยายามที่จะกลับไปเล่นเพื่อเอาเงินคืนบ่อยครั้ง
Escape – เล่นการพนันเพื่อหาทางออกจากปัญหา หรือให้มีความรู้สึกที่ดีขึ้นจากความรู้สึกไม่สบายใจ
Rescue – ต้องให้บุคคลอื่นหาเงินมาช่วยให้พ้นจากการเป็นหนี้พนัน
Outside the laws – ทำผิดกฎหมาย เช่น ปลอมแปลงเอกสาร ขโมยของ เพื่อให้ได้เงินมาใช้หนี้พนัน
Failure to control – พยายามที่จะควบคุม ลด หรือ หยุดการเล่นพนันแต่ทำไม่สำเร็จบ่อยครั้ง
Tolerance – พนันด้วยการเพิ่มปริมาณเงินมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้คงความรู้สึกตื่นเต้นเช่นเดิมไว้
Evades telling the truth – โกหกครอบครัว แพทย์ผู้รักษา หรือ บุคคลอื่นเพื่อปกปิดการเล่นพนันของตนเอง
Needs to think about gambling – ครุ่นคิดถึงแต่การพนันอย่างมาก ทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับประสบการณ์การเล่นพนันในอดีตของตนเอง ว่าเล่นได้หรือเสียอย่างไร รวมไปถึงการวางแผนล่วงหน้าว่าจะทำอย่างไรให้ชนะในคราวต่อไป หรือ คิดวิธีหาเงินเพื่อจะนำไปใช้ในการพนันครั้งต่อไป
หากมีอาการข้างต้น 5 ข้อหรือมากกว่า แสดงว่าติดการพนัน แต่หากมี 3 หรือ 4 อาการ จัดว่าเป็นผู้มีปัญหาเกี่ยวกับการพนัน และ หากมีเพียง 1 หรือ 2 ข้อ จะจัดเป็นผู้เล่นพนันที่มีความยับยั้งชั่งใจได้
เมื่อติดการพนันจะรักษาได้อย่างไร
แม้ว่าการติดการพนันจะเป็นภาวะเรื้อรัง และมักจะกลับเป็นซ้ำได้บ่อยๆ แต่ก็เป็นภาวะที่สามารถรักษาได้ ผู้ติดการพนันมักจะขอรับการรักษาเมื่ออาการเป็นมาก จนมีปัญหาการเงินขั้นรุนแรง อย่างไรก็ตามการรักษาจะทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ติดการพนันและครอบครัวโดยเฉพาะเรื่องการเงินดีขึ้น สำหรับแนวทางการรักษามักใช้วิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (behavioral therapy) การให้คำปรึกษา (counseling) หรือ อาจใช้วิธีการเปลี่ยนแนวคิด (cognitive therapy) และอาจให้เข้าร่วมกลุ่ม เพื่อให้การสนับสนุนและให้กำลังใจในการเปลี่ยนพฤติกรรมการเล่นการพนัน การรักษาด้วยยาอาจมีส่วนช่วยได้บ้าง แม้ว่ายาเหล่านี้ยังไม่ได้รับการรับรองว่าสามารถใช้ได้ผล แต่การให้การรักษาร่วมกันระหว่างการรักษาโดยไม่ใช้ยาร่วมกับการให้ยา มีแนวโน้มที่จะทำให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุด นอกจากนี้ ควรรักษาโรคอื่นที่พบร่วมกับการติดการพนัน เช่น ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และ การติดสารเสพติดชนิดอื่น เช่น เหล้า บุหรี่ จะช่วยทำให้การติดการพนันดีขึ้นได้
กล่าวโดยสรุป การติดการพนันเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญอย่างหนึ่ง ซึ่งมีผลเสียที่รุนแรงตามมาไม่ว่าจะเป็นด้านครอบครัว สังคม หรือการเงิน การติดการพนันเป็นความผิดปรกติทางสมอง ที่สามารถคัดกรองผู้ที่มีความผิดปรกตินี้ได้โดยง่าย จากแบบคัดกรองต่างๆ การติดการพนันเป็นความผิดปรกติที่รักษาได้โดยการใช้พฤติกรรมบำบัด ร่วมกับการให้ยา
ที่มา : ซียูเมนทัลเฮลท์ดอตคอม
Update: 14-06-53
อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ