เลิกบุหรี่เริ่มที่บ้าน ตอนที่ 1
แฟ้มภาพ
“บุหรี่” นับได้ว่าเป็นปัญหาพื้นฐานของยาเสพติดที่นับวันจะระบาดมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันบุหรี่แพร่หลายมากขึ้นและสอดแทรกอยู่ในการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคน ซึ่งต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถกระทำได้ เพื่อไม่ให้อนาคตของเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติในการพัฒนาสิ่งต่าง ๆ สิ้นสุดลงไปกับบุหรี่และประชาชนในสังคมที่จะต้องประสบปัญหากับสุขภาพ ซึ่งมีสาเหตุมาจากบุหรี่
ดังนั้น โครงการเลิกบุหรี่เริ่มที่บ้านจึงเป็นโครงการหนึ่งในการดำเนินงานของ สสม. ในเฟส 5 ซึ่งถือเป็นโครงการเสริมที่จะเข้ามามีบทบาทในการช่วยรณรงค์และปฏิบัติการด้วยกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่ใน 5 อำเภอ (อำเภอเมือง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส อำเภอเมือง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี และอำเภอเมืองยะลา) ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งโครงการเลิกบุหรี่เริ่มที่บ้านมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างต้นแบบครอบครัวเลิกบุหรี่ เพื่อสร้างเครือข่ายอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่ และเพื่อสร้างความตระหนักและแรงบัลดาลใจให้ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่สามารถเลิกบุหรี่ได้ในที่สุด โดยใช้กลุ่มอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่ในชุมชนเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนกระบวนการต่าง ๆ จนสามารถทำให้คนในชุมชนเลิกบุหรี่ได้ในที่สุด
โครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2558 โดยเริ่มต้นด้วยการทำความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และเครือข่ายเภสัชกรอาสาพาเลิกบุหรี่ ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีในการที่จะช่วยกันรณรงค์รวมทั้งช่วยกันประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเกิดความตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ในอนาคตต่อไป
สำหรับกลไกที่สำคัญที่จะสามารถทำให้โครงการดังกล่าวสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ อย่างเห็นเป็นรูปธรรมก็คือ กลุ่มอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่ โดยเราจะคัดจากกลุ่ม อสม. ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบทบาทในชุมชนอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วมาเป็นกลไกในการขับเคลื่อนกิจกรรม โดย สสม. นำ กลุ่มคนเหล่านี้เข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่ อบรมเทคนิคการเลิกบุหรี่ในรูปแบบต่างๆ กับทาง สสม. หลังจากนั้นก็จะเข้าไปดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในชุมชนของตัวเองเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับขั้นตอนและกระบวนการที่จะทำให้ผู้ที่สนใจเลิกบุหรี่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้จริงๆ ก็คือ
1. สำรวจข้อมูลโดยเริ่มต้นสำรวจจากคนในครอบครัวและในชุมชนของตัวเองว่ามีผู้ที่สูบบุหรี่ทั้งหมดกี่คน
2. สอบถามข้อมูลเบื้องต้นและความสมัครใจของผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่เพื่อนำมาเข้าร่วมโครงการ
3. นำข้อมูลเบื้องต้นที่ได้มาสรุปและวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางและวิธีการทำให้ผู้สนใจเลิกบุหรี่สามารถเลิกบุหรี่ได้
4. วางแผนการติดตาม โดย สสม. ให้กลุ่มอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่เป็นผู้ที่ต้องคอยติดตามและให้คำปรึกษา คำแนะนำ และให้กำลังใจสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ พร้อมทั้งช่วยพาไปรักษาเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลในกรณีที่มีอาการขั้นรุนแรง และจะมีการเก็บข้อมูลความเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ ๆ ของแต่ละคน
5. ระยะเวลา 3 เดือนครั้ง ทีมงานอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่และทีมงาน สสม. จะมาพบกันเพื่อสรุปผลและพูดคุยถึงปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น และร่วมกันหาแนวทางเพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว 6. สรุปความสำเร็จและนำบุคคลที่เลิกบุหรี่ในโครงการมาเล่าประสบการณ์เพื่อเป็นแนวทางและเป็นตัวอย่างให้ผู้อื่นๆ ที่สนใจจะเลิกบุหรี่แต่ยังไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้มาศึกษาเป็นกรณีตัวอย่าง
ความสำเร็จของโครงการที่วางเป้าหมายไว้ คือ ให้มีคนเลิกสูบบุหรี่อย่างน้อยบ้านละคน เรามีตัวแทนอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่ที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 45 คน ดังนั้นอย่างน้อยเราก็จะได้คนเลิกสูบบุหรี่จำนวน 45 คน ถ้ากลุ่มอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่สามารถที่จะพาและทำให้คนเลิกบุหรี่บ้านละคนได้ตามที่กำหนดเป้าหมายไว้
ในอนาคตข้างหน้าจะพยายามขยายเครือข่ายอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่ให้ทั่วทุกอำเภอและถ้ามีโอกาสได้ทำงานนี้อีกในระยะยาวก็จะขยายเครือข่ายอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่เป็นรุ่นๆ ให้มีครบทั่วทั้งจังหวัด เพื่อจะได้มีกลุ่มอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่ที่จะเป็นกลไกในการช่วยคนที่ต้องการเลิกบุหรี่ให้สามารถเลิกบุหรี่ได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น และเพิ่มพื้นที่ในการทำงานเพื่อลดอัตราการสูบบุหรี่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มากขึ้น
ที่มา : แผนงานสร้างสุขมุสลิมไทย มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย(สสม.) โดย กัลยานา