เริ่มแล้ว!! ประชุมสุราระดับชาติ ครั้งที่ 6
นายกฯ ร่วมถก หนุน สสส.สร้างเครือข่ายประชาชนช่วยแก้
นายกฯ ส่งสัญญาณขึ้นภาษีเหล้า-บุหรี่ กันเหล้านอกไหลเข้าไทย เหตุเปิดการค้าเสรี ประกาศหยุดการบริโภคใน “เด็ก-ผู้หญิง” ปลื้ม สสส.นำเงินภาษีบาป เสริมงานภาคประชาชน “หมออุดมศิลป์” ชี้ บ.เหล้า หัวหมอ ใช้ช่องว่าง กม.ตีตลาดโฆษณาออนไลน์ เผยไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพประชุมแก้ปัญหาเหล้าระดับโลก
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 พ.ย. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ในการประชุมวิชาการสุราระดับชาติ ครั้งที่ 6 สุราในโลกเสรี จัดโดย ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มอบรางวัลบุคคลต้นแบบในการจัดการปัญหาสุรา ให้กับ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีผลงานด้านจัดการปัญหาสุราดีเด่น
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวในการเสวนาเรื่อง “ปฏิรูปนโยบายแอลกอฮอล์ ปฏิรูปอนาคตประเทศไทย” ว่า การหลักการแก้ปัญหาใหญ่ เช่น เอดส์ สุรา บุหรี่ หลักการสำคัญ คือ 1. ต้องกล้าเผชิญปัญหา 2.มีมาตรการหลากหลายรองรับ ทั้งจากมาตรการทางกฎหมาย และมาตรการทางสังคม อาทิ การสร้างค่านิยม การทำความเข้าใจกับประชาชน และ 3. ติดตามปัญหาอย่างต่อเนื่อง เพราะปัญหาเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลให้ความสำคัญคือ มาตรการทางด้านภาษีเพื่อจูงใจให้ลดการบริโภค ซึ่งรัฐบาลส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะต้องมีการขึ้นภาษีเหล้า บุหรี่ แม้ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ และจะต้องปรับขึ้นไปอย่างต่อเนื่องตามอัตราเงินเฟ้อ แต่ก็ต้องดูให้ไม่เกิดปัญหาสุราหนีภาษีมากขึ้น นอกจากนั้นการโฆษณาก็เป็นประเด็นสำคัญ เพราะเห็นได้ชัดว่าการห้ามโฆษณาได้ผลมาก
นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลกันว่าการเปิดการค้าเสรีแล้วจะทำให้ราคาเหล้านำเข้าถูกลง สามารถแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มภาษีในประเทศให้สูงขึ้น ส่วนปัญหาเรื่องการกำหนดฉลากตราสินค้าบนผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หากพิจารณาจะพบว่าไม่ได้เป็นมาตรการกีดกันทางการค้า เพราะไทยไม่ได้ปฏิบัติกับสินค้าจากต่างประเทศต่างจากสินค้าในประเทศ
“จุดอ่อนสังคมไทยคือ การบังคับใช้กฎหมาย ดังนั้นมาตรการที่จะต้องดำเนินการควบคู่กันไปคือการเสริมความเข้มแข็งของชุมชนโดยรอบ ช่วยกันสอดส่องดูแล นอกจากนั้นจะต้องมีมาตรการเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น ในเด็กและผู้หญิง ที่กำลังเป็นเป้าหมายทางตลาดใหม่ ทั้งนี้ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ผมก็ยังให้ความสำคัญกับปัญหาด้านสังคม และตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็เป็นประธานในคณะกรรมการชาติด้านสังคมด้วยตนเองทั้งหมด รวมทั้ง เป็นประธานบอร์ด สสส.และประธานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งส่วนหนึ่งก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจว่า มีกฎหมายให้อำนาจลงไปยังเครือข่ายประชาชน และนำเงินภาษีเหล้า บุหรี่ไปทำงาน และสามารถนำข้อเสนอแนะต่างๆ เสนอเข้าสู่ ครม. เพื่อพิจารณาและกำหนดเป็นนโยบายต่อไปได้” นายกฯ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนน ปัจจุบันการรณรงค์ถือว่าได้ผลและเป็นหัวใจที่ทำให้อุบัติเหตุลดลง ซึ่งการเกิดอุบัติเหตุพบสาเหตุว่า 1 ใน 3 มาจากการดื่มแอลกอฮอล์ โดยปีนี้ได้จัดเป็นวาระแห่งชาติด้านความปลอดภัยทางถนนมีการตั้งเป้าหมายลดอุบัติเหตุลง 30% และจะมีการตั้งเป้าในอนาคตให้ลดลงมาครึ่งหนึ่ง ทั้งนี้ แม้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะบังคับใช้ 2 ปี แต่ก็ยังมีปัญหาทางด้านเทคนิคในเรื่องการตีความไม่ตรงกัน โดยเฉพาะเรื่องการโฆษณา ก็จะต้องมีการหามาตรการที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสม แต่จำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นเป็นลำดับต่อไป
นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษากองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การรณรงค์ลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 8 ปีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนเข้าใจและตระหนักมากขึ้น จากการสำรวจ การงดเหล้าเข้าพรรษา 3 เดือน มีประชาชนเข้าร่วม 5 ล้านคน ลดค่าใช้จ่ายได้ถึงปีละ 3 หมื่นล้านบาท ขณะนี้ บริษัทเหล้ามีกลยุทธ์ทางการตลาดที่แยบยล โน้มน้าววัยรุ่นทุกวิธี เช่น การจัดคอนเสิร์ต การโฆษณาทางอินเตอร์เน็ตทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งแม้จะมีกฎหมายควบคุม แต่ก็ยังไม่ครอบคลุม ซึ่งต้องชื่นชม นายกฯ ที่มีความเข้าใจในมาตรการป้องกันประชาชนอย่างดี ซึ่งหากภาครัฐร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดนโยบาย ก็จะทำให้ประชาคมสามารถเดินหน้างานให้ประสบความสำเร็จได้ ซึ่งในปี 2554 ไทยจะได้รับโอกาสให้เป็นเจ้าภาพการประชุมวิชาการนโยบายควบคุมแอลกอฮอล์ระดับโลกครั้งแรก ซึ่งเกิดจากความเข้มแข็งในการทำงานที่ผ่านมา
ศ. โทมัส บาร์เบอ หัวหน้าภาควิชาแพทย์ศาสตร์ชุมชน มหาวิทยาลัยคอนเน็ตติกัท สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ประเทศอังกฤษ และรัสเซีย เป็นตัวอย่างของการกำหนดนโยบายด้านการควบคุมแอลกอฮอล์ไม่ได้ผล เพราะลดทอนนโยบายหลายประการให้อ่อนแอลง รวมถึงยอมให้มีการลดราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ประชาชนซื้อหาได้ง่าย และยอมให้โฆษณาเสรี นำไปสู่ปัญหาร้ายแรงคือมีผู้ดื่มมากขึ้น ที่อังกฤษโรคตับแข็งในผู้หญิงสูงขึ้นมาก ในรัสเซียอายุขัยเฉลี่ยของประชากรลดลงถึงสี่ปี แต่เมื่อมีการปรับนโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้มแข็งขึ้นก็ทำให้อายุขัยของประชากรกลับมาสูงขึ้น ขณะที่ประเทศศรีลังกาและไทยประสบความสำเร็จในเรื่องดังกล่าวอย่างมาก เพราะรัฐและสังคมให้ความสนใจ มีมาตรการที่หลากหลายออกมา อย่างไรก็ตาม อยากสนับสนุนให้แต่ละประเทศมีนโยบายการค้าที่คำนึงถึงเรื่องสุขภาพของประชาชน การทำการตลาดต้องคำนึงถึงทั้งในระดับเศรษฐกิจที่ต้องรักษาไว้ แต่ก็ต้องดูแลสุขภาพของประชาชนด้วย
ที่มา : สำนักข่าว สสส.
Update : 22-11-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน