เริ่มแล้ว! “ประชุมวิชาการอ้วนซัมมิท” ปี53

เครือข่ายคนไทยไร้พุง-ม.มหิดล-สสส. แนะสารพัดวิธีรีดน้ำหนัก

 

 

            อึ้งอีก 15 ปี พุ่ง 334 ล้านคน ชี้ตายเบาหวานมากกว่าเอดส์ 2 แสนด้าน”ผู้เชี่ยวชาญต่อมไร้ท่อ” แจ้งข่าวดี ใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน รักษาอ้วนได้ แต่ความต้องการทางเพศพุ่ง

 

เริ่มแล้ว! “ประชุมวิชาการอ้วนซัมมิท” ปี53

 

             เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เครือข่ายคนไทยไร้พุง และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงานประชุมวิชาการนานาชาติ (obesity summit) หรือ การประชุมอ้วนซัมมิท โดยภายในงานมีนักวิชาการ นักโภชนาการ และคณะแพทย์จากทั่วโลก เข้าร่วมงานกว่า 350 คน จากกว่า 10 ประเทศ

 

เริ่มแล้ว! “ประชุมวิชาการอ้วนซัมมิท” ปี53

 

             นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานว่า ภาวะอ้วนเป็นที่มาของการเกิดโรค เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิต ที่เป็นสาเหตุแห่งการเสียชีวิตในลำดับต้นๆ จากรายงานขององค์การอนามัยโลก พบว่า โรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยปี 2548 ได้มีการสรุปสถิติจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานทั่วโลกสูงถึง 194 ล้านคน และมีการประมาณการว่า จะเพิ่มสูงถึง 334 ล้านคน ในปี 2568 นอกจากนี้ปี 2547 ได้สรุปยอดผู้เสียชีวิตด้วยโรคเบาหวานสูง 3.2 ล้านคน ซึ่งมากกว่าอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคเอดส์ถึง 2 แสนคน ที่มีอัตราการเสียชีวิต 3 ล้านคนต่อปี และ ปี 2547 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้โรคเบาหวานเป็นโรคที่มีอันตรายสูงสุด

 

เริ่มแล้ว! “ประชุมวิชาการอ้วนซัมมิท” ปี53

 

             ศ.นพ.หลุยส์ โกเรน (Louis Gooren) ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อ Free University ประเทศเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า การใช้ฮอร์โมนบำบัดโรคอ้วน สามารถทำได้ในเฉพาะเพศชายที่มีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ( testoterone) ต่ำ ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้คือ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ( testoterone) ที่ได้จากการสังเคราะห์ในเพศชาย วิธีการรักษาคือ ฉีดเข้าไปที่กล้ามเนื้อ ซึ่งภายหลังการรักษาช่วยผู้ป่วยพบว่า มีมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น และมวลไขมันลดลง ซึ่งสรุปได้ว่า การให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสามารถรักษาโรคอ้วนลงพุงได้

 

เริ่มแล้ว! “ประชุมวิชาการอ้วนซัมมิท” ปี53

 

             ศ.นพ.หลุยส์ กล่าวว่า การรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน ไม่สามารถจะใช้ได้กับผู้ป่วยทุกคน ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยว่า ผู้ป่วยคนใดควรได้รับฮอร์โทนทดแทน จากนั้นแพทย์จะทำการฉีดฮอร์โมนเข้ากล้ามเนื้อ ส่วนผลข้างเคียงจากการใช้ฮอร์โมนทดแทนคือ ขนดก มีสิว และมีความต้องการทางเพศมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่า มีผู้ป่วยบางกลุ่มไม่สามารถใช้ฮอร์โมนทดแทนในการรักษาภาวะโรคอ้วนลงพุง ได้แก่ 1.ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก 2.ผู้ป่วยที่มีค่าพีเอาเอมากกว่า 4 นาโนต่อมิลลิลิตร 3.ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดข้นหรือความเข้มข้นของเลือดมากกว่า 55 4.% ผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับที่ยังไม่ได้รับการรักษา 5.ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจล้มเหลว ที่มีอาการของโรคหัวใจกำเริบเมื่อออกแรงเพียงเล็กน้อย หรือแม้ในขณะพัก อย่างไรก็ตาม การใช้ฮอร์โมนทดแทนเพื่อรักษาภาวะโรคอ้วน เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษาภาวะโรคอ้วน สำหรับวิธีการป้องกันภาวะอ้วนโดยทั่วไปคือ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแห้งและไขมัน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

 

เริ่มแล้ว! “ประชุมวิชาการอ้วนซัมมิท” ปี53

 

             ศ.นพ.สุรัตน์ โคมินทร์ ประธานจัดการประชุม กล่าวว่า การประชุมนานาชาติระหว่างวันที่ 4-6 ก.พ.นี้ ภายในงานมีนักวิชาการ นักโภชนาการ และแพทย์จากหลายภูมิภาคทั่วโลกมาร่วมประชุม นำเสนอผลงาน และแลกเปลี่ยนงานทางวิชาการ เพื่อหาทางป้องกันและแก้ปัญหาภาวะประชากรที่มีน้ำหนักเกิน หรืออยู่ในสภาพอ้วน เพราะภาวะดังกล่าวเป็นที่มาและเป็นพื้นฐานการเกิดโรคร้านอื่นๆ ทำให้เป็นสาเหตุการเสียชีวิตในลำดับต้นๆ ของผู้ที่เสียชีวิตจากโรคที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทั้งนี้นอกจากจะมีการประชุมวิชาการแล้ว ยังมีการเสวนาในหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ ทฤษฎีฮอร์โมนบำบัดในโรคอ้วน การคุมน้ำหนักในวัยรุ่น ภาวะอันตรายสู่ความปลอดภัยของสุขภาพ และในวันเสาร์ที่ 6 ก.พ.นี้ จะมีทีมแพทย์จาก กทม.มาให้บริการตรวจสุขภาพฟรีตลอดทั้งงาน อาทิ วัดความดัน ตรวจปริมาณมวลกระดูก และตรวจสมรรถภาพร่างกายฟรี รวมไปถึง นักโภชนาการคอยมาแนะนำเรื่องการอ่านฉลากอาหาร การพิจารณาฉลากอาหาร

 

 

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าว สสส.

 

 

Update 05-02-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : นพรัตน์ นริสรานนท์

Shares:
QR Code :
QR Code