เมืองท่องเที่ยว” หวั่นไข้หวัด 2009 มาช่วงปิดเทอม…
“ต.ท่าโสม” ดัน “พยาบาลน้อย” เป็นกำลังหนุน
แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะชะลอตัวลง แต่การระบาดในต่างจังหวัด ยังถือว่ามีความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะตามลักษณะของโรคระบาดจะเริ่มจากเขตเมือง ก่อนกระจายไปสู่ต่างจังหวัด
“ตราด” เป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออก ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลระดับแถวหน้าของเมืองไทย ที่มี “เกาะช้าง” เป็นจุดขาย ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้าออกพื้นที่อยู่ตลอด ประกอบกับการเข้าสู่ช่วงของการปิดภาคเรียนด้วยแล้ว ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่เชื้อไปตามที่ต่างๆ ได้ง่าย…การทำงานด้านการป้องกันโรคระบาด อย่างไข้หวัดใหญ่ 2009 จึงต้องมีความเข้มข้นเป็นพิเศษ
จากรายงานการเฝ้าระวังโรคไข้หวัด 2009 ของ จ.ตราด ถึงวันที่ 24 ก.ย.52 มีผู้ป่วยยืนยันการพบเชื้อ ซึ่งหายเป็นปกติแล้วรวม 253 ราย และการระบาดในช่วงสิงหาคมที่ผ่านมาได้ลดลงโดยไม่พบว่ามีผู้ป่วย แต่ล่าสุดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากลับพบผู้ป่วยเฝ้าระวังเพิ่มขึ้นอีก 22 ราย โดยในจำนวนผู้ป่วย 10 ราย อยู่ในพื้นที่อำเภอเมือง และ 7 ราย อยู่ในพื้นที่เกาะช้าง
“สัญญาณที่บ่งบอกว่าสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงก็คือ ยังมีรายงานตัวเลขของผู้ป่วยยืนยันอยู่ในหลายพื้นที่ แม้บางพื้นที่จะดูลดน้อยลงไปแต่ก็ไม่อาจบอกได้ว่าจำนวนผู้ป่วยจะกลับมา
เพิ่มขึ้นอีกหรือไม่”
น.พ.มงคล ณ สงขลา ประธานคณะอนุกรรมการสนับสนุนป้องกันและควบคุมแก้ปัญหาการระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวและบอกด้วยว่า ช่วงนี้เข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว เป็นช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดตามฤดูกาลอยู่แล้ว อาจทำให้สถานการณ์แย่ลงได้ จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษและจำเป็นอย่างยิ่งในการเร่งสร้างความรู้และกระตุ้นให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการควบคุมป้องกัน…เพราะประชาชนอาจกำลังจะชาชินและเฉยชากับสถานการณ์การระบาดที่ดูเหมือนจะสงบลง จนขาดการป้องกันและดูแลตนเอง !!!
น.พ.มงคล กล่าวว่า คณะอนุกรรมการฯ จะทำหน้าที่เชื่อมประสานหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะการเข้าไปทำงานร่วมกันกับ อบจ. อบต. และภาคีสร้างเสริมสุขภาพในจังหวัดต่างๆ ที่มีความพร้อมในการดำเนินการป้องกันไข้หวัด 2009 โดยเชื่อว่าหากผู้นำท้องถิ่นเอาจริงและประสานกับคนในชุมชน ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดโรคระบาดหนักขนาดไหนก็ตาม ก็จะช่วยเป็นเกราะป้องกันโรคภัยด้วยพลังชุมชน
ดังเช่นที่ ตำบลท่าโสม ได้ร่วมกับโรงพยาบาลเขาสมิง ดำเนินการฝึกอบรมนักเรียนในพื้นที่ให้เป็น “พยาบาลน้อย” รุ่นที่ 1 ซึ่งจะเป็นรุ่นแรกของประเทศ จำนวน 52 คน เป็นนักเรียนระดับ ม.3 จาก ร.ร.ชุมชนวัดท่าโสม และ ร.ร.บ้านอ่างกระป่อง เพื่อเป็นแกนนำเยาวชนทำงานรณรงค์ป้องกันไข้หวัด 2009 ในชุมชน โดยมีผู้นำชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุข สถานีอนามัย ที่ได้มีการทำงานกันอยู่แล้วเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และให้การอบรม
พระครูวิมล โสมนันท์ เจ้าอาวาสวัดท่าโสม กล่าวถึงแนวคิดในการจัดตั้งโครงการพยาบาลน้อย ว่า เราจะเห็นได้ว่างานพัฒนาชุมชนก็มีแกนนำชุมชน อสม. อบต. ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ได้ร่วมทำงานกันอยู่แล้ว จึงหาแนวทางที่จะนำเด็กในพื้นที่ที่มีจิตอาสาได้มีโอกาสเข้ามาทำงานเพื่อท้องถิ่นด้วย พร้อมทั้งยังเป็นการปลูกจิตสำนึกให้เด็กมีความรักท้องถิ่น โดยหลักสูตรของพยาบาลน้อย จะฝึกให้เด็กสามารถรักษาพยาบาลเบื้องต้นจากอุบัติเหตุ เช่น ทำแผล ดามกระดูกที่หัก หรือแม้แต่การนวดหัวใจ และทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยโรคเรื้อรังได้ เป็นการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพจากการพัฒนาเด็กให้มีความสามารถดูแลคนในครอบครัวและชุมชน นอกจากจะช่วยเพิ่มศักยภาพบำบัดรักษาแล้ว ยัง
ช่วยเพิ่มสายใยรักในครอบครัว และชุมชนด้วย
นางพินิดา ชลจิตร์นาวา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลเขาสมิง กล่าวว่า การพัฒนาพยาบาลน้อยจะเน้นการปฏิบัติจริงในการทำงานเพื่อคัดกรองผู้ป่วยไข้หวัด การรณรงค์แจกหน้ากากอนามัย การแจกเจลล้างมือ ส่วนเรื่องของความรู้ในการป้องกันโรคติดต่อ ได้ให้ความรู้ในการดูแลตนเองก่อน ว่าต้องป้องกันอย่างไร ออกไปในชุมชนคุณ
ต้องทำอย่างไร หรือหากตนป่วยเองจะปฏิบัติตนอย่างไรไม่ให้ไประบาดต่อคนอื่นอย่างไร ถ้าคนอื่นเป็นเราจะต้องทำอย่างไร นี่คือการป้องกันเบื้องต้น แล้วก็สอนให้แนะนำต่อ ทั้งเพื่อนทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่ ญาติพี่น้องทั้งหมด เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปบอกต่อ ซึ่งจะเป็นกระแสที่ช่วยลดในเรื่องการติดต่อของโรคได้ ให้ทุกคนตระหนักและป้องกันตนเองได้มากขึ้น และเด็กที่ผ่านการอบรมก็จะได้รับมอบเข็มที่ระลึกติดไว้ที่ปกเสื้อ เหมือนอย่างที่พยาบาลมีติดเอาไว้เป็นสัญลักษณ์ของวิชาชีพ ตรงนี้จะทำให้เด็กมีความรู้สึกภาคภูมิใจกับสิ่งที่ตนเองตั้งใจปฏิบัติ
“ในช่วงปิดเทอมนี้ พยาบาลน้อยจะแบ่งกลุ่มแยกย้ายไปทำงานกับ อสม. โดยจะร่วมเดินสำรวจ คัดกรองและรณรงค์ให้ความรู้ในการป้องกันโรคไข้หวัด 2009 ในพื้นที่ชุมชน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดตราดในช่วงปิดเทอมนี้ นอกจากนี้ พยาบาลน้อยยังสามารถให้การดูแลคนพิการ ผู้สูงอายุ และทำการคัดกรองโรคเบาหวานได้ด้วย” นางพินิดา กล่าว
โดยในอนาคตทาง อบต.ท่าโสม มีแผนที่จะสนับสนุนเงินทุนการศึกษาให้กับพยาบาลน้อย เพื่อสอบเข้าเรียนต่อสาขาพยาบาลและประกอบเป็นอาชีพในอนาคตได้ โดยจะพิจารณาใช้งบประมาณจากกองทุนสุขภาพชุมชนตำบลท่าโสมเข้ามาสนับสนุน ซึ่งมีแผนที่จะเตรียมงบให้แก่พยาบาลน้อยไว้ทุนละ 20,000 บาทต่อปีการศึกษา พร้อมจะมีการประเมินผลในปลายปี เพื่อพิจารณาว่าจะขยายโครงการผลิตพยาบาลน้อยรุ่นต่อๆ ไป
นับเป็นย่างก้าวสำคัญในการสร้างต้นกล้า “พยาบาลน้อย” ให้มีความเข้มแข็งเพื่อชุมชนเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับ “วิกฤติโรคระบาด” ที่ได้รับการต่อยอด โดยความคิดริเริ่มของชุมชนเอง
ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
Update: 12-10-09
อัพเดทเนื้อหาโดย: ภราดร เดชสาร
