เพื่อนช่วยเพื่อน

พลังเยาวชน3จว.ใต้

 

 

          ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังคงเกิดขึ้นแทบรายวัน กลายเป็นหมอกควันบดบังไม่ให้คนภายนอกสัมผัส หรือรู้จักพวกเขาในมุมอื่นๆ

 

 

เพื่อนช่วยเพื่อน

 

          รัฐบาลกรุงเทพฯ มักบอกว่า พรุ่งนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น แต่วันรุ่งขึ้นก็มีคนตายอีก” ดร.รุ่ง แก้วแดง นักการศึกษาชื่อดัง ผู้ก่อตั้งมูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง ที่ทำงานสร้างสันติสุขในชายแดนใต้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 กล่าวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในทุกวันนี้

 

          ในฐานะคนที่เกิดในพื้นที่และเลือกใช้ชีวิตบั้นปลายทำงานตอบแทนคุณให้บ้านเกิด ดร.รุ่งบอกว่า ปัญหาของ 3 จังหวัดชายแดนใต้มีตั้งแต่ด้านการปกครอง เศรษฐกิจ การศึกษา ศาสนา รวมถึงปัญหาของเด็กและเยาวชน

 

          เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน สภาวะที่เป็นอยู่ในปัจจุบันคือ เยาวชนกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาเจ้าหน้าที่ เป็นกลุ่มประชากรที่มีจำนวนมากแต่ขาดการศึกษา มีรายได้น้อย และยังมีเรื่องยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง

 

          เป็นเหตุให้มูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง ริเริ่มโครงการต่างๆ เกี่ยวกับเด็กและเยาวชนขึ้นมา หนึ่งในนั้นคือ “โครงการพัฒนา ขีดความสามารถขององค์กรเยาวชน” ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สนับสนุนอยู่

 

          ภายใต้แนวคิดพื้นฐานที่ว่า เยาวชนส่วนใหญ่เป็นคนดี พวกเขาต้องการมีส่วนร่วม   ในกิจกรรม รวมถึงต้องการ การยกย่อง ให้เกียรติ และให้โอกาสในการแสดงออกและการทำงาน

 

          กิจกรรมของโครงการเริ่มตั้งแต่ การนำเยาวชนจากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) แต่ละตำบลใน จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส มาเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดตั้งและบริหารองค์กร จากนั้นให้กลับไปรวบรวมสมาชิกให้ได้อย่างน้อย 60 คน ทั้งที่เป็นเยาวชนไทยพุทธและมุสลิม มาทำกิจกรรมร่วมกัน โดยใช้ศิลปะการแสดงพื้นบ้าน และกิจกรรมสร้างอาชีพเป็นตัวเชื่อม

 

          ผลที่เกิดขึ้นหลังดำเนินโครงการมาได้ 3 ปี คือ เยาวชนมีความเป็นผู้นำ มีจิตอาสาทำกิจกรรมหลายเรื่อง จากเด็กที่สังคมไม่ยอมรับเพราะมีการศึกษาน้อย กลายเป็นคนที่ผู้ใหญ่ในสังคมเชื่อถือ ที่สำคัญคือ เริ่มมีสัญญาณของความเป็น “เพื่อน” กลับคืนมาในชุมชน

 

          อับราน มอสู” ประธานองค์กรเยาวชน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี บอกว่า โครงการนี้ทำให้เยาวชนรู้จักคิดวิเคราะห์มากขึ้น และหันกลับมามองว่าชุมชนของตัวเองมีอะไรดีๆ บ้าง ณ วันนี้เยาวชนในทุกตำบลรู้จักบริหารจัดการ เอาสิ่งที่มีในชุมชนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

          เยาวชนมีพลังมหาศาล ถ้าเราไม่สนับสนุน เขาจะนำพลังนั้นไปใช้ในทางที่ผิด ถ้าเรามาใช้ถูกทาง พลังนั้นก็จะเป็นประโยชน์” อับรานให้ความเห็น

 

          ขณะที่ “รอกีเยาะ กาเซ็ง” ประธานองค์กรเยาวชน ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี บอกว่า ตั้งใจทำโครงการนี้ เพราะอยากพิสูจน์ให้เห็นว่าเด็กที่เรียน กศน.ก็มีความรู้ความสามารถ และอยากให้เห็นว่าเยาวชนก็แก้ปัญหาในชุมชนได้ ไม่ต้องหวังพึ่งความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่อย่างเดียว

 

          ปัญหาในชุมชนที่รอกีเยาะเล็งเห็น คือเยาวชนติดยาเสพติดกันมาก วัยรุ่น เริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุแค่ 10 ขวบ นำไปสู่การติดยาเสพติดประเภทอื่นๆ อีก เธอและเพื่อนจึงตั้งกลุ่ม “ดิเกฮูลู” และ “อนาซีด” เป็นการแสดงอย่างหนึ่ง เน้นร้องเพลงเกี่ยวกับศาสนา คุณธรรม และจริยธรรม เพื่อดึงเยาวชน ออกจากอบายมุขต่างๆ

 

          กิจกรรมของเราน่าจะทำให้เยาวชนละเว้นจากยาเสพติดได้ เพราะเลิกเรียนปุ๊บเขาจะมาซ้อมการแสดงทุกวัน ถ้าเราทำแล้วมีหน่วยงานอื่นๆ มาช่วยส่งเสริม มีงานให้เราไปแสดง มีเงินส่งเสริมมากขึ้น เยาวชนอาจจะไม่คิดถึงยาเสพติด แต่จะสนใจทำดิเกฮูลูให้ประสบความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไปอีก”

 

          ถามว่า เยาวชนอย่างเธอคิดเห็นอย่างไรกับปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ รอกีเยาะบอกว่า ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปัญหาเริ่มขึ้นจากจุดไหน แต่ความรู้สึกลึกๆ คือไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น

 

          บางทีเราทำกิจกรรมในหมู่บ้าน เรายังคิดเลยว่าทำโครงการนี้แล้วเราไปเหยียบจมูกใครเขาหรือเปล่า บางทีเรารู้สึกระแวง ไม่รู้ว่าใครคือต้นเหตุ ใครกำลังจ้องมองเราอยู่ แต่ที่ทำโครงการนี้เป้าหมายของ เราอย่างหนึ่งคือ อยากเห็นความสงบสุข เราไม่อยากให้พี่น้องเราหรือใครมาโดนยิงเพราะเหตุการณ์แบบนี้อีก”

 

          เช่นเดียวกับ “นิรุสมัน อาแว” ประธานองค์กร เยาวชน ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ที่บอกว่า ผลจากการตั้งวงดิเกฮูลูขึ้นมา และเปิดการแสดงในงานรื่นเริงของชุมชนตั้งแต่ 4 ทุ่มยันรุ่งเช้า เสียงปรบมือจากผู้ชมสามารถกลบเสียงปืน เสียงระเบิดได้ส่วนหนึ่ง

 

          นิรุสมัน บอกว่า สมาชิกส่วนใหญ่ของกลุ่มเป็นเยาวชนที่ติดยาเสพติดอยู่แล้ว แม้กระทั่งก่อนซ้อมการแสดง บางคนยังขอเวลาไปเสพยาก่อน และเขาก็อนุญาตให้ไป เพราะการรวมกลุ่มไม่ได้ทำเชิงบังคับ แต่จะย้ำว่า เมื่อมีการแสดงใหญ่ ทุกคนต้องลดเวลายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และให้เวลากับการซ้อมมากขึ้น เขาคิดว่า อย่างน้อยถ้าเยาวชนกลุ่มนี้อยู่กับเขา ความเป็นเพื่อนจะทำให้สามารถช่วยกันขัดเกลา ช่วยกันบอกเล่าถึงโทษของยาเสพติดให้เพื่อนเข้าใจได้

 

          ปัญหาของเยาวชนในบ้านเราอย่างหนึ่งคือ เยาวชนไม่ชอบให้ใครมาบังคับ ยิ่งบังคับเหมือนยิ่งยุ เราจึงต้องใช้วิธีขัดเกลาเขาในทางอ้อม ทุกคนมีความเชื่อว่า ความเป็นเพื่อนของพวกเราใน 3 จังหวัด สามารถสร้างสันติสุขกลับคืนมาได้”

 

          คิดง่ายๆ ว่า ถ้าเพื่อนเราเป็นผู้ก่อการร้าย เราเป็นหนึ่งในเพื่อนของเขา อย่างไรเสียเขาก็ต้องคิดว่าการที่จะสร้างสถานการณ์ให้มันเกิดขึ้น เขาอยากให้มันเกิดกับเพื่อนของเขาไหม  นี่คือเป้าหมายของเราในการสร้างเครือข่ายใน 3 จังหวัด เราคิดว่าความเป็นเพื่อนนี่แหละ  จะเป็นแนวทางที่สำคัญในการสร้างสันติสุข” นิรุสมัน เชื่อเช่นนั้น

 

 

 

 

 

 

ที่มา:  หนังสือพิมพ์ข่าวสด โดย วิภาวี จุฬามณี

 

 

 

 

update : 26-12-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร

 

Shares:
QR Code :
QR Code