เปิด 5 เคล็ดลับทาครีมกันแดด
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
แฟ้มภาพ
แสงแดดร้อนๆ ในฤดูนี้ มักทำให้หนุ่มๆ สาวๆ กลัวผิวจะเสีย ผศ.พญ.พัดชา พงษ์เจริญอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) มาแนะนำถึงวิธีรับมือกับแสงแดดในช่วงนี้ ด้วยการเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสม และทาครีมให้ครบทั้ง 5 ขั้นตอน
1. ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ขั้นต่ำที่ 50 (SPF 50) ค่าเอสพีเอฟจะเป็นข้อบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตบี (UVB) ที่ส่งผลให้ผิวไหม้จากแดด หรืออาจจะรุนแรงถึงขั้นเป็นตุ่มน้ำใสๆ ซึ่งต้องปรึกษาแพทย์ ดังนั้น ควรเลือกใช้ ครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟ 50 ขึ้นไป ซึ่งมีส่วนช่วยดูดซับรังสีได้ถึง 98% ขณะที่ ผู้ที่ทำงานในห้องแอร์ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟขั้นต่ำที่ 30 โดยตัวเนื้อครีมจะช่วยดูดซับรังสีได้ ประมาณ 96.7%
2. ทาครีมกันแดดที่มีค่า PA ระดับกลาง (PA+++) ค่าพีเอ (Protection grade of UVA) เป็นตัวบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตบี (UVA) ซึ่งจะส่งผลให้ผิวแก่กว่าวัย เหี่ยวย่น รวมถึงมะเร็งผิวหนัง ดังนั้น ควรเลือกใช้ครีมที่มีค่าพีเอระดับกลาง (PA+++) หรือสูงขึ้น เพื่อป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตบีในเบื้องต้น และเหมาะกับสภาพอากาศของไทยที่มีอุณหภูมิสูงอย่างต่อเนื่อง
3. ใช้ครีมประมาณ 1 ข้อนิ้วมือ ทาบริเวณผิวหน้าและ ลำคอ โดยแต้มครีมเป็นจุดๆ พร้อมเกลี่ยให้สม่ำเสมอทั่วบริเวณ เพื่อให้เนื้อครีมทำงานและซึมเข้าผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง เมื่อทำอยู่กลางแจ้ง ครีมกันแดดจะมีประสิทธิภาพป้องกันแดดเพียงระยะหนึ่ง กรณีที่จะต้องทำกิจกรรมกลางแดดเป็นเวลานาน จึงควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันผิวจากแสงแดด รวมถึงจุดด่างดำจากฝ้า กระแดด หรือการสะสมของเม็ดสีบนผิว ซึ่งในระยะยาวอาจจะก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้
5. ทาซ้ำทุกๆ 20 นาที กรณีต้องทำกิจกรรมเกี่ยวกับน้ำ ครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติกันน้ำ หรือ Water Resistant จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันแดด และคุณสมบัติป้องกันเนื้อครีม ถูกชะล้างไปกับน้ำได้เพียง 20 นาทีเท่านั้น ทั้งจากการที่ทำกิจกรรมแล้วเหงื่อออกหรือดำน้ำ ดังนั้น จึงควรทาซ้ำทุกๆ 20 นาที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเนื้อครีม.