เทศกาลไหมผูกเสี่ยวขอนแก่น

ต้นแบบประเพณีแห่งแรกของไทย

 

เทศกาลไหมผูกเสี่ยวขอนแก่น            เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคมที่ผ่านมา จังหวัดขอนแก่น จัดงาน “เทศกาลไหมประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดเป็นต้นแบบการจัดงานประเพณีที่ส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมประจำถิ่น เพื่อการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย โดยประกาศห้ามดื่ม ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริเวณงานไหม ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ถือเป็นการประกาศนโยบายเกี่ยวกับการจัดงานประเพณีวัฒนธรรมที่ปลอดภัยครั้ง แรกของจังหวัดขอนแก่น หลังจากที่มีการจัดงานไหมมาแล้ว 59 ปี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.พร้อมหนุนให้เป็นต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทย

 

            ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสืบสานและสร้างคุณค่าประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามประจำถิ่นของคนขอนแก่น ให้ปลอดภัยจากเครื่องดื่มที่เป็นอันตราย เพราะที่ผ่านมางานประเพณีวัฒนธรรมของทุกจังหวัดในภาคอีสานรวมถึงงานไหม จะมีการดื่มและขายเครื่องแอลกอฮอล์เป็นจำนวนมาก จนเกิดเหตุทะเลาะวิวาท อาชญากรรม อุบัติเหตุ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เป็นประจำทุกปี ทำให้ประชาชนที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ซึ่งมาพร้อมครอบครัวไม่ได้รับปลอดภัย และกลัวจะเกิดเหตุอันตรายต่างๆ จากเที่ยวงาน นอกจากนี้ คุณค่าของงานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามก็กำลังเสื่อมถอยลง งานกาชาดงานวิวาท งานบุญประเพณีอีสานเป็นงานกินเหล้าจนกลายเป็นงานเทศกาลท่องเที่ยวที่เสี่ยงภัย

 

            นายนิรุจน์ อุทธา ผอ.ศูนย์แก้ไขปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคอีสานตอนบน กล่าวในประเด็นนี้ว่า ต้องขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ที่ตัดสินใจประกาศนโยบายนี้ สอดคล้องกับผลการสำรวจความเห็นของหน่วยงานราชการและประชาชนในจังหวัดขอนแก่น พบว่า เห็นด้วยที่จะให้งานไหมเป็นงานที่มีความปลอดภัย และไม่มีการดื่มขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนเกิดการทะเลาะวิวาท 87.1% เห็นด้วยที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสินค้าที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อการเที่ยวงาน ร้อยละ 89.4% เห็นด้วยที่ไม่ควรรับการสนับสนุนจากบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 78.4% และเห็นด้วยที่รัฐบาลควรส่งเสริมการจัดงานประเพณีให้เป็นการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย 75.3%

 

            “ที่ผ่านมา งานท่องเที่ยวที่มีลักษณะเป็นงานประเพณีของแต่ละจังหวัด หรือที่เรียกว่างานกาชาดประจำปี กลายเป็นงานที่มีปัญหาด้านความปลอดภัย บางพื้นที่กลายเป็นงานลานเบียร์ ซุ้มยาดอง แหล่งประลองกำลังระหว่างคนเมากับเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ชาวบ้านที่พาครอบครัวไปเที่ยวก็เดือดร้อน ส่วนมากจะเลี่ยงไปเที่ยวตอนกลางวันเพราะเหตุผลความไม่ปลอดภัย วัยรุ่นส่วนใหญ่ชอบเสี่ยงภัยก็ไปเที่ยวกลางคืน กลายเป็นเทศกาลแห่งดื่ม เมาแล้วทะเลาะวิวาท บาดเจ็บและล้มตายเป็นจำนวนไม่น้อยในแต่ละปี จึงเห็นว่าเทศกาลงานเป็นเวทีแห่งการขาย การดื่มและการเที่ยว แต่เป็นการท่องเที่ยวที่เสี่ยงต่ออันตราย” นายนิรุจน์ กล่าว

 

            สำหรับการจัดงานไหมปีที่ 60 ถือเป็นมิติใหม่ที่ส่งเสริมและสร้างคุณค่าประเพณีไทย ให้ปลอดภัยจากเครื่องดื่มอันตราย เป็นต้นแบบการจัดงานประเพณีเพื่อการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย โดยอาศัยการบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 27 (3) มาตรา 31 (3) มาตรา 39, 40, 41 และ 42 ประกอบกับอำนาจการปกครองเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของทางราชการของผู้ว่า ราชการจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดด้วย

 

            มาตรการควบคุมการขายและดื่มบริเวณงานไหมปีนี้ นอกจากเน้นการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนแล้ว จังหวัดขอนแก่นยังได้แต่งตั้งคณะทำงานดูแลความปลอดภัยเพื่อเฝ้าระวังตลอด บริเวณงาน มีเครือข่ายเด็กเยาวชนร่วมรณรงค์และเฝ้าระวังการฝ่าฝืน และมีทีมเฉพาะกิจปราบแอลกอฮอล์ ดำเนินการจับปรับผู้ฝ่าฝืนที่ดื่มและขายบริเวณงานไหมอย่างจริงจัง รวมถึงการควบคุมลงโทษผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในงานไหมอย่างเด็ดขาดด้วย ทั้งนี้ มีการวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ ณ จุดอำนวยการหน่วยเฉพาะกิจปราบแอลกอฮอล์ (WAR ROOM) เพื่อแถลงข่าวทุกวัน

 

            สำหรับการประเมินผลนั้น มีหน่วยงานจากโรงพยาบาลขอนแก่น ประเมินผลกระทบด้านการบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาทและอุบัติเหตุ เปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประเมินความคิดเห็นของประชาชนผู้มาร่วมงาน และรูปแบบการจัดงานในอนาคต และเครือข่ายงดเหล้าเยาวชนจังหวัดขอนแก่น ประเมินผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากการจัดงานท่องเที่ยวที่ปลอดภัย เพื่อนำเสนอให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นต่อไป

 

            การจัดงานในปีนี้ถือเป็นมิติใหม่ เป็นต้นแบบการจัดงานประเพณีที่ส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมประจำถิ่น เพื่อการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย ไม่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มที่เป็นอันตราย ประชาชนที่มาร่วมงานได้รับความสุข ความประทับใจ จากการเข้าชมวัฒนธรรมอันดีงาม ซื้อสินค้า อาหาร ชมการแสดงที่หลากหลาย และร่วมกิจกรรมเสี่ยงโชคช่วยกาชาด และที่สำคัญคือทุกคนได้รับความความปลอดภัยจากการเที่ยวงานตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

 

 

Update 15-12-52

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

 

Shares:
QR Code :
QR Code