เตือนภัย! เกมออนไลน์
แฉ 10 เกมโหด ห่วงเด็กเลียนแบบ วอนทุกฝ่ายช่วยดูแล
ช็อกคาวงการข่าวอีกครั้งหลังเด็กมัธยมโรงเรียนแห่งหนึ่ง ก่อคดีสะเทือนขวัญฆาตกรรมโหดแท็กซี่โดยสาเหตุมาจากการลอกเลียนแบบพฤติกรรมในเกมออนไลน์ หรือแม้กระทั้งเหตุการณ์ที่เด็กเสียชีวิตในร้านเกมก็ตาม ทำให้หลายฝ่ายที่รับผิดชอบต้องหันกลับมาให้ความสำคัญกับระบบการปราบปราม และการกำกับดูแลอย่างจริงจังและเคร่งครัด ถึงปัญหาเรื่องเกมคอมพิวเตอร์กันอีกระลอกหนึ่ง
หากมองย้อนกลับไปถึงสถานการณ์อันเป็นปัญหาอย่างถ่องแท้แล้ว จะพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เด็กใช้เวลาในการเล่นเกมคอมพิวเตอร์มากเกินไป จนทำให้เสียการควบคุมในการจัดการเวลา และมีโอกาสเลียนแบบพฤติกรรมการเล่น อีกทั้งยังขาดเกมในเชิงสังสรรค์ให้กับเยาวชนไว้เป็นทางเลือกอีกด้วย
ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ ที่ล้วนเป็นหน่วยงานเกี่ยวข้อง ดูแลและรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวโดยตรง ต้องตื่นตัวกันเป็นพัลวัน เพื่อหาทางสกัดกั้น และป้องกันไม่ให้เกิดการเลียนแบบหรือเหตุการณ์อื่นๆ ตามมาอีก อาทิเช่น การขึ้นบัญชีดำ 10 เกมโหด ได้แก่
เกม 1.แกรนด์ เธฟต์ ออโต้ (GTA-Grand Theft Auto), 2.แมนฮันต์ (Manhunt), 3.สการ์เฟซ (Scarface), 4.ห้าสิบเซนต์ : บูลเลตปรูฟ (50 Cent : Bulletproof), 5.สามร้อย : เดอะวิดีโอ เกม (300 : The Video Game), 6. เดอะ ก๊อดฟาเธอร์ (The Godfather), 7.คิลเลอร์ 7 (Killer 7), 8.เรส ซิเดนต์ อีวิล 4 (Resident Evil 4), 9.ก๊อด ออฟ วอร์ (God of War) และ 10.ฮิตแมน : บลัด มันนี่ (Hitman : Blood Money)
หรือแม้กระทั้งการกำหนดเวลาในการเข้าร้านอินเตอร์เน็ตของเด็กและเยาวชน โดยการบังคับใช้กฎหมาย เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามเข้าร้านอินเตอร์หลังเวลา 22.00 น. หรือแม้กระทั้งในระบบเกมออนไลน์เองก็ตาม ที่ต้องให้มีการลงทะเบียนเล่นเกมโดยใช้รหัสบัตรประชาชนก็ตาม แต่มันก็ไม่สามารถควบคุมได้อย่างทั่วถึงแต่อย่างไร
ด้าน พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผกก.ศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ปัญหาเด็กและเยาวชนติดเกมนั้น ผู้ปกครองเป็นส่วนสำคัญในการที่จะช่วยสอดส่องดูแล ช่วยชี้แนะ ให้บุตรหลานเข้าใจว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี เพราะเด็กที่ติดเกมเมื่ออยู่บ้านก็มักจะจมปักอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่งผลให้ความรุนแรงของเกมซึมซับเข้าไปในจิตใจได้ง่าย ฉะนั้นแล้วผู้ปกครองจะต้อง คอยชี้แนะว่าเกมลักษณะนี้ไม่ดีลูกไม่น่าจะเล่น
“แต่ถ้าอยู่นอกบ้านตามร้านเกม ร้านอินเตอร์เน็ต ตำรวจนั้นคือสิ่งสำคัญที่สุด รวมทั้งผู้ประกอบการจะต้องมีจิตสำนึกที่ดีในการช่วยกันดูแลเด็กและเยาวชน อย่าหวังแต่จะกอบโกยผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว” พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ กล่าว
ด้านนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่เกิดนี้ทางกระทรวงวัฒนธรรมจึงได้ดำเนินโครงการ “ร้านเกมสีขาว เพื่อเยาวชน” ขึ้นเพื่อหวังแก้ปัญหาเด็กไทยติดเกมออนไลน์ ที่มีเนื้อหารุนแรง ลามกอนาจาร หรือสร้างความเสื่อมเสียต่อจริยธรรม พร้อมกับกวดขันเวลาเปิดปิดร้านอินเทอร์เน็ตตามที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อสังคมไทย มีร้านเกมที่ปลอดภัย เด็กสามารถใช้ในการศึกษา ค้นคว้าหาข้อมูล หรือใช้เกมเพื่อเป็นการผ่อนคลายสมองจากการเรียนได้ แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งผู้ปกครอง ผู้ประกอบการร้านเกมจะต้องดูด้วยว่า เกมที่เล่นพร้อมทั้งร้านเกมมีคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่ เช่น อยู่ในทำเลที่ตั้งปลอดภัย สามารถมองเห็นจากบริเวณภายนอก มีใบอนุญาตหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของตัวเด็ก
และเมื่อเร็วๆ นี้เองกระทรวงวัฒนธรรม ได้ร่วมจับมือกับผู้แทนจาก 19 องค์กร เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่าย รวม 1,500 คน ประกาศเจตนารมณ์ 90 วันลูกหลานไทยพ้นภัยเกม ทำสงครามปราบร้านเกมเถื่อน ร้านเกมที่เป็นแหล่งมั่วสุม และร้านเกมที่เป็นอันตรายรุนแรง และลามกอนาจาร ให้หมดไปภายใน 90 วัน ตั้งแต่วันนี้ – 21 พฤศจิกายน 51 เพื่อลดปัญหาเยาวชนไทยติดเกมลงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ตามนโยบายในการแก้ไขปัญหา 3 วิธี 1.ส่งเสริม 2.ป้องปราม และ 3.ปราบปราม ซึ่งถ้าหากตรวจสอบร้านเกมพบ ร้านเกมรายใดให้บริการเกมที่มีลักษณะรุนแรง และยังไม่ได้รับใบอนุญาต จะมีคำสั่งให้ร้านดังกล่าวเร่งขอใบอนุญาตและงดให้บริการเกมที่มีความรุนแรงโดยเด็ดขาดทันที
“ส่วนในเรื่องของสภาพแวดล้อมภายในร้านเกมบางแห่ง ยังต้องปรับปรุงอีกเล็กน้อย เช่น แสงสว่างภายในร้าน รวมถึงห้องน้ำไม่ควรอยู่ที่ลับตา อย่างไรก็ตามมีร้านเกมที่ยังไม่มีใบขออนุญาตในประเทศอยู่กว่า 5 หมื่นร้านทั่วประเทศ ดังนั้นจึงขอเชิญชวนร้านเกมที่ยังไม่มีใบอนุญาต ให้รีบมาขอใบอนุญาตภายในวันที่ 30 ส.ค.นี้ มิฉะนั้นจะมีโทษ ตามพ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 จะมีโทษปรับตั้งแต่ 100,000-500,000 บาท และร้านเกมที่นำเกมที่ไม่ผ่านการตรวจเซ็นเซอร์ หรือไม่มี ใบอนุญาตมาเผยแพร่ จะมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท และจะเร่งดำเนินการในทันที” รมว.กระทรวงวัฒนธรรม กล่าว
เห็นได้ชัดว่าปัญหาเด็กติดเกมไม่ใช่เป็นปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่มันเกิดมาเป็นเวลานานแล้ว แต่สุดท้ายทุกครั้งเมื่อข่าวคราว และกระแสเงียบหายไป เรื่องราวก็เงียบหายไปด้วย… ถึงเวลาแล้วที่บรรดาผู้ปกครอง รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ต้องหันมาเอาจริงเอาจังกับการปราบปราม กับร้านเกม ร้านอินเตอร์เน็ตที่ผุดทั่วทุกซอกทุกมุมของประเทศอย่างจริงจังเสียที ก่อนที่อนาคตของชาติจะติดเกม และก่อเหตุสะเทียนขวัญที่ไม่อาจคาดคิดขึ้นมาอีก !!!
เรื่องโดย : ณัฐภัทร ตุ่มภู่ Team Content www.thaihealth.or.th
Update 21-08-51