เตือนคนชอบปลาร้า เสี่ยงป่วยปลายประสาทอักเสบ

ที่มา : คมชัดลึก


ภาพประกอบจากเว็บไซต์คมชัดลึก


เตือนคนชอบปลาร้า เสี่ยงป่วยปลายประสาทอักเสบ thaihealth


จากการสำรวจพบว่าคนไทยบริโภคน้ำตาลเกินปริมาณที่จำเป็นต่อร่างกาย เฉลี่ยต่อรายสูงถึง 29 ช้อนชา ส่งผลให้เกิดปัญหาเรื่องรูปร่างและสุขภาพ


โดยช่วง 10 ปีที่ผ่านมาคนไทยป่วยเป็นโรคอ้วนและเป็นเบาหวานสูงถึง 79 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งหนึ่งในโรคแทรกซ้อนที่มักตามมาจากการเป็นเบาหวานคือ "โรคปลายประสาทอักเสบ" ล่าสุดเพจ "อย่าเฉยเมื่อเกิดอาการชา" ได้จัดกิจกรรมให้ความรู้ประชาชนในเรื่องของอาการชาโรคปลายประสาทอักเสบ มีการตรวจคัดกรองเบื้องต้นอาการชาโรคปลายประสาทอักเสบ ด้วยเครื่อง vibrometer พร้อมเสวนาหัวข้อ "วิตามิน B ต้านชา สำหรับ Hero ที่คุณรัก" แนะนำวิธีป้องกันและการดูแลตัวเองเมื่อมีอาการชาจากโรคปลายประสาทอักเสบ ปิดท้ายด้วยเวิร์กช็อป "ลูกบีบช่วยอาการมือชา" โดยใช้อุปกรณ์ง่าย ๆ อย่างถุงเท้า และถั่วเขียว ที่ห้องสมุด ชั้น 2 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เมื่อวันก่อน


ผศ.ดร.เอกราช บำรุงพืชน์  ภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยข้อมูลว่า คนไทยมีพฤติกรรมชอบอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม โดยเฉพาะรสหวาน ซึ่งพบว่าคนไทยชอบดื่มน้ำหวาน อาทิ ชา กาแฟ ชานมไข่มุก ที่มีปริมาณน้ำตาลมากกว่าที่ร่างกายต้องการ และจากการสำรวจพบว่าได้รับน้ำตาลสูงถึงวันละ 29 ช้อนชา ทำให้เป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวานสูงถึง 79 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่วนใหญ่อาจพบโรคปลายประสาทอักเสบเป็นหนึ่งในโรคแทรกซ้อน โดยผู้ป่วยมักจะมีอาการชาตามบริเวณปลายมือ ปลายเท้า ผู้สูงอายุก็เป็นอีกหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงเพราะมักพบภาวะขาดวิตามินเนื่องจากรับประทานอาหารได้น้อยกว่าคนปกติ อีกทั้งร่างกายยังดูดซึมวิตามินได้ลดลง


เตือนคนชอบปลาร้า เสี่ยงป่วยปลายประสาทอักเสบ thaihealth


"สำหรับผู้ที่ชอบกินอาหารประเภท ปลาร้า ใบชา ใบเมี่ยง หมากพลู และมังสวิรัติ ก็มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคปลายประสาทอักเสบเช่นกัน เนื่องจากอาหารประเภทนี้จะมีสารทำลายวิตามิน B1 ซึ่งเป็นวิตามินจำเพราะสำหรับการดูแลระบบประสาท หากรับประทานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ขาดวิตามินเหล่านี้ได้" ผศ.ดร.เอกราช ระบุ 


ผู้เชี่ยวชาญบอกด้วยว่า โรคปลายประสาทอักเสบมีสาเหตุมาจาก 1.เส้นประสาทมีอาการบาดเจ็บ เช่น ถูกกดทับหากนั่งเป็นเวลานาน 2.ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป 3.มีภาวะขาดวิตามิน B1, B6, B12 ผู้ที่เสี่ยงต่ออาการชาจากโรคปลายประสาทอักเสบ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่รับประทานอาหารเจ หรือมังสวิรัติ และผู้ที่ชอบเล่นมือถือหรือใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ส่วนอาการที่เกิดขึ้นบ่อยเมื่อเป็น "โรคชาปลายประสาทอักเสบ" เช่น มีอาการชาปลายมือ ปลายเท้า ชาปวดเหมือนเข็มทิ่ม และชาปวดแสบปวดร้อน


สำหรับการดูแลรักษาโรคปลายประสาทอักเสบนั้น ควรหลีกเลี่ยงการไขว้ขาและการนั่งในท่าที่อาจกดทับเส้นประสาท ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และรับประทานวิตามิน B1, B6, B12 อย่างเหมาะสม เพราะวิตามิน B มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมองและช่วยซ่อมแซมปลอกหุ้มเซลล์ประสาท

Shares:
QR Code :
QR Code