เติมเต็มศักยภาพลูกน้อย ด้วยรักจากพ่อแม่
พัฒนาการทางสมองของเด็กจะก้าวไกลได้ขนาดไหน ต้องมีปัจจัยหลายๆ อย่างเป็นตัวช่วยสนับสนุน และหนึ่งในปัจจัยนั้นก็คือ สิ่งแวดล้อม ซึ่งคุณพ่อ คุณแม่สามารถเข้ามามีส่วนช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านนี้ของลูกได้ด้วย แล้วสิ่งแวดล้อมนี้คืออะไร และจะพัฒนาสมองของลูกได้อย่างไร
สิ่งแวดล้อม คือ สิ่งต่างๆ ที่กระตุ้นประสาทสัมผัสทุกส่วนของมนุษย์ การได้ยิน การมองเห็น การได้กลิ่น การได้รส และการสัมผัส หากอยากให้การกระตุ้นสัมผัสมีอานุภาพมากยิ่งขึ้นจะต้องมีส่วนประกอบที่ดีเยี่ยม นั่นก็คือ บรรยากาศของความรักและความอบอุ่น ที่ท้าทายให้อยากรู้ อยากแสวงหาคำตอบ และบรรยากาศที่เปิดโอกาส ให้เด็กได้เรียนรู้ หรือเล่นอย่างอิสระ
ยิ่งเล่นกับลูกได้ถูกทางมากเท่าไร สมองของเขาก็ยิ่งพัฒนาได้มากยิ่งขึ้น ดังตัวอย่างการเล่นกับสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อพัฒนาการของลูก เช่น เล่นกับเสียง เช่น เสียงของแม่ เสียงเพลง ไวโอลีน เปียโน ขิม โมบายเสียง ฯลฯ เล่นกับการเล่า เช่น เล่านิทาน พร้อมกับดูหนังสือ รูปภาพประกอบ เล่นกับการเรียนรู้ กับกิจกรรมต่างๆ ที่มีส่วนร่วมทั้งพ่อแม่ลูก เช่น ปลูกต้นไม้ ไปพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทำอาหาร ดูแลสัตว์เลี้ยง ฯลฯ เล่นเป็นจิตรกร วาดภาพ ปั้นดิน ประดิษฐ์ของเล่น เล่นกับการเคลื่อนไหว การวิ่งกระโดดโลดโผน การปีนป่าย เล่นกับธรรมชาติ วิ่งไล่จับแมลง ไต่ขอนไม้ เล่นกับดิน เดินบนสนามหญ้า ปีนต้นไม้ เฝ้ามองธรรมชาติ ฯลฯ
สิ่งแวดล้อมในการเลี้ยงดู ที่มีผลต่อพัฒนาการด้านสติปัญญาของเด็ก นักวิจัยและสมาคมจิตวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา จัดตั้งกลุ่มทำงานขึ้นมาเพื่อศึกษาอิทธิพลของพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสติปัญญาของเด็ก ผลการศึกษาพบว่า ทั้งสองอย่างมีผลมากในการพัฒนาเด็ก ผลจากศึกษาจำนวนมากบอกว่า ความรัก ความเอาใจใส่ของพ่อแม่ที่มีต่อลูก โดยเฉพาะวัยทารกซึ่งสมองกำลังเจริญเติมโต สายใยอันซับซ้อนแห่งระบบประสาทเชื่อมต่อกันหนาแน่นขึ้น ทุกบททุกตอนมีความสำคัญ แม้แต่การเล่นจ๊ะเอ๋แต่ละครั้งก็จะช่วยพัฒนาสติปัญญาของลูกได้ พ่อแม่ควรจะรู้ว่าบทบาทของตนสำคัญมาก
เครก เรมีย์ ศาสตราจารย์ทางจิตวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยลาบามาเมืองมิวแฮม กล่าวว่า เด็กฉลาดเพราะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ โดยการผจญภัยโลกด้วยตนเอง และสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ เด็กมีข้อดีตรงที่พร้อมจะสำรวจสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เริ่มเรียนรู้สำรวจตั้งแต่นอนแบเบาะอยู่ในเปล ด้วยการจ้องมองสิ่งที่เห็นอย่างพินิจพิเคราะห์ ความอยากรู้อยากเห็นอย่างๆ ไม่มีขอบเขต อย่าหยุดที่จะพัฒนาลูกน้อย จงพัฒนาต่อไปเรื่องๆ จนกว่าลูกจะอายุ 10 กว่าปี โดยเฉพาะการพัฒนาพื้นฐานทางอารมณ์ ด้วยการอ่านหนังสือให้ลูกฟัง พูดคุย และเล่นกับลูก การพัฒนาสภาพแวดล้อมรอบตัว มีผลต่อการพัฒนาเด็กอย่างแน่นอน ความเอาใจใส่ที่พ่อแม่มีให้ อาจไม่ทำให้ลูกเป็นอัจฉริยะในระดับไอน์สไตน์ แต่ก็เปรียบได้กับปุ๋ยธรรมชาติที่จะช่วยปูพื้นฐานให้เด็กได้พัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ
ที่มา: มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก