เตรียมเสนอกฎหมายทำแท้งเข้าสภาฯ
นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการพบศพเด็กทารก 2002 ที่วัดไผ่เงินว่า ตนในฐานะส.ส.ฝ่ายนิติบัญญัติ เห็นว่าถ้าจะแก้ปัญหานี้ให้ตรงจุด จำเป็นต้องมีกฎหมายทำแท้งที่ถูกต้อง ด้วยความสมัครใจ และการร้องขอโดยมีเหตุจำเป็น ตนร่วมกับกลุ่มส.ส.ที่มีความคิดเห็นตรงกันจะศึกษาข้อมูลผลกระทบ และสิ่งที่ได้รับ เพื่อเสนอกฎหมายฉบับนี้ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสมัยหน้า
นายสาธิต กล่าวต่อว่า โดยจะใช้ชื่อว่า “กฎหมายทำแห้งโดยถูกต้องด้วยความสมัครใจและร้องขอโดยมีเหตุจำเป็น” ซึ่งจากการศึกษาเบื้องต้นมีหลักการดังนี้ คือ ให้ผู้ปกครองของผู้เยาว์ หรือผู้ตั้งครรภ์ สมัครใจและร้องขอต่อเจ้าหน้าที่ ว่าตนเองมีความจำเป็นที่จะขอทำแท้ง ยกตัวอย่าง 1.ตนและบิดาของทารกไม่มีความสามารถในการเลี้ยงดูเด็กหลังคลอดได้ เนื่องจากวัย ฐานะทางการเงิน สภาพแวดล้อม 2.เพราะถูกคนที่เป็นบิดาทอดทิ้ง และตนไม่มีความสามารถในการเลี้ยงดูบุตร 3. การถูกกระทำละเมิดกฎหมายด้วยการข่มขืน จนตั้งครรภ์ และสมัครใจไม่เอาทารกไว้ 4.ทารกในครรภ์มีปัญหาโรคติดต่อ 5.ทารกในครรภ์มีความผิดปกติ เกิดมาแล้วอาจพิการ หรือไม่ปกติ
(ข้อ.3,4,5. อาจจะมีกฎหมายกำหนดไว้แล้ว แต่ต้องนำมารวมในฉบับเดียวกัน)
นายสาธิต กล่าวต่อว่า ต้องตั้งหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ และเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อพิจารณาถึงเหตจำเป็น โดยหน่วยงานนี้มีอำนาจอนุมัติให้ทำแท้งได้ ตามหลักการของกฎหมายฉบับนี้ พร้อมทั้งต้องมีการเปิดให้มีการลงทะเบียนกิจการรับทำแท้งโดยถูกกฎหมาย หลังจากผ่านการพิจารณาของเจ้าหน้าที่แล้ว
นายสาธิต กล่าวว่า ประโยชน์ที่จะได้รับจากฎหมายฉบับนี้ทั้งทางตรงและทางออ้ม คือ 1.ลดการเสียชีวิตของมารดาที่มีทารกในครรภ์จากการทำแท้ง 2.แก้ไขปัญหาการมีบุตรในภาวะมารดาไม่พร้อม 3.ลดการกระทำความผิดของคลินิกรับทำแท้ง
ส่วนข้อสังเกตเพราะผู้สมัครใจและร้องขอในกรณีที่มีปัญหาจึงจะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง รัฐบาลไม่ต้องรับภาระในการดูแลตรงนี้
ส่วนประโยชน์ทางอ้อมคือ 1.ลดปัญหาสังคม ที่เกิดจากการมีประชากรที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งจากการเลี้ยงดูบุตรของครอบที่มีปัญหา 2. ลดปัญหาสังคมได้
ที่มา : พรรคประชาธิปัตย์
Update:23-11-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่