เตรียมเปลี่ยนสูตรยารักษามาลาเรีย หลังเริ่มพบสัญญาณเชื้อดื้อยา

กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเปลี่ยนสูตรยารักษามาลาเรียกับเชื้อชนิดเฉียบพลันใหม่ หลังเริ่มพบสัญญาณเชื้อดื้อยา ส่วนเชื้อเรื้อรังยังคงใช้ยาตัวเดิม

นายแพทย์วิชัย สติมัย ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคมาลาเรียซึ่งเป็น 1 ใน 4 โรคที่องค์การอนามัยโลก (who) ระบุว่า เป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข ประเทศไทยแม้จะมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง จนควบคุมได้ในระดับหนึ่ง ล่าสุดพบผู้ป่วยอยู่ในอัตรา 0.24 ต่อ 1,000 ประชากร หรือราว 24,700 ราย จากการเผ้าระวังผู้ป่วยตามแนวชายแดนไทยลาว พม่า กัมพูชา มาเลเซีย เพื่อเฝ้าระวังการดื้อยาใน 9 จุด คือ บริเวณชายแดนจังหวัดระนอง ราชบุรี กาญจนบุรี ตาก แม่ฮ่องสอน อุบลราชธานี จันทบุรี ตราด และยะลา

พบบางพื้นที่เริ่มมีสัญญาณการดื้อยาเล็กน้อย ในส่วนของเชื้อพลาสาสโมเดี่ยมฟัลซิปารัม ซึ่งเป็นเชื้อเฉียบพลันที่ทำให้เกิดเชื้อขึ้นสมองและตับวาย ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของเชื้อที่พบระบาดในไทย ส่วนเชื้ออีกครึ่งหนึ่งที่พบ คือพลาสาสโมเดี่ยมไวแว็ค ซึ่งเป็นเชื้อเรื้อรังที่ฝังอยู่ในตับ ยังไม่พบสัญญาณการดื้อยา

อย่างไรก็ตาม แม้สัญญาณการดื้อยาในเชื้อพลาสาสโมเดี่ยมฟัลซิปารัม จะเป็นเพียงร้อยละ 10 แต่เพื่อการป้องกันที่สมบูรณ์และเป็นไปตามเกณฑ์ ที่องค์การอนามัยโลกกำหนด คือประสิทธิภาพรักษาของยาต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 คือที่จันทบุรีและตราด พบประสิทธิภาพการรักษาของยาลดลงอยู่ที่ร้อยละ 87 จึงจะทำการเปลี่ยนยารักษามาลาเรียในกลุ่มเชื้อพลาสาสโมเดี่ยมฟัลซิปารัมใหม่ เป็นยาสูตรผสมระหว่างยาไดไฮโดร อาทิ มิซินีนกับยาพิเพอราควิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดซื้อและทำคู่มือการใช้ให้เจ้าหน้าที่ คาดจะเริ่มใช้ได้ในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้

ส่วนยาตัวเดิมคือยาอะดิโซเคดแมดไซควิน ที่องค์การเภสัชกรรมสามารถผลิตเองได้ จะยังคงใช้กับเชื้อพลาสาสโมเดี่ยมไวแว็ค ที่ไม่พบการดื้อยาต่อไปเหมือนเดิม

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์

Shares:
QR Code :
QR Code