เดินธรรมยาตรางดเหล้าเข้าพรรษา54 ถวายแด่ในหลวง
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
นับว่าเป็นเวลา 9 ปี เต็มแล้ว ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) พยายามที่จะขับเคลื่อนการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาโดยการเชิญชวนคนไทยทั่วประเทศร่วมทำความดีด้วยการตั้งสัจจะอธิษฐาน ลดละเลิกเหล้า ตลอดช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน
ล่าสุด ทาง สสส. และ สคล. ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย กรมการศาสนา และเครือข่ายด้านศาสนา กว่า 27 องค์กร จัดกิจกรรมเดินธรรมยาตรางดเหล้าเข้าพรรษา ขึ้น โดยเริ่มต้นเดินจากสวนสันติชัยปราการ ผ่านวัดชนะสงคราม ถนนข้าวสาร ถนนราชดำเนิน อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้าวัดสุทัศน์เทพวราราม และสิ้นสุดลงที่วัดสระเกศฯ(ภูเขาทอง) เพื่อเป็นการรวมพลังทำความดี เฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา
จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่คนไทย ซึ่งมีโอกาสน้อยลงทุกทีที่จะทำคุณงามความดี สามารถสร้างสิ่งที่ดีงามให้เกิดขึ้นกับตัวเองและครอบครัวได้ และยิ่งมีคุณค่าเพิ่มมากยิ่งขึ้นเมื่อกิจกรรมดังกล่าวนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่พสกนิกรไทยทุกผู้ทุกนามจะทำขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสที่พระองค์ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา
ในเรื่องนี้ พระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ ประธานฝ่ายสงฆ์ กล่าวเพิ่มเติมเพื่อให้เห็นความสำคัญของการงดเหล้าเข้าพรรษาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ว่า การเดินธรรมยาตรางดเหล้าเข้าพรรษานั้น เป็นการสร้างทางเลือกและเปิดพื้นที่สำหรับการเข้ามาร่วมทำดีของคนทั่วไปในมิติต่างๆ โดยเริ่มต้นจากการรักษาศีล 5 ซึ่งเป็นศีลธรรมขั้นพื้นฐานของมนุษย์ เช่น การไม่ดื่มสุราและสิ่งเสพติดต่างๆ โดยคนที่มาร่วมเดินจะมีโอกาสได้ร่วมบุญและเกิดแรงบันดาลใจในการนำกิจกรรมที่ตนเองเข้าร่วมครั้งนี้ไปปรับใช้กับวิธีการทำดีแบบต่างๆ ที่เหมาะสม
พร้อมกันนั้นก็จะได้แผ่ขยายบุญด้วยการเชิญชวนให้คนทั่วไป ร่วมแรง ร่วมใจ จนสามารถรวมเป็นพลังความดีเกื้อหนุนให้ประเทศไทยดำรงอยู่อย่างสันติได้ เพราะผู้รักษาศีลข้อ 5 ที่พึงละเว้นต่อการดื่มเครื่องดองของเมานั้นสามารถสั่งสมสติปัญญาให้เกิดขึ้นกับตัวเองซึ่งหากผู้ใดกระทำผิดศีลข้อที่ 5 คือ ยังคงเวียนว่ายตายเกิดอยู่กับอบายมุขที่เป็นเครื่องดองของเมา เขาเหล่านั้นก็จะกลายเป็นผู้ขาดสติ ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ สุดท้ายเมื่อขาดสติคนเราก็จะสามารถกระทำในสิ่งอื่นๆที่มีความเลวร้ายได้ต่อไปอย่างไม่มีความละอายต่อบาป และการกระทำของตัวเองซึ่งเท่ากับว่าคนผู้นั้นมีโอกาสที่จะละเมิดศีลข้ออื่นๆได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้มีตัวอย่างให้เห็นอยู่บ่อยครั้งในสังคมไทย ทั้งปัญหาทางคดีแพ่งหรืออาญา การเกิดอุบัติเหตุ พฤติกรรมที่ก้าวร้าว และการกระทำอนาจาร ปัจจัยหลักก็คือการขาดสตินั่นเอง
ด้าน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึง ความเคยชินของคนในสังคมที่มีต่อเครื่องดองของเมา ว่า ปัจจุบันการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กลายเป็นเรื่องปกติของทุกสังคมไปเสียแล้ว โดยแทบทุกงานเทศกาลต้องมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามามีส่วนประกอบจนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 26,000 คนต่อปีสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจปีละกว่า 1.5 แสนล้านบาท ขณะที่คนไทยต้องควักกระเป๋าซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปีละ 2 แสนล้านบาทดังนั้น โครงการงดเหล้าเข้าพรรษาถือเป็นทางเลือกและเปิดโอกาสให้บุคคลที่สนใจ อยากลด ละ เลิก การดื่มเหล้าในช่วงเข้าพรรษาได้ตระหนักถึงพิษภัยที่เกิดจากการดื่มของมึนเมา ซึ่งผลจากการรณรงค์ที่ผ่านมาทำให้มีผู้เข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้นจาก 15% ในปีแรกของการรณรงค์ เพิ่มขึ้นเป็น 55.1% ในปีที่แล้ว ทั้งนี้เชื่อว่าภายในปีนี้จะมีผู้ร่วมงดดื่มเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาหรือวันงดดื่มสุราแห่งชาติในปีนี้ นอกจากจะจัดกิจกรรมในกรุงเทพฯ แล้วยังมีอีก 37 จังหวัดที่ทำอย่างเข้มข้น อาทิ แพร่ ลำพูน ชุมพร สงขลาขอนแก่น สุรินทร์ สกลนคร และชัยภูมิ เป็นต้น โดยเครือข่ายงดเหล้าพร้อมที่จะขยายให้ครบทุกจังหวัดภายในปี 2555 ส่วนกิจกรรมรณรงค์งดเหล้าในจังหวัดต่างๆ ส่วนใหญ่จะเน้นการชวนเพื่อน ชวนครอบครัว ชวนญาติเลิกเหล้า และที่สำคัญคือการปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานราชการ ตำบล หมู่บ้าน ครอบครัว เข้าร่วมกว่า 40,700 แห่งทั่วประเทศ
ในโอกาสนี้ จึงอยากจะขอเชิญชวนผู้ที่ตั้งใจเลิกเหล้าเข้าพรรษา มาร่วมทำความดีด้วยการปฏิญาณตนร่วมกัน หรือชวนเพื่อนมางดเหล้าเข้าพรรษา โดยสามารถเข้าไปดูข้อมูลแนะนำการเลิกเหล้า รวมถึงการปฏิเสธเมื่อเพื่อนชวนดื่มเหล้า ได้ที่ www.facebook.com/Noalcoholreality เพื่อเป็นการทำบุญร่วมกัน พร้อมกับถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปีแห่งมหามงคลนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน