เครือข่ายรณรงค์หยุดการพนัน ขอตำรวจช่วยปราบนักพนันบอล
“เครือข่ายรณรงค์หยุดการพนัน” เดินสาย ยื่นจดหมายเปิดผนึก สตช. งัดไม้ตายปราบสิงห์พนันบอลโลก 2010 พบเว็บแทงบอลยังโผล่เพียบ โพลเผยเกือบครึ่งต้องการให้ตำรวจเร่งจัดการ
นายอิมรอน กล่าวว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามการเล่นพนันฟุตบอลโลก 2010 ทางเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของ เครือข่ายครอบครัว เครือข่ายเยาวชน เครือข่ายงดเหล้า เครือข่ายขบวนการตาสับปะรด ขอเสนอ 4 แนวทาง ดังนี้ 1. ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมาตรการปราบปรามการเล่นพนันฟุตบอลโลกอย่างเข้มข้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เช่นเดียวกับการดำเนินการของตำรวจนครบาล ที่มีมาตรการเชิงรุก โดยเฉพาะบริเวณใกล้สถานศึกษาเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้เข้าถึงแหล่งอบายมุข 2. ขอให้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดทุกรายจนถึงที่สุด โดยเฉพาะกรณีที่พบว่ามีการกระทำความผิดซ้ำและขอให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่พบว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง 3. ขอให้สั่งปิดเว็บไซต์ที่มีการเล่นพนันบอลทั้งหมด ทั้งนี้เครือข่ายฯ จะทำหน้าที่ในการเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสการเล่นพนันฟุตบอลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้มีมาตรการปกปิดและคุ้มครองผู้แจ้งข้อมูล
“จากที่เครือข่ายฯ ได้ค้นข้อมูลในเว็บไซต์กลูเกิ้ล (www.google.co.th) สุ่มพบเว็บไซต์ที่เปิดให้เล่นพนันบอลมากถึง 39 เว็บไซต์ ในจำนวนนี้มีเพียง 5 เว็บไซต์เท่านั้นที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้สั่งปิดไปแล้ว ดังนั้นจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งปิดทันทีตามอำนาจหน้าที่ของศูนย์ปฏิบัติการปราบปรามการเล่นการพนันทายผลฟุตบอลโลก 2010 นอกจากนี้ควรเฝ้าระวังที่อาจมีการกระทำผิดเพิ่มอีก 22 เว็บไซต์” นายอิมรอน กล่าว
นางกีรติกา แพงลาด ผู้แทนศูนย์ประสานงานเครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา (ศปค.)กล่าวว่า จากผลสำรวจ“พฤติกรรมและทัศนคติต่อการเล่นพนันฟุตบอลโลกปี2553” ที่ ศปค.ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)และศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สำรวจประชาชนอายุ 12-60 ปี เขตกรุงเทพฯ ชลบุรี นครราชสีมา เชียงใหม่ สงขลา จำนวน 2,541 ราย เมื่อวันที่ 4-14 พ.ค. 2553 พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความเชื่อว่า อุปสรรคที่ทำให้ ไม่มีการบังคับใช้กฎหมายกับผู้เล่นพนันฟุตบอล เพราะอำนาจอิทธิพลของเจ้ามือ/เจ้าของโต๊ะพนันบอล 66.2% มีการทุจริตของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 61.0 % บทลงโทษไม่รุนแรง 58.7% ขาดการแจ้งแหล่งมั่วสุม/การเล่นพนันในพื้นที่ 49.1% ขาดนโยบาย/มาตรการกำกับจากภาครัฐ39.7%
“กลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งหรือ 43.6% ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหาการพนันบอลมากที่สุด รองลงมา 24.1% เป็นรัฐบาล นอกจากนี้ส่วนใหญ่ยังเห็นด้วยหากมีการจัดสรรงบประมาณรายได้จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมาช่วยแก้ปัญหาในการเล่นพนันบอล เนื่องจากจะทำให้การเล่นพนันลดลง และเป็นการแก้ไขปัญหาสังคม เมื่อถามถึงข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาพนันบอล พบว่า 25.7% ต้องมีบทลงโทษที่รุนแรงและจริงจัง 17.4% ทำให้การพนันถูกต้องตามกฎหมาย 17.1% ออกกฎหมายที่เข้มงวด” นางกีรติกา กล่าว
แฟ้มภาพ
นายปารินทร์ หลังประเสริฐ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนไม่พนัน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจควรมีมาตรการคุมเข้มและเอาจริงเอาจังในการบังคับใช้กฎหมายให้มากกว่านี้ เนื่องจากครั้งที่ผ่านมามีการเล่นพนันฟุตบอลอย่างโจ่งแจ้ง ขณะที่เด็กเยาวชนที่ต้องการเล่นพนันบอลไม่เกรงกลัวกฎหมายในการจับกุมดำเนินคดี นอกจากนี้ยังมีเด็กเยาวชนหลายคนที่แอบเล่น และมีเพื่อนในห้องเรียนด้วยกันพบเห็นแต่กลับไม่กล้าแจ้งอาจารย์ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เอาผิดเพราะเกรงว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับตัวเอง ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควรมาดูแลความปลอดภัยให้กับเด็กเยาวชนในเรื่องนี้ด้วย
ขณะที่ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นปัญหาในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจคือ เจ้าของเว็บไซต์พนันบอลเป็นคนไทย แต่ฉวยโอกาสไปใช้บริการให้เช่าพื้นที่เว็บไซต์ (Web Hosting) ในต่างประเทศเพื่อเปิดเว็บไซต์ให้เล่นพนันบอล จึงทำให้การสั่งปิดเว็บไซต์ทำได้ยาก อย่างไรก็ตามหากประชาชนพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่ จะต้องถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด พร้อมขอความร่วมมือประชาชนหากพบเบาะแสการเล่นพนันทายผลฟุตบอล สามารถแจ้งได้ทางหมายเลข 191 หรือ 02-354-5933
ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
Update : 11-06-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : คีตฌาณ์ ลอยเลิศ