เก็บรัดอวัยวะเพศ ไม่เกิดมะเร็ง
ที่มา : MGR Online
แฟ้มภาพ
หมอเผย "แต๊บอวัยวะเพศ" ไม่ทำให้เกิดมะเร็ง เว้นเกิดแผลเรื้อรัง มีการหมักหมม ระบุก่อนลุกลามเป็นมะเร็งต้องมีภาวะเนื้อตายก่อน คาดมีหลายสาเหตุ เผยมะเร็งองคชาติมักเกิดจากการหมักหมม ติดเชื้อไวรัสเอชพีวี แนะหมั่นรักษาความสะอาดอวัยวะเพศช่วยป้องกันได้
นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลับเชียงใหม่ ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินปัสสาวะ กล่าวถึงกรณี “แพนเค้ก” เน็ตไอดอลสาวประเภท 2 ที่มีชื่อเสียงจากการถ่ายแบบแนวสนุกเฮฮาตามทุ่งนา กำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งที่อวัยวะเพศชาย โดยระบุว่า ที่ผ่านมาได้ทำการเก็บรัดอวัยวะเพศของตัวเองหรือแต๊บตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนหลับ ว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยได้รับรายงานว่ามีการป่วยเป็นโรคมะเร็งที่อวัยวะเพศชายเกิดจากการแต๊บ ยกเว้นว่าเกิดเป็นแผลเรื้อรัง และมีการหมักหมม แต่ปัญหาคือหากเป็นแผลจริงต้องเจ็บปวดมาก ต้องมาทำแผล ทำความสะอาด ดังนั้น สาเหตุนี้เลยดูเหมือนไม่ตรงไปตรงมา ส่วนตัวไม่คิดว่าน่าจะเป็นสาเหตุยกเว้นว่าหมักหมม
นพ.บรรณกิจ กล่าวว่า มะเร็งที่อวัยวะเพศชายเกือบ 100% เกิดจากความสกปรก โดยเฉพาะผู้ที่หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศไม่เปิด ไม่ได้ขลิบหนังหุ้มปลาย เป็นเหตุให้ทำความสะอาดยาก เกิดการหมักหมม แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะก่อโรคได้ แต่ละคนไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ จะเกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวี แต่ต้องบอกว่าจริงๆ ก็ต้องเกิดจากการหมักหมมแล้วมีเชื้อไวรัสนี้เข้ามาแทรก
ทั้งนี้ผู้ชายสามารถสังเกตตัวเองได้ เช่น มีกลิ่นเหม็น มีก้อน หนังหุ้มปลายฯ ไม่เปิด มีเลือด มีหนองไหลออกมาจากปลายอวัยวะเพศขอให้รีบมาพบแพทย์ ส่วนการรักษานั้นหากเป็นระยะเริ่มต้น อาจจะต้องผ่าตัดบางส่วนที่เป็นมะเร็งออก บางกรณีต้องตัดอัณฑะทิ้ง หรือให้ยาเคมีบำบัดเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันโรคขอให้หมั่นดูแลรักษาความสะอาด หากหนังหุ้มไม่เปิดก็มาพบแพทย์เพื่อทำการขลิบเปิดหนังหุ้มปลายได้
นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวัฒโนสถ และที่ปรึกษาสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า การแต๊บไม่ใช่สาเหตุของการเกิดมะเร็ง เพราะมะเร็งมีหลายปัจจัย ส่วนใหญ่ของชายรักชายจะมีปัญหามะเร็งทวารหนัก ส่วนมะเร็งองคชาตหรืออวัยวะเพศชาย จะมาจากการหมักหมมของเชื้อโรค โดยเฉพาะโอกาสเกิดจากเชื้อเอชพีวี ซึ่งเป็นเชื้อชนิดเดียวกับมะเร็งปากมดลูก (Human papilloma virus infection) สรุปคือ การเกิดมะเร็งมีหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ "การแต๊บ" หรือเทคนิคการอำพรางอวัยวะเพศเท่านั้น ยกเว้นถ้าไม่รักษาความสะอาดเกิดการหมักหมมก็อาจทำให้ติดเชื้อและแปรสภาพเป็น เนื้อร้าย
นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า ต้องเช็กก่อนว่ามะเร็งที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุอะไร และการที่ระบุว่าเป็นเพราะการแต๊บ ก็ต้องย้อนถามกลับว่ามีแพทย์ยืนยันสาเหตุหรือไม่ เนื่องจากข้อมูลทางการแพทย์ไม่มีหลักฐานว่าการแต๊บจะทำให้เป็นมะเร็ง อีกทั้ง แม้จะมีการหมักหมมจนก่อให้เกิดเชื้อโรคอักเสบ ก่อนจะลุกลามเป็นมะเร็งก็ต้องมีภาวะเนื้อเสีย เนื้อตาย ไม่ใช่อยู่ๆ จะกลายเป็นมะเร็ง และต้องมีหลายสาเหตุด้วย