เกษตรผสมผสาน ชีวภัณฑ์ ทางใหม่ที่ใช่

 

เกษตรผสมผสาน ชีวภัณฑ์ ทางใหม่ที่ใช่

 

 

อาจฟังดูตลกสำหรับใครหลายคน กับคนที่มีชื่อเล่นละม้ายจะเป็นชื่อจริง อย่างพี่สมหมาย ที่มีชื่อจริงว่า เชี่ยวชาญ พาให้คนที่ได้ยินได้รู้จักเป็นครั้งแรกพากันสงสัย

“พ่อตั้งให้มาแบบนี้ก็เรียกแบบที่พ่อผมตั้งให้นี่แหละ” สมหมาย ผู้ทำเกษตรแบบผสมผสานในตำบลคอรุม อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ตอบแบบพาซื่อ

จุดเริ่มต้นนั้น ต้องเท้าความไปถึงสมัยก่อน ที่ดินทั้งหมดของสมหมายปลูกพริก แล้วเกิดโรค เขาจึงเปลี่ยนมาทำนาอย่างเดียว เมื่อประมาณปี 2551 ก็เกิดแมลงระบาดอีก ข้าศึกประชิดตัวรอบทิศ ทั้งปุ๋ยก็แพงยาก็แพง ตอนนั้นสมหมายมืดเก้าด้าน จึงมุ่งหน้าไปที่ ‘ศูนย์เรียนรู้โรงเรียนข้าววิสาหกิจชุมชนบ้านคลองกล้วย’ ที่ซึ่งเสมือนเป็นโรงเรียนของชาวนา

“ผมได้เรียนรู้การใช้สารชีวภัณฑ์จากที่นั่น ตอนนั้นเริ่มลงพืชผักไว้บ้างแล้ว ตอนแรกผมเอาสารสะเดาน้ำมาฉีดผัก ปรากฏว่า ผักรสชาติขมไปหมด สารสะเดาน้ำ เราฉีดใส่ผักไม่ได้นะครับ ผักมันจะขม ต้องใช้น้ำส้มควันไม้แทน” สมหมายเล่าให้ฟัง

เริ่มลงมาสำรวจตรวจนับในนาข้าวตามหลักสูตรที่ได้เรียนมา แต่สมหมายเลือกที่จะไปไกลกว่านั้น เขาสำรวจตรวจนับธรรมชาติของตนเอง และคนรอบข้างด้วย

“ผมเริ่มคิดว่า การทำข้าวมันต้องรอถึง 4 เดือน กว่าจะมีรายได้ แต่ผลไม้ และพืชผักมันได้เรื่อยๆ พอพืชตัวนี้ออกดอกผล ก็เอาไปขายที่ตลาด มันจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกดอกออกผลเรื่อยๆ แล้วแม่บ้านผมก็ชอบค้าขาย ก็เอาไปขายที่ตลาด จากนั้นก็เลยทำเกษตรผสมผสาน แล้วลดการปลูกข้าวเหลือ 2 ไร่ ไว้กินเอง นอกนั้น ผมก็ปลูกพืชผักผลไม้ไว้ขายเป็นหลัก”สมหมายเล่าอย่างอารมณ์ดี

บนที่ดินกว่า 6 ไร่ ของสมหมาย มีนาข้าว 2 ไร่ ที่เหลือ 4 ไร่ ปลูกฝรั่ง พริก มะนาว มะพร้าว ขนุน มะปราง มะม่วง สะเดา มะละกอ ดอกแค กะเพรา โหระพา ตะไคร้ น้อยหน่า ทับทิม ทำบ่อปลา และปลูกดอกไม้ไว้ไหว้พระ สมหมายใช้สารชีวภัณฑ์เป็นหลัก นอกจากจำเป็นจริงๆ จึงจะใช้สารเคมี

“ผมปลูกดะไปหมด ทำผสมผสานแล้วรู้ได้ว่า พืชตัวไหนไม่ถูกกับตัวไหน ถ้าสมมุติมันไม่ถูกกับพืชตัวนี้ เราก็ล้มมันแล้ว ลองปลูกอย่างใหม่ คือเราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อ เราลองปลูก ถ้ามันตายเราก็จะรู้ว่า…อ๋อ ไอ้ตัวนี้ไม่ชอบอยู่ใกล้ไอ้ตัวนี้ แต่ความจริงพืชผลทุกอย่างอยู่ร่วมกันได้ ขนาดวัชพืชมันยังอยู่กับเขาได้” สมหมายเพิ่มเติม

เมื่อปลูกพืชผลได้ เหลือจากขาย สมหมายมักนำผลผลิตไปให้เพื่อนบ้านหลังข้างเคียง ส่วนเพื่อนบ้านก็มีพืชผลให้สมหมายเป็นการตอบแทน

“มันแปลกนักรึ กะอีแค่การเอาโหระพาไปแลกพริก เรื่องว่าแลกแล้วจะกลัวไม่คุ้ม เพราะของของเราปลูกยากกว่า…ไม่มีหรอกครับ ไม่ได้คิดระบบนั้น จะปลูกยากปลูกง่าย ผมไม่ว่า เราไม่เน้นที่มูลค่าของมัน ความเป็นเพื่อนมันไม่เกี่ยวกับราคา เราเป็นเพื่อนกัน เป็นญาติกันแบ่งกันได้” สมหมายฉายภาพวิถีชีวิตแถบนั้น

น้องเก็ต-หลานสาววัยประถมต้นของสมหมายนำเอาฝรั่งมาให้ และอวดมะนาวขนาดลูกตะกร้อให้ชม คล้ายเป็นเครื่องย้ำยืนยันว่า วันนี้ เขาได้เดินมาถูกทางแล้ว

 

 

ที่มา : ปันสุข

Shares:
QR Code :
QR Code