อึ้ง 5ปีคนไทยป่วยเบาหวานรายใหม่พุ่ง1.6ล้านคน
ที่มา: เว็บไซต์เดลินิวส์
แฟ้มภาพ
กรมควบคุมโรค เผย แค่ 5 ปี คนไทยป่วยเบาหวานรายใหม่พุ่ง 1.6 ล้านคน ห่วง เกือบครึ่งไม่ไม่รู้ตัวว่าป่วย แนะคุมอาหาร น้ำหนักตัว คนในครอบครัวช่วยดูแล สังเกตอาการ โดยเฉพาะการเกิดบาดแผล
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคเบาหวานเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากรายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย พบว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ป่วยด้วยโรคเบาหวาน เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านคน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หรือจากผู้ป่วย 3.2 ล้านราย ในปี 2552 เป็น 4.8 ล้านรายในปี 2557 และพบว่าผู้ป่วยเบาหวานร้อยละ 43.2 ไม่เคยได้รับการวินิจฉัยมาก่อนและไม่ทราบว่าตนเองป่วยเป็นโรคเบาหวาน นอกจากนี้ ยังพบว่าร้อยละ 78.5 หรือมากกว่า 3 ใน 4 ของผู้ป่วยจะมีโรคความดันโลหิตสูงร่วมด้วย
นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า ในช่วงการรณรงค์วันเบาหวานโลก ปี 2561 นี้ สหพันธ์โรคเบาหวานนานาชาติ ได้กำหนดประเด็นการรณรงค์ คือ “The Family and Diabetes” ส่วนของไทยก็สอดคล้องกัน คือ “เพราะครอบครัวเป็นส่วนสำคัญในการรักษาเบาหวาน” ทั้งนี้หากครอลครัวมีความรู้ ความเข้าใจก็จะช่วยให้ผู้ป่วยดูแลตัวเองได้ดีขึ้น สำหรับกรมควบคุมโรคเองนั้นจะมีได้ดำเนินการตรวจคัดกรองโรคเบาหวานในประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไป เพื่อค้นหาประชากรกลุ่มเสี่ยง กลุ่มป่วยเข้ารับบริการดูแลรักษา พร้อมทั้งปรับคุณภาพการบริการในสถานบริการให้มีคุณภาพ รวมถึงพัฒนาศักยภาพทีมสหวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในเอ็นซีดีคลินิก เพื่อสนับสนุนให้ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถจัดการตนเอง ปรับเปลี่ยนให้มีพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม ทำให้การควบคุมโรคได้ดีขึ้น
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับการป้องกันโรคเบาหวาน สามารถทำได้ดังนี้ 1.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักและผลไม้ที่หวานน้อย หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง อาหารหวาน มัน และเค็มจัด 2.งดสูบบุหรี่ 3.ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 4.ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม และควรมีค่าดัชนีมวลกายให้อยู่ระหว่าง 18.5-22.9 กิโลกรัม/ตารางเมตร 5. ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที/วัน หรือสะสมได้ 150 นาที/สัปดาห์ 6.ทำจิตใจสดชื่นและผ่อนคลาย 7.ถ้าสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคเบาหวานควรดูแลและใส่ใจเรื่องการควบคุมอาหาร การกินยา ตรวจตามนัด และสังเกตอาการผิดปกติเบื้องต้นโดยเฉพาะการเกิดแผลที่เท้า 7.หากมีอาการปัสสาวะบ่อยและมาก คอแห้งกระหายน้ำ หิวบ่อยกินจุ น้ำหนักลด เป็นแผลง่าย หายยาก คันตามผิวหนัง ตามัวและชาตามปลายมือปลายเท้า ควรไปพบแพทย์ 8.ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1422.