อึ้ง…ยุโรปประเมินไทยเป็นตลาดเหล้าใหญ่เป็นที่ 8

นักวิชาการชี้ จัดการได้ ช่วยลดการทำแท้งลงปีละ 31.5%

 

อึ้ง…ยุโรปประเมินไทยเป็นตลาดเหล้าใหญ่เป็นที่ 8 

            เริ่มแล้ว งานประชุมวิชาการสุราระดับชาติ ครั้งที่ 6 ถกปัญหาสุราในโลกเสรี ศวส. เร่งระดมนักวิจัย นักวิชาการ นักรณรงค์ภาครัฐและเอกชน นำแผนยุทธศาสตร์แอลกอฮอล์แห่งชาติ และแผนยุทธศาสตร์โลกมาดำเนินการอย่างจริงจัง ชี้แนวโน้มสุรานำเข้ารุนแรงขึ้น บ.เหล้ารุกหนัก  ไทยตกเป็นเป้าขยายตลาด บริษัทเหล้ายุโรป ประเมินไทยเป็นตลาดใหญ่อันดับที่ 8  นักวิชาการชี้ จัดการแอลกอฮอล์ได้ วัยรุ่นทำแท้งลดลงปีละ 31.5%

 

            เมื่อเวลา 11.20 น.วันที่ 22 พ.ย. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นท์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการสุราระดับชาติ ครั้งที่ 6สุราในโลกเสรี : Alcohol Ploblems in the Globalized World” จัดโดย ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) โดย ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)  กล่าวว่า แนวโน้มทั่วโลกให้ความสำคัญการป้องกันและจัดการกับปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น ล่าสุดที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลก ครั้งที่ 63 ปี 2553 มีมติรับรอง ยุทธศาสตร์โลกเพื่อจัดการปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเป็นคำแนะนำให้แก่ประเทศสมาชิก 192 ประเทศ ใช้จัดการปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดการเจ็บป่วย เสียชีวิต ลดผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  สำหรับประเทศไทย ที่ประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในปี 2552 ได้รับรองแผนยุทธศาสตร์แอลกอฮอล์ระดับชาติ และต่อมาได้รับการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนปฏิบัติการ  

 

            นพ.ทักษพล ธรรมรังสี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) กล่าวว่า จากข้อมูลการนำเข้าและผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วง 13 ปี ที่ผ่านมา พบว่า สุราต่างประเทศ มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นลำดับ 3 รองจากเบียร์ และสุราขาว  และมีแนวโน้มการนำเข้าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 19.98 ล้านลิตร ในปี 2538 เพิ่มขึ้นเป็น 156.2 ล้านลิตรในปี 2551 หรือเพิ่มถึง 7.8 เท่า ในอนาคตไทยมีแนวโน้มการเปิดเขตการค้าเสรีเพิ่มขึ้น  เมื่อพิจารณาจากการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน  ซึ่งไทยได้ลดภาษีศุลกากรลง 12 เท่า ส่งผลให้ส่วนแบ่งของตลาดสุรานำเข้าเฉพาะอาเซียนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน 

 

            อุตสาหกรรมสุราขยายตัวอย่างรวดเร็วทั่วโลก ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงมีการแข่งขันที่รุนแรง เน้นการขยายการลงทุนไปในตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งประเทศไทย เป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ สมาคมผู้ผลิตสุราในสหภาพยุโรป ระบุว่าประเทศไทย มีขนาดตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใหญ่ในเชิงปริมาณเป็นลำดับ 8  ถ้าเชิงมูลค่าถือเป็นลำดับที่ 18 มีมูลค่าการตลาดอยู่ที่ 72 ล้านเหรียญยูโร หรือ 3,000 กว่าล้านบาท ทำให้ประเทศไทยเป็นที่หมายปองในการขยายตลาด โดยบริษัทข้ามชาติเหล่านี้ จะใช้การส่งเสริมการขาย ตราสินค้า และรูปแบบการดื่ม นอกจากนี้ ยังเข้ามามีอิทธิพลต่อนโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย ซึ่งเป็นห่วงว่ากลุ่มเยาวชนจะมาเป็นนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มมากขึ้น แต่ปัญหาที่น่ากังวลกว่าคือการที่กลไกการค้าเสรีจะเป็นการจำกัดความสามารถของประเทศในการจัดการกับปัญหาแอลกอฮฮล์ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พบได้จากประสบการณ์ของกลายประเทศในยุโรปนพ.ทักษพล กล่าว

 

            ภญ.อรทัย วลีวงศ์ นักวิจัยจากศูนย์วิจัยปัญหาสุรา กล่าวว่า เยาวชนไทยที่ดื่มสุรามีโอกาสตั้งครรภ์และทำให้ผู้อื่นตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น 2.92 เท่า มีโอกาสถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า ซึ่งเมื่อใช้หลักการคำนวณทางระบาดวิทยาแล้ว จะประมาณการในสถานการณ์สมมติว่า หากวัยรุ่นหญิงไทยอายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่ดื่มแอลกอฮอล์จะลดโอกาสในการทำแท้งได้ปีละ ร้อยละ 31.5 และหากวัยรุ่นชายไม่ดื่มด้วย จะลดการทำแท้งได้ถึงปีละ ร้อยละ 43.3 ดังนั้นรัฐบาลจึงควรให้ความสำคัญกับมาตรการการจัดการกับการดื่มของเยาวชนในการจัดการปัญหาคุณแม่วัยใสและการทำแท้ง

 

 

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าวสสส.

 

 

Update:22-11-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่

 

Shares:
QR Code :
QR Code