ห้ามขายเหล้า ‘เข้าพรรษา’

เจอโทษหนัก

ห้ามขายเหล้า ‘เข้าพรรษา’

 

          ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการสัมมนา “พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และกฎกระทรวง” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า จากสถานการณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปัจจุบันพบว่า จำนวนผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หน้าใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอายุนักดื่มหน้าใหม่ลดลงเรื่อยๆ  ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการโฆษณาเครื่องดื่มชนิดนี้อย่างครบวงจร ทั้งในรูปแบบของการอวดอ้างสรรพคุณทางตรงและทางอ้อม การส่งเสริมการขาย รวมถึงการโฆษณาแฝงตามสื่อต่างๆ  ที่ล้วนแต่ชักจูงใจให้เกิดการบริโภคทั้งสิ้น

 

          “เจ้าหน้าที่ตำรวจถือเป็นกลไกสำคัญในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในการสอดส่องดูแลให้ประชาชน ผู้ประกอบการและร้านค้าปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือวันที่ 26 ก.ค.ที่เป็นวันอาสาฬหบูชา และวันที่ 27 ก.ค.วันเข้าพรรษา ซึ่งมติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้เป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ จึงห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันดังกล่าว หากฝ่าฝืน มีความผิด จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

 

          ด้าน ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สำรวจความคิดเห็นของประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 7,002 คน ล่าสุดในปี 2552 พบว่า 86.3% เห็นด้วยกับข้อความที่ระบุว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่สินค้าที่ธรรมดา แต่เป็นสินค้าที่ต้องควบคุม ทั้งการซื้อ-ขาย การดื่ม การโฆษณา การกำหนดอายุขั้นต่ำ สอดคล้องกับข้อมูลขององค์การอนามัยโลกที่ระบุชัดว่า มาตรการที่ดีและได้ผลที่สุดในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คือ 1.จำกัดอายุผู้ซื้อ 2.จำกัดเวลาขายและความหนาแน่นของจุดขาย 3.รัฐเป็นเจ้าของร้านขายสุราปลีก 4.ระบบเพิ่มภาษีสุรา 5.ตรวจวัดแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่และการยึดใบอนุญาต 6.ลดเพดานระดับแอลกอฮอล์ในเลือด และ 7.การห้ามโฆษณาส่งเสริมการขาย ฉะนั้นการที่ทุกภาคฝ่ายร่วมมือกันเพื่อควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงถือว่ามาถูกทางแล้ว

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

 

 

 

Update: 15-07-53

อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ

Shares:
QR Code :
QR Code