ห่วงคืนโหด’วันลอยกระทง’

คร่าชีวิตนักซิ่งไม่ใส่กันน็อก

ห่วงคืนโหด’วันลอยกระทง’ 

          วานนี้ (21 พ.ย.)ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ชมรมคนห่วงหัวมูลนิธิเมาไม่ขับ  ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกรุงเทพมหานครสำนักงานยูเอ็นเอสแคปประจำประเทศไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมเพื่อร่วมรำลึกถึงเหยื่อผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนของโลก (world day of remem-brance for road crash victims)  หรือวันเหยื่อโลก ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 เดือน พ.ย.ของทุกปีและในปีนี้ตรงกับวันลอยกระทง

 

          โดยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงานกิจกรรมวันเหยื่อโลก พร้อมมอบหมวกกันน็อกสำหรับเด็กมีสีสันสวยงามจำนวน 100 ใบ ให้แก่เด็กที่มีอายุไม่เกิน10 ปี ที่ได้ติดต่อขอรับหมวกกันน็อกผ่านสายด่วน 1717 เพื่อเป็นการดูแลความปลอดภัยให้แก่เด็กและส่งเสริมความตระหนักให้แก่พ่อแม่และผู้ปกครอง

 

          ด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการชมรมคนห่วงหัว และเลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า จากสถิติช่วง3 วันของเทศกาลลอยกระทงเมื่อปีพ.ศ. 2552 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีผู้เสียชีวิตจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อกสูงถึง 67 คน ซึ่งรถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะยอดนิยมของคนไทย และเป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สวมหมวกกันน็อกโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กที่อยู่ในวัยไม่สามารถดูแลตัวเองได้ในกรณีที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปเที่ยวงานลอยกระทงซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดจนทำให้ได้รับการบาดเจ็บพิการและเสียชีวิตได้

 

          นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า ข้อมูลจากเครือข่ายเฝ้าระวังการบาดเจ็บ 28 โรงพยาบาล ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในคืนลอยกระทง เกิดจากอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด ร้อยละ 67%  หรือ 2 ใน 3 ของอุบัติเหตุทั้งหมด รองลงมาคือถูกทำร้าย 16% และบาดเจ็บจากพลุดอกไม้ไฟ 10% ที่สำคัญคือ อุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้น มีการดื่มสุราร่วมด้วยสูงถึง 38% ซึ่งใกล้เคียงกับเทศกาลปีใหม่หรือสงกรานต์

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์astvผู้จัดการรายวัน

 

 

update:22-11-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่

Shares:
QR Code :
QR Code