หลัก 3 ห้ามในช่วงเทศกาลลอยกระทง

ที่มา : สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา 


หลัก 3 ห้ามในช่วงเทศกาลลอยกระทง  thaihealth


แฟ้มภาพ


สคร.9 เตือนเทศกาลลอยกระทง ห้ามเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ พร้อมระวังเด็กจมน้ำเสียชีวิต


เทศกาลลอยกระทงปีนี้ ตรงกับวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ทั่วประเทศมีการจัดงานรื่นเริง เพื่อให้ประชาชนนำกระทงมาลอยในแหล่งน้ำต่างๆ เพื่อร่วมสืบสานประเพณีที่ดีงาม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเตือนประชาชนระวังอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในช่วงลอยกระทง ได้แก่ การบาดเจ็บจากพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ การบาดเจ็บจากการจราจร การดื่มสุรา และอุบัติเหตุการจมน้ำ ซึ่งการจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี พร้อมเตือนประชาชนไม่ปล่อยให้เด็กอยู่ใกล้แหล่งน้ำตามลำพัง อย่ายืนใกล้ขอบบ่อมากจนเกินไป และอย่าลงไปเก็บเงินในกระทง


นายแพทย์กิตติ์พงศ์  สัญชาตวิรุฬห์  ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่  9  นครราชสีมา  กล่าวถึงเทศกาลลอยกระทงว่า ขอให้ประชาชนระมัดระวังอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น เช่น การบาดเจ็บจากการเล่นพลุ จุดประทัด และดอกไม้ไฟ อุบัติเหตุเมาแล้วขับ และที่สำคัญคือการจมน้ำเสียชีวิต เนื่องจากเด็กมักอยู่ใกล้แหล่งน้ำเพื่อลอยกระทง ทำให้มีโอกาสสี่ยงที่จะลื่น หรือพลัดตกน้ำได้ และสาเหตุที่มักพบเห็นบ่อยๆคือ การลงไปเก็บเศษเงินในกระทง ข้อมูลจากงานป้องกันเด็กจมน้ำและการบาดเจ็บ ของ สคร.9 นครราชสีมา รายงานสถานการณ์เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีจมน้ำในเขตสุขภาพที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561-30 กันยายน 2562 พบว่ามีเด็กจมน้ำเสียชีวิตรวม 43 ราย ดังนี้ จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิต 13 ราย จังหวัดสุรินทร์ เสียชีวิต 12 ราย จังหวัดบุรีรัมย์ เสียชีวิต 12 ราย จังหวัดชัยภูมิเสียชีวิต 6 ราย


นายแพทย์กิตติ์พงศ์  สัญชาตวิรุฬห์  กล่าวต่อไปว่า ขอให้ผู้ปกครองดูแลเด็กเล็กต่ำกว่า 5 ปีอย่างใกล้ชิด พร้อมยึดหลัก 3 ห้าม คือ ห้ามปล่อยเด็กไว้ตามลำพัง ห้ามเด็กอยู่ใกล้ขอบบ่อ และห้ามไปเก็บเงินในกระทง ส่วนผู้ใหญ่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มสุราและลงน้ำ สำหรับหน่วยงานที่จัดงาน ขอให้กำหนดพื้นที่ที่ชัดเจนสำหรับการลอยกระทง ทำรั้วหรือสิ่งกั้นขวางเพื่อป้องกันเด็กตกน้ำ จัดคนดูแล และเตรียมอุปกรณ์สำหรับช่วยคนตกน้ำไว้เป็นระยะ ๆ ที่เข้าถึงได้ง่ายเมื่อเกิดเหตุการณ์ เช่น ถังแกลลอน เชือก ไม้ รวมทั้งติดป้ายคำเตือนไว้ในบริเวณที่เป็นพื้นที่เสี่ยงหรือห้ามลงไปลอยกระทง ผู้จัดการเรือต้องเตรียมชูชีพให้ผู้โดยสารทุกคน และไม่บรรทุกผู้โดยสารหรือน้ำหนักเกินจำนวนที่กำหนด ห้ามจุดพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากพลุ ประทัดระเบิด ทำให้เกิดความพิการ หรืออาจถึงขั้นสูญเสียอวัยวะได้ หากมีข้อสงสัย ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422


 


 

Shares:
QR Code :
QR Code