‘หมู่บ้าน หัวถนน’ ยึดถือสัมมาชีพ พระราชปณิธานพ่อหลวง
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
‘หมู่บ้าน หัวถนน’ หมู่บ้านสัมมาชีพเลิกเหล้า สิ่งแวดล้อมดี วิถีพอเพียง แห่งแรกในประเทศไทย ปฎิบัติตามพระราชปณิธานพ่อหลวง
กว่า 13 ปีที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) รณรงค์โครงการงดเหล้าเข้าพรรษามาตั้งแต่ปี 2546 โดยมี การสร้างเครือข่ายงดเหล้าเกิดขึ้นมากมายในประเทศไทย ช่วยให้ มีคนเลิกเหล้าได้จำนวนมาก โฟกัสไปที่ปี 2558 เพียงปีเดียว มีผู้เลิกเหล้าได้ตลอดครบพรรษาถึง 5.96 ล้านคน ช่วยประหยัด ค่าเหล้าไปได้กว่า 9,917 ล้านบาท และมีชุมชนเข้าร่วม โครงการมากกว่า 600 ชุมชน
ซึ่งการเดินหน้ารณรงค์เลิกเหล้า รวมถึงอบายมุขอื่นๆ ทั้งบุหรี่ สิ่งเสพติด และการพนัน ถือเป็น การเดินตามรอยพ่อหลวง "พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช" ตามแนวทางพระราชดำริ "เศรษฐกิจพอเพียง" ที่พระราชทานเป็นแนวทางแก้ปัญหาให้แก่ พสกนิกรชาวไทยมาเนิ่นนาน
นายนิรุจน์ อุทธา ผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคอีสานตอนบน สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เล่าให้ฟังว่า แนวพระราชดำริ "เศรษฐกิจพอเพียง" ที่พระองค์ท่านพระราชทานให้พสกนิกรของพระองค์ท่านปฏิบัตินั้น ชัดเจนว่าเป็นการ รู้จักพออยู่ พอกิน พอใช้ ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 3 ระดับ คือ 1.ระดับพื้นฐาน คือสามารถวิเคราะห์และประเมินตัวเองได้ สามารถพึ่งตนเองได้ หมายถึงการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นอบายมุข ทั้งเหล้า บุหรี่ การพนัน ต่างๆ เพราะแม้จะประหยัดสิ่งต่างๆ แต่ยังคงหลงติดอยู่กับอบายมุขเหล่านี้ ยังคงดื่มเหล้า สูบบุหรี่อยู่ ถือว่าไม่ใช่ เศรษฐกิจพอเพียง 2.เศรษฐกิจพอเพียงระดับสร้างเครือข่าย เช่น การปลูกพืชผักสวนครัว นอกจากพอมีกินมีใช้ในครอบครัวแล้ว ยังต้องรู้จักแบ่งปันผู้อื่น และหากเหลือก็นำมาออกขายในราคาที่ไม่แพง และมีการสร้างเครือข่ายในการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงร่วมกัน 3.ระดับการรวม กลุ่มเป็นสหกรณ์ หรือรัฐวิสาหกิจชุมชน คือมีการดำเนินชีวิตตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง มีการรวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์ เพื่อให้เกิดพลังในการขายสินค้า
ตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนมากในการนำเอาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านมาปรับใช้ในการทำงานเลิกเหล้า คือ หมู่บ้านสัมมาชีพเลิกเหล้า สิ่งแวดล้อมดี วิถีพอเพียง แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งอยู่ที่หมู่บ้าน หัวถนน ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ที่ใช้สัมมาชีพมาช่วยในการเลิกเหล้า
บ้านหัวถนนถือเป็นหมู่บ้านแรกๆ ที่ดำเนินโครงการลดเหล้าเข้าพรรษา โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งจากการรณรงค์ทำให้มีผู้ที่สามารถเลิกเหล้าไปตลอดชีวิตได้ จนเมื่อปี 2549 นอกจากเลิกเหล้าได้แล้ว ยังน้อมนำเอาพระราชดำริ "เศรษฐกิจพอเพียง" ของพ่อหลวงมาปรับใช้ เกิดเป็นแนวคิด "สัมมาชีพ" ขึ้น คือ การประกอบอาชีพด้วยความสุจริต ในปี 2550 โดยนำผู้ที่เลิกเหล้าตลอดชีพได้มาเข้ารับการอบรมในโรงเรียนแก้จน ให้รู้จักเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง การปลูกพืชสวนครัวไว้รับประทานเองภายในบ้าน เมื่อเหลือก็แจกจ่าย และนำไปจำหน่ายในราคาที่พอเพียง ซึ่งปรากฏว่าในหมู่บ้านมีคนที่ทำได้เป็นบุคคลต้นแบบ 5 คนด้วยกัน ต่อมาจึงมีการขยายทำเป็น "หมู่บ้านสัมมาชีพเลิกเหล้า สิ่งแวดล้อมดีวิถีพอเพียง" เพื่อช่วยให้คนในชุมชนเลิกเหล้าได้ มีสัมมาชีพในการดำรงชีวิต และเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้แก่พื้นที่อื่น ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจที่จะเลิกเหล้า และเข้าร่วมสัมมาชีพเลิกเหล้าเป็นจำนวนมาก
จากการดำเนินการพบว่า การที่ทำให้คนเลิกเหล้าได้จริง เป็นเพราะทุกคนทำความดีถวายแด่พระองค์ท่าน การมีพระองค์ในจิตใจช่วยเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวและความพยายามที่จะเลิกเหล้า เป็นแรงผลักดันและแรงกระตุ้นอย่างมาก และเมื่อมีการเรียนรู้การทำการเกษตรแบบพอเพียง ก็สามารถปฏิบัติตามแนวทางของพระองค์ได้ พืชผักที่ปลูกภายในสวนบ้านตัวเอง ก็นำมาใช้รับประทาน การนำไปให้ญาติ ให้เพื่อนฝูง เหลือก็นำไปออกขาย สามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน
แม้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่พระราชดำรัสของพระองค์ยังคง มีคุณค่าที่จะชี้นำให้คนไทยปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ การตอบแทน พระคุณท่านที่ดีที่สุดคือการน้อมนำพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน มาประยุกต์ใช้ ซึ่งเรื่องใกล้ตัวที่สุดเรื่องหนึ่งคือการเลิกเหล้า เลิกอบายมุข หากสามารถทำได้ก็ถือเป็นการปฏิบัติตาม แนวทางของพระองค์ท่านด้วยเช่นกัน สสส. และสคล. พร้อมจะ สืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชในการช่วยคนไทยเลิกเหล้าเลิกจนต่อไป