หนุนเจาะเลือดใกล้บ้าน ลดแออัดโรงพยาบาล
ที่มา : เว็บไซต์มติชนออนไลน์
แฟ้มภาพ
นำร่องแล้ว จ.นครปฐม โครงการเจาะเลือดใกล้บ้าน แบ่งเบาความแออัดในโรงพยาบาล ภายใต้การดูแลจากนักเทคนิคการแพทย์ทั่วประเทศ 1.9 หมื่นคน ควบคู่การยกระดับส่งข้อมูลแก่แพทย์เจ้าของโรค
ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์คอนเวนชั่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และคณะผู้บริหารได้ร่วมประชุมภายใต้หัวข้อ "การพัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์และเครือข่ายในการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญของรัฐบาล"
นายอนุทิน กล่าวว่า เพื่อเป็นการสร้างความพึงพอใจในการบริการดูแลให้ประชาชน ภายใต้แนวคิดลดความแออัดในโรงพยาบาล (รพ.) และลดระยะเวลาการรอคอย การเจาะเลือดคนป่วยนั้น สมควรต้องปรับให้มีความยืดหยุ่น ไม่จำเป็นต้องไปใช้บริการที่ รพ. แต่สมควรให้สถานบริการใกล้บ้าน อาทิ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เข้ามาแบ่งเบาความแออัดใน รพ. ภายใต้การดูแลจากนักเทคนิคการแพทย์ทั่วประเทศ 1.9 หมื่นคน ควบคู่ไปกับการยกระดับการส่งข้อมูล แก่แพทย์เจ้าของโรค เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วย และลดภาระงานใน รพ. เพราะระบบเดิมนั้น ทราบมาว่า บางทีคนไข้ต้องรอเจาะเลือด และผลเลือดนานถึง 2-5 ชั่วโมง
"ในอนาคตจะจัดหาหน่วยบริการเคลื่อนที่เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องของการเจาะเลือด ส่วนการส่งตัวอย่างเลือดไปตรวจ ขอให้มั่นใจว่าเรามีวิธีการขนส่งที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะรักษาสภาพของตัวอย่างไว้อย่างดีที่สุด ไม่ให้ผลตรวจออกมาคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวได้ปฏิบัติไปแล้วในพื้นที่ จ.นครปฐม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา โดย จ.นครปฐม เป็นหนึ่งในพื้นที่กลุ่มโรงพยาบาลจตุรทิศซึ่งประกอบด้วย จ.นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร โดยระหว่างการให้บริการได้มีการบันทึกปัญหาและข้อเสนอแนะจากภาคส่วนต่างๆ เพื่อพัฒนานโยบายต่อไป" นายอนุทิน กล่าว
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ทางหน่วยงาน มีภารกิจเกี่ยวกับการกำกับดูแลมาตรฐานห้องปฏิบัติการทางการแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของประเทศ ได้หาแนวทางการลดความแออัดใน รพ. เราพบว่าการเจาะเลือดที่สถานบริการสุขภาพ คลินิกเอกชน หรือ รพ.สต. ก่อนนัดพบแพทย์จะช่วยลดระยะเวลามารับบริการได้ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้จัดทำคู่มือหน่วยบริการเจาะเลือด และแบบประเมินมาตรฐานในหน่วยเจาะเลือดนอกโรงพยาบาล รวมทั้งจัดอบรมแก่เจ้าหน้าที่ เพื่อบูรณาการเดินหน้านโยบายข้างต้น