หนุนพัฒนาการ เด็กกลุ่มอาการดาวน์
ที่มา : เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
แฟ้มภาพ
“สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต” ส่งเสริมพลังใจครอบครัวผู้บกพร่องทางพัฒนาการฯ กลุ่มอาการดาวน์ เน้นการรณรงค์ส่งเสริมให้รีบเข้ารักษา ฟื้นฟูฝึกฝนพัฒนาการ ย้ำยิ่งเร็วยิ่งดี
ที่สถาบันราชานุกูล จัดกิจกรรมเนื่องในวันดาวน์ซินโดรมโลก เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้ป่วยกลุ่มอาการดาวน์ ในชื่องาน “เส้นทางแห่งดาวน์ (ซินโดรม)” แนะนำการดูแลสุขภาพพร้อมกับกิจกรรมสนุกสนาน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทีมสหวิชาชีพ ร่วมด้วยกลุ่มดาวน์ที่ประสบความสำเร็จจากการศึกษาและฝึกวิชาชีพ ตลอดจนกิจกรรมร่วมสนุก เกมส์ การละเล่น และการแสดงความสามารถพิเศษของเด็กๆ กลุ่มอาการดาวน์
พญ.นพวรรณ ศรีวงศ์พานิช รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ กล่าวว่า วันที่ 21 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันดาวน์ซินโดรมโลก หลายภาคส่วนได้สนับสนุนให้เกิดการสื่อสารสร้างความตระหนักและส่งเสริมศักยภาพของผู้พิการทางสติปัญญา การรณรงค์ส่งเสริมด้านการดูแลสุขภาพก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับผู้พิการกลุ่มนี้ จากสถิติผู้เข้ารับบริการในสถาบันราชานุกูล ปี 2559 พบเด็กกลุ่มอาการดาวน์เข้ารับบริการการส่งเสริมพัฒนาการและโปรแกรมการฟื้นฟูทางการศึกษาและอาชีพ ร้อยละ 26.34 ของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด ในจำนวนนี้ พบว่า เด็กดาวน์อายุแรกเกิด – 5 ปี มีระดับพัฒนาการที่ก้าวหน้าขึ้นหลังเข้าโปรแกรม ถึงร้อยละ 67.12 โดยด้านที่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังส่งเสริมพัฒนาการ คือ พัฒนาการด้านการช่วยเหลือตนเอง และด้านกล้ามเนื้อมัดเล็ก
พญ.นพวรรณ กล่าวว่า โปรแกรมการส่งเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กกลุ่มอาการดาวน์ตั้งแต่อายุแรกเกิด – 5 ปี เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและปัญหา ที่เป็นลักษณะเฉพาะของเด็กกลุ่มอาการดาวน์ จะมีทั้งการส่งเสริมพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ โดยการเสริมความแข็งแรงด้วยกิจกรรมการเคลื่อนไหวต่างๆ การส่งเสริมพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดเล็ก และการแก้ไขปัญหาการดูดเคี้ยว การส่งเสริมพัฒนาการด้านการสื่อสาร และฝึกการช่วยเหลือตนเองที่จำเป็นตามวัย โดยทีมสหวิชาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลเด็กกลุ่มอาการดาวน์
“เด็กกลุ่มอาการดาวน์ช่วงอายุแรกเกิด – 5 ปี สามารถมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้ จากการที่ผู้ปกครองนำมารับการส่งเสริมพัฒนาการอย่างรวดเร็วตั้งแต่อายุน้อยๆ (ไม่เกินขวบปีแรก) ร่วมกับการที่ผู้ปกครอง มีความรู้ในการดูแลสุขภาพและให้การส่งเสริมพัฒนาการลูกเองได้ที่บ้านอย่างต่อเนื่อง พ่อแม่ ผู้ดูแลจึงเป็นคนสำคัญที่สุดในการดูแลเด็กกลุ่มนี้ ที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากการศึกษาข้อมูลของผู้ป่วยกลุ่มอาการดาวน์ ที่สามารถเข้าศึกษาในระบบการศึกษาปกติได้ ตลอดจนสามารถประกอบอาชีพดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข” พญ.นพวรรณ กล่าว