‘หนองคูน้อย’ สานพลังสร้างสุขภาวะชุมชน
น่าดีใจเหลือเกินที่มองไปในพื้นที่บ้านหนองคูน้อย หมู่ที่ 2 ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เวลานี้ มีป้ายแสดงให้รู้ครัวเรือนจำนวนมากในชุมชนไม่ดื่มเหล้า แสดงว่าเพราะมีความต้องการจากชาวบ้าน จึงมีผู้ร่วมประกาศเจตนารมณ์ครัวเรือนปลอดเหล้าออกมามาก
นั่นอาจเป็นดัชนีชี้วัดว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านหนองคูน้อย เริ่มเปลี่ยนจากตกเย็นตั้งวงสังสรรค์ ดื่มหนัก เมาแล้วนอน ตื่นมาถอน แล้วมีหนี้สินในครอบครัว มาสู่การลด ละ เลิก พฤติกรรมการดื่มเหล้า เพื่อสร้างครอบครัวเข้มแข็ง แสวงหาความสุขใหม่ๆ โดยไม่ต้องพึ่งน้ำเมา พร้อมกับถ่ายทอดข้อมูลความรู้ใหม่ๆ ทั้งด้านสุขภาพ พิษภัยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนการส่งเสริมจริยธรรมแก่ชาวบ้านที่กำลังอยากเลิกดื่มเหล้า หรือแม้แต่คนที่เป็นสิงห์น้ำเมา
เป็นการจัดการปัญหาลดการบริโภคสุราแบบเกิดประโยชน์ทั้งแก่ตัวนักดื่มและชุมชน เพราะคนเมาแล้วไปเที่ยวก่อเรื่องทะเลาะวิวาท กู้หนี้ยืมสิน และเจ็บป่วยด้วยโรคสารพัด กลับมาเป็นภาระให้คนในครอบครัว ที่สำคัญตอนนี้ชุมชนบ้านหนองคูน้อยมีกฎกติกาชุมชน การจัดงานบุญประเพณี งานศพ หรือแม้แต่กิจกรรมอื่นๆ เน้นที่ลด ละ เลิกอบายมุข เพื่อสร้างเป็นชุมชนปลอดเหล้าอย่างแท้จริง ยิ่งกว่านั้นพื้นที่นี้ยังเป็นหมู่บ้านปลอดเหล้า ที่พี่น้องในหลายพื้นที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงการลุกขึ้นมาจัดการกับปัญหาน้ำเมาได้สำเร็จ ซึ่งล่าสุดเทศบาลตำบลเมืองแก ได้ชักชวนองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 17 แห่งในจังหวัดสุรินทร์ มาศึกษาดูงานศูนย์เรียนรู้หมู่บ้านปลอดเหล้าแห่งนี้ เพื่อพัฒนาทักษะด้านการบริหารงานสร้างเสริมสุขภาพให้แก่บุคลากรของ อบต. เพื่อจะได้นำไปขยายผลและสร้างเครือข่ายควบคู่กันไป โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.
สุนทร ธรรมนาม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านหนองคูน้อยอดีตขี้เมาซึ่งพลิกผันมาเป็นผู้ชักชวนคนในหมู่บ้านเลิกเหล้า จนกลายเป็นหมู่บ้านปลอดเหล้า บอกว่า ชุมชนเจอกับปัญหาชกต่อยของวัยรุ่นหรือยกพวกตีกัน ส่วนกลุ่มคนวัยทำงานตกเย็นก็ตั้งวงเหล้ากระจายในหมู่บ้าน ร้านค้า ตนก็กินเยอะ จนชาวบ้านเรียก “ขุนรินสุราวอด” ยอมรับว่าสุขภาพไม่ดี ออกไปทำไร่ทำนาก็ไม่มีเรี่ยวแรง ก็เริ่มคิดถึงลูกและครอบครัว จึงตัดสินใจเลิกเหล้าปี 2547 แล้วก็ขยายชวนคนในหมู่บ้านเลิก ตอนนั้นถามคนในชุมชนก็เกินกว่าครึ่งคิดว่าเหล้าเป็นปัญหาสำคัญ จนกระทั่งปี 2549 มีมติประชาคมหมู่บ้านออกมา งานศพหมู่บ้านนี้ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้ผู้มาร่วมงานศพมาด้วยความเคารพศรัทธา ไม่ใช่มาดื่มเหล้า เล่นการพนัน มัวเมาอบายมุข ต่อมาปี 2552 ก็ทำประชาคมงานบุญประเพณีต้องปลอดเหล้า เน้นสร้างสัมพันธ์คนในชุมชนและเรียนรู้วัฒนธรรม
“จุดแข็งของเราคือการทำประชาคม เน้นการมีส่วนร่วมชุมชนจริงๆ จากงานศพปลอดเหล้าขยายผลไปสู่หมู่บ้านปลอดเหล้า โดยจัดกิจกรรมมอบป้ายให้กับครอบครัวที่สามารถเลิกเหล้าได้ แต่ละบ้านมาโดยสมัครใจ ป้ายครัวเรือนนี้ปลอดเหล้ามีส่วนที่สำคัญคือ สร้างความละอายพร้อมกับเป็นแรงกระตุ้นให้ครัวเรือนอื่นเลิกเหล้าให้ได้ ก็เทศบาลตำบลเมืองแกให้การสนับสนุนอย่างใกล้ชิด เพราะคนของ อบต.กำลังทำงานในชุมชนต่างๆ เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพให้กับท้องถิ่น ปัญหาเกี่ยวกับเหล้าเป็นอีกงานที่อยากเห็นผลชัดเจน กลุ่มงานปลอดอบายมุขเทศบาลเมืองแกก็มี” ผู้ใหญ่นักพัฒนาเผยกุศโลบายที่ใช้ขยายประเด็นเหล้าในชุมชน
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มเหล้าของคนในชุมชนนั้น สุนทรย้ำว่าเป็นเรื่องยาก ต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง เมื่อจะเปลี่ยนให้คนเลิกเหล้าต้องปรับจากดื่มขวดใหญ่มาสู่ขวดเล็ก จนกระทั่งเป็นกั๊ก ซึ่งไม่มีกฎหมายห้ามดื่มเหล้า แต่พรรคพวกเพื่อนพ้องและคนในชุมชนควบคุมกันเอง ความสำเร็จวัดกันที่ใจ ไม่มีหลักสูตรเลิกเหล้า แต่สายตาของสังคมที่จับจ้องก็เป็นอีกเครื่องมือในการจัดการเรื่องนี้ จนชุมชนเองเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น และในระดับผู้นำเองต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ปฏิเสธการกินเหล้า ประกาศชัดเจน จะบอกกับคนที่ชวนกินเหล้าตรงๆ ว่า เรากำลังทำงานเรื่องครอบครัวเข้มแข็ง ขณะนี้บ้านหนองคูน้อยถือเป็นศูนย์เรียนรู้เพื่อครอบครัวเข้มแข็งจังหวัดสุรินทร์ด้วย หรือถ้าจะให้รินเหล้าในวงเหล้าก็รินได้ แต่ตนก็จะแนะนำหรือชักชวนให้คิด ทุกคนก็ยอมรับว่าหลายคนแล้วต้องเสียคนด้วยน้ำเมา ช่วงเข้าพรรษาหมู่บ้านนี้ก็เดินหน้าเข้าพรรษางดเหล้าด้วย เพื่อเป็นการฝึกนิสัยของคนในชุมชน และหวังจะให้มีการงดเหล้านอกพรรษาต่อไป
“ผลที่เกิดขึ้นในการทำงานเรื่องเหล้าควบคู่ส่งเสริมจริยธรรม คือ คนในชุมชนกินเหล้าลดน้อยลง การตั้งวงเหล้าตามบ้านไม่มี มีที่ร้านค้าบ้าง แต่จะไม่ดื่มหนัก แล้วก็มีครัวเรือนปลอดเหล้าเพิ่มขึ้นอย่างน่าดีใจ จาก 98 ครัวเรือน มีครอบครัวที่ลด ละ เลิกเหล้าที่เราไปติดป้ายทั้งหมด 90 ครัวเรือน เข้ามาในชุมชนจะเห็นได้ชัดจริงๆ และไม่มีการปลดป้าย เพราะชาวบ้านมองว่าเป็นป้ายที่มีคุณค่า แสดงถึงการทำความดี เขาต้องทำให้ได้ อยากมีส่วนร่วมสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง” ผู้ใหญ่สุนทรผู้มีความห่วงใยในสุขภาพของคนในชุมชน กล่าวในท้ายที่สุด เรียกได้ว่าทั้งแนวคิดและการทำงานอย่างทุ่มเททำโครงการเรื่องเหล้า ที่พี่น้องบ้านหนองคูน้อยกำลังรวมพลังกันสร้างชุมชนให้เป็นสุขอยู่ในขณะนี้ ประจักษ์แก่สายตาเหล่า อบต.เมืองสุรินทร์ที่มาเรียนรู้ จึงปรารถนาเป็นอย่างยิ่งว่า ชุมชนแห่งนี้ตลอดจนทีมเทศบาลตำบลเมืองแกจะเป็นแรงบันดาลใจ และส่งต่อพลังในการทำงานท้องถิ่นอื่นๆ ให้ได้ประโยชน์ไม่แตกต่างจากชุมชนหนองคูน้อย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์