สุขภาพดีด้วย’ผักพื้นบ้านอาหารพื้นถิ่น’
คุณค่าทางโภชนาการสูง
“ผักพื้นบ้าน” เป็นผักที่ขึ้นอยู่ริมรั้วบ้านหรือตามหัวไร่ชายนา ที่ปัจจุบันถูกมองว่าเป็นวัชพืชไร้ค่ารกรุงรัง ทั้งๆ ที่ผักเหล่านี้มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมีสรรพคุณทางยามากมาย ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้แล้ว เมื่อนำมาประกอบอาหารยังเปรียบเสมือนยาหม้อใหญ่
ด้วยภาพสังคมที่เปลี่ยนไปทำให้ภูมิปัญญาพื้นบ้านหลายๆ อย่างถูกกลืนหายไปตามสภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องของผักพื้นบ้าน
“เครือข่ายศูนย์ปฏิบัติการภาคประชาชนตำบลตำนาน” อ.เมือง จ.พัทลุง จึงได้จัดทำ “โครงการอาหารสุขภาพจากผักพื้นบ้านชุมชนตำบลตำนาน” เพื่อศึกษารวบรวมและฟื้นฟูองค์ความรู้จากผักพื้นบ้านและสร้างความตระหนักให้ชุมชนเห็นความสำคัญของอาหารพื้นบ้านที่ส่งผลต่อสุขภาพ โดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
นางชุติมา เกื้อเส้ง หัวหน้าโครงการและประธานเครือข่ายศูนย์ปฏิบัติการภาคประชาชนฯ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ทำงานด้านแผนสุขภาวะชุมชนพบว่าชาวบ้านหลายรายป่วยเป็นโรคโดยไม่ทราบสาเหตุ ทุกคนมีแนวคิดอยากปลูกผักกินเองเพื่อป้องกันโรคภัยจากสารเคมีที่แฝงมากับอาหารที่ซื้อจากตลาด แต่จากการพูดคุยกันพบว่าชาวบ้านหลายคนไม่มีความรู้ว่าผักพื้นบ้านนั้นมีคุณประโยชน์รวมถึงไม่รู้วิธีการปรุงอาหารจากผักเหล่านี้ เนื่องจากภูมิปัญญาในการประกอบอาหารท้องถิ่นถูกกลืนหายไปตามสภาวะเศรษฐกิจ ทางเครือข่ายฯ จึงวางแผนการทำงานจากปัญหาตรงนี้ ทำอย่างไรให้ชาวบ้านเห็นความสำคัญและหันกลับมาปลูกพืชและปรุงอาหารจากผักพื้นบ้าน
โครงการนี้เริ่มจากการสร้างชุดองค์ความรู้เพื่อให้ชาวบ้านได้เห็นความสำคัญของผักพื้นบ้านโดยทำงานร่วมกับแกนนำชุมชนลงสำรวจผักพื้นบ้านซึ่งพบว่ามีผักพื้นบ้านมากถึง 126 ชนิด และยังพบด้วยว่าเป็นพืชผักริมรั้วเหล่านั้นเป็นทั้งอาหารสมุนไพร และยาเกือบทั้งหมด บางชนิดก็เกือบจะสูญพันธุ์ไปแล้วเช่นขี้พร้าไฟ ฟักข้าว หนามชิด ซึ่งผักพื้นบ้านยังไปเชื่อมโยงกับสภาพสิ่งแวดล้อมของชุมชนและสภาพสังคม เพราะการเกษตรแผนใหม่ทำให้ผักพื้นบ้านหลายชนิดสูญหายไป
ที่สำคัญผักพื้นบ้านยังมีประโยชน์มากมายโครงการ “รวมพลคนรักสยาม” โดยมีศิลปิน ดาราร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ พาร์ค พารากอน สยามพารากอนทั้งสรรพคุณทางยาถ้าเรารู้จักใช้ ปลูกเองก็ประหยัดและปลอดภัยไร้สารพิษ โดยเป้าหมายจริงๆแล้วเราต้องการที่จะทำให้เขารู้จักผักพื้นบ้าน รู้จักกินและรู้จักประโยชน์ของผักแต่ละชนิด แล้วก็จะสามารถต่อยอดไปได้เรื่อยๆ
นายสรรค์ อัศโรดร อายุ 66 ปี แพทย์พื้นบ้านและกรรมการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพเปิดเผยว่า ผักพื้นบ้านส่งผลดีต่อสุขภาพของชาวบ้าน เพราะเป็นผักที่ขึ้นเองตามฤดูกาล ไม่ต้องปลูกไม่ต้องลงทุนดูแลรักษา ปุ๋ยยาสารเคมีก็ไม่ต้องใช้ แต่ปัจจุบันนี้เราขาดการอนุรักษ์และไม่เห็นความสำคัญทำให้ผักพื้นบ้านถูกทำลายไปโดยไม่รู้ตัว
“ปัจจุบันคนป่วยด้วยโรคเบาหวาน ความดันหลอดเลือดหัวใจกันมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากการกินอาหารที่มันและหวานมากเกินไป โรคเหล่านี้ถ้าเข้าใจและหันมากินเปรี้ยวให้มากกว่าอาหารที่มันและหันมากินอาหารพื้นบ้านก็จะช่วยรักษาอาการเหล่านี้ได้ยกตัวอย่างเช่นน้ำพริกทุกชนิดจะมี มะนาว หัวหอมกระเทียม พริกขี้หนู สมุนไพรเหล่านี้จะช่วยละลายไขมันได้ เมื่อรวมกับวิตามินและเกลือแร่ที่เราจะได้จากผักเหนาะนานาชนิดเช่น สะตอ กระโดน ถ้าเรากินสม่ำเสมอก็จะช่วยได้เพราะการกินอาหารพื้นบ้านตามที่ครอบครัวได้รับการถ่ายทอดมา แทบจะไม่ต้องศึกษาเรื่องโปรตีนคาร์โบไฮเดรตอะไรเลย เพราะภูมิปัญญาโบราณนั้นมีความสมดุลในธาตุต่างของร่างกายและอาหารอยู่แล้ว” นายสรรค์ ระบุ
สำหรับคณะทำงานโครงการฯ ได้จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “อาหารสุขภาพจากผักพื้นบ้าน”ชุมชนตำนาน” ขึ้นภายใต้แนวคิด” สุขภาพดีด้วยผักพื้นบ้าน อาหารพื้นถิ่น ด้วยรักจากครอบครัวสู่ชุมชน โดยมีชาวบ้านมาร่วมกันประกอบอาหารพื้นบ้าน40 กว่าเมนูมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความ รู้เกี่ ยวกั บประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการขอ งอาหารแต่ละชนิด เพื่อสืบสานและถ่ายทอดองค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพด้วยอาหารซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีคุณค่ามิให้สูญหายไป
นางรมย์ เกื้อเส้ง อายุ 54 ปี แกนนำกลุ่มวิสาหกิจชุมชน บ้านหมู่ 13 ตำบลตำนาน เล่าว่าทุกวันนี้ซื้อผักจากตลาดน้อยมาก ส่วนใหญ่จะไปเก็บผักพื้นบ้านจากริมรั้วซึ่งมีอย่างมากมาย ทั้งตำลึงผักหวาน มะเขือ โดยจะซื้อเฉพาะวัตถุดิบที่จำเป็นและหาไม่ได้ในชุมชนเท่านั้น
“ส่วนมากคนในท้องถิ่นจะไม่ค่อยสนใจผักพื้นบ้านเพราะมันยุ่งยาก บ้างก็ขี้เกียจไปเก็บไปหาซื้อเอาดีกว่าเพราะติดความสะดวกสบาย แต่การทำกับข้าวโดยใช้ผักพื้นบ้านจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัวไปได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 50 บาท เวลาทำเสร็จก็จะอธิบายให้คนในครอบครัว ลูกหลานว่าผักพื้นบ้านที่นำมาทำกับข้าวในแต่ละวันนั้นมีประโยชน์อย่างไร บอกสรรพคุณให้เขาได้รู้เลยว่ากินแล้วมีประโยชน์อะไรบ้าง ปัจจุบันคนในหมู่บ้านก็เริ่มหันมาสนใจอาหารพื้นบ้านกันมากขึ้น” นางรมย์กล่าว
นางงามจิตต์ จันทรสาธิต ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนโครงการเปิดรับทั่วไป สสส. เปิดเผยว่าผักพื้นบ้านส่วนใหญ่ของไทยจะเป็นสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ เพียงแต่ว่าปัจจุบันคนไทยยังขาดความรู้และความเข้าใจและเห็นคุณค่าทำให้ผักพื้นบ้านนับวันจะสูญหายไป เด็กรุ่นใหม่ก็จะไม่รู้จัก
“ถ้าชุมชนหันมาสนใจปลูกผักพื้นบ้านแล้วก็มีการพัฒนาตำรับอาหารหรือเมนูอาหารที่อาจจะต้องปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยบ้าง ก็คิดว่าน่าจะจูงใจให้คนหันมาบริโภคผักพื้นบ้านกันได้มากขึ้น เพราะบางครั้งผักพื้นบ้านดีๆ คนรุ่นใหม่ไม่รู้จักแล้วว่ากินอย่างไรถึงจะอร่อย มีประโยชน์อะไร นำไปปรุงอาหารได้อย่างไร ซึ่งโครงการนี้จะส่งผลดีกับชุมชนทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างแต่ละชุมชนสิ่งที่ได้นอกเหนือไปจากการที่ชาวบ้านจะได้ฟื้นฟูรักษาตำหรับอาหารพื้นบ้านกลับมาได้แล้ว เขายังได้ฟื้นฟูวัฒนธรรมและความสัมพันธ์ทางสังคมของชุมชนให้กลับคืนมาได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้คนในชุมชนและสังคมมีความเอื้ออาทรกันมากขึ้นพูดคุยกันมากขึ้น รู้จักกันมากขึ้น ซึ่งเป็นผลที่ดีนอกเหนือไปจากการมีอาหารที่ปลอดภัยและประหยัด” นางงามจิตต์ กล่าวสรุป
ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย
update: 11-06-53
อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ