สืบสานเรือยาวประเพณีสมุทรสาคร ท้องถิ่นปฏิเสธธุรกิจ”น้ำเมา”

“มาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละปี ได้ติดประกาศให้ร้านค้าตลอดริมสองฝั่งคลอง รวมทั้งมีหนังสือเพื่อขอความร่วมมือห้ามจำหน่ายภายในวันที่มีการจัดแข่งเรือโดยเด็ดขาด…เคยมีบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเข้ามาสนับสนุน แต่ทางจังหวัดได้ปฏิเสธไม่อยากให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาทำลายวัฒนธรรมดีๆ และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เด็กเยาวชน”

จังหวัดสมุทรสาครมีการจัดงานกีฬาเรือยาวที่ผู้นำท้องถิ่นยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไว้อย่างเคร่งครัด โดยการท่องเที่ยวงานแข่งขัน “กีฬาเรือยาวประเพณีจังหวัดสมุทรสาคร ครั้งที่ 11 ประจำปี 2556” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี วันที่ 17-18 สิงหา.นี้ มีข้อบังคับไว้ชัดเจน คือ ห้ามดื่มสุราในงานหรือนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเข้าไปจำหน่าย เป็นต้น ซึ่งผู้จัดงานการันตีว่า การมาเที่ยวงานเรือยาวประเพณีที่คลองตาขำ สถานที่จัดงานใหญ่จะปลอดจากน้ำเมาอย่างแน่นอน ที่สำคัญนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงดงามในประเพณี รอยยิ้ม และความสามัคคีของชุมชนด้วย

ทั้งนี้ การจัดแข่งเรือปลอดเหล้าคลองตาขำ เสมือนเป็นการลุกขึ้นมาต่อสู้ของท้องถิ่น เพื่อแก้ปัญหาและลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แฝงมากับงานประเพณีและกีฬา ที่ปัจจุบันธุรกิจน้ำเมาเติบโตและมากด้วยกลยุทธ์เพื่อให้น้ำเมาเข้าถึงชุมชน สิ่งเหล่านี้เองที่ผู้นำในท้องถิ่นต่อสู้มาตลอด แม้จะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากก็ตาม

อย่างไรก็ตาม การปฏิเสธธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอ ฮอล์สนับสนุนงานประเพณีชุมชน ไม่ได้หนักหนาจนไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะจังหวัดสมุทรสาครได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน คนสมุทรสาครได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วในการนำกฎหมายมาใช้อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อย่างจริงจัง ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งต่อประเพณีวัฒนธรรมให้เยาวชนได้เรียนรู้ คงอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน

โดยทางองค์การบริหารส่วนตำบลชัยมงคล ร่วมกับผู้นำในท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลชัยมงคล จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (mou) ในการจัดงานการแข่งขันกีฬาเรือยาวประเพณี โดยมีข้อตกลงร่วมกันว่า “เราจะร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกันในการขับเคลื่อนการทำงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาสังคม ร่วมกันจัดงานการแข่งขันกีฬาเรือยาวประเพณีจังหวัดสมุทรสาคร ครั้งที่ 11 ประจำปี 2556 โดยปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด” เพื่อพัฒนาให้จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดต้นแบบ ในการจัดงานการแข่งขันเรือยาวประเพณีปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในโอกาสต่อไป

ทองคำ หลงเปลี่ยว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลชัยมงคล กล่าวถึงการจัดงานแข่งขันกีฬาเรือยาวประเพณีของชาวสมุทรสาครในครั้งนี้ว่า ต้องการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของชุมชนให้คงอยู่ สร้างความภาคภูมิใจในถิ่นกำเนิด มีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำ ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนและเยาวชนมีความหวงแหนแม่น้ำลำคลอง สร้างเสริมความสามัคคี และการรักษาสภาพแม่น้ำลำคลองให้สะอาดอยู่เสมอ รวมทั้งในการจัดงานครั้งนี้มีกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามของตำบลชัยมงคล

“ที่ผ่านมายอมรับว่า เคยมีผู้เข้ามาชมการแข่งเรือนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาดื่มในบริเวณงาน ส่วนมากเป็นคนนอกพื้นที่ที่เข้ามาชมการแข่งขัน ซึ่งอาจจะไม่ทราบ แต่จากนี้เราได้เพิ่มความเข้มงวด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ คณะกรรมการ หน่วยรักษาความปลอดภัย ช่วยเฝ้าระวัง จนหลายปีมานี้การแข่งเรือของจังหวัดแทบไม่มีการขายการดื่มให้เห็นแล้ว ซึ่งมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละปี เราได้มีการติดประกาศให้ร้านค้าตลอดพื้นที่ริมสองฝั่งคลอง รวมทั้งมีหนังสือเพื่อขอความร่วมมือห้ามจำหน่ายภายในวันที่มีการจัดแข่งเรือโดยเด็ดขาด ทั้งนี้เคยมีบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเข้ามาสนับสนุน แต่ทางจังหวัดได้ปฏิเสธไม่อยากให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาทำลายวัฒนธรรมดีๆ และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เด็กเยาวชน” นายก อบต.ชัยมงคล ยืนยันเจตนารมณ์

นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ รองผุ้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นเกียรติจับสลากแบ่งสายการแข่งเรือยาว

สำหรับกิจกรรมภายในงานก็จะมีการจำหน่ายสินค้าโอท็อป มีการเปิดบูธมากมาย โดยนำสินค้าต่างๆ มาวางจำหน่าย นอกจากนี้ยังมีการละเล่นกีฬาพื้นบ้านมากมาย อาทิ การแข่งโล้กระทะ กีฬาหัวใบ้ท้ายบอด ซึ่งเป็นกีฬาที่ตลกขบขัน เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้เป็นอย่างดีทุกปี และยังมีการประ กวดทำน้ำดื่มทางเลือกเพื่อทดแทนการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

อย่างไรก็ตาม ทองคำขอฝากถึงประชาชนที่จะเข้ามาชมการแข่งเรือ ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาในงานอย่างเด็ดขาด หากพบเห็นจะเชิญออกนอกงานทันที คาดว่าปีนี้จะมีผู้เข้าชมงานคึกคักมาก กว่าหนึ่งหมื่นคน

ด้าน เบญญพร เฮงซิ้ม กำนันตำบลชัยมงคล จังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า เราเริ่มรณรงค์แข่งเรือปลอดเหล้ามาได้ 3 ปีแล้ว ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่พบว่า 90% เห็นด้วยที่ไม่มีการขายการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในงาน โดยสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เข้ามาช่วยสนับสนุนในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อให้ปลอดจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างแท้จริง นอกจากนี้ทางจังหวัดสมุทรสาครจะผลักดันให้เป็นต้นแบบแข่งเรือปลอดเหล้าอย่างแท้จริง ที่ผ่านมามีหลายจังหวัดได้เข้ามาดูงานแล้วนำรูปแบบการจัดงานกลับไปใช้ในพื้นที่ตนเอง

“ก่อนการแข่งเรือเราได้ขอความร่วมมือ โดยให้ยึดเป็นมาตรฐานเดียวกัน เช่น เสื้อของฝีพายต้องไม่ใช่เสื้อของบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภายในงานต้องไม่มีป้ายโลโก้ของบริษัทแอลกอฮอล์ ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ ขณะที่ร้านค้าก็ไม่ขาย เพราะต้องทำ ตามกติกา เราคาดหวังให้สนามแข่งเรือมีบรรยากาศที่สนุกสนาน ไม่ต้องระแวงว่าจะมีการชกต่อยกัน อีกทั้งช่วงนี้เป็นช่วงเข้าพรรษา อยากให้ผู้ที่ดื่มงดดื่มเพื่อสุขภาพของตัวเอง” กำนันตำบลชัยมงคลระบุข้อปฏิบัติที่กำหนดไว้ชัดเจน

อีกเสียงสำหรับการตอกย้ำประเพณีวิถีชุมชนต้องปลอดเหล้า สมชาย ศรเกตุ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลชัยมงคล จังหวัดสมุทรสาคร สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของงานว่า เมื่อก่อนที่ท้องถิ่นยังไม่มีการเข้มงวดในเรื่องของแอลกอฮอล์ จะพบว่ามีการทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง แต่เมื่อมีหน่วยงานที่ห่วงใยต่อปัญหาเข้ามาสร้างความตระหนักและสนับสนุน ก็ทำให้การดื่มการขายค่อยๆ ลดลง และไม่มีให้เห็นในงานแข่งเรืออีกในปัจจุบัน อีกทั้งตอนนี้ 6 หมู่บ้านชัยมงคลยังให้ความร่วมมือจัดการแข่งเรือมา 11 ปีแล้ว และจะทำให้งานแข่งเรือปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อไปทุกปี

“สมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีแหล่งน้ำที่สวยงาม มีทัศนียภาพที่ดีเป็นทุนอยู่แล้ว เหมาะอย่างยิ่งกับการอนุรักษ์ประเพณีแข่งเรือ คนสองฝั่งคลองสามารถชมการแข่งเรือได้ แต่สิ่งที่น่าห่วงคือ การแอบนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาดื่มของคนต่างถิ่น เราจึงอยากขอความร่วมมือ เพราะหวังอย่างยิ่งว่าการแข่งเรือในครั้งนี้จะไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาทำลายบรรยากาศของงาน เราอยากเห็นนักกีฬาและผู้ชมมางานด้วยใจ มีสติเต็มร้อย มาเล่นกีฬาอย่างสนุกสนาน” ผู้ใหญ่สมชายหัวใจไร้แอลกอฮอล์ กล่าวทิ้งท้าย

“การแข่งเรือปลอดเหล้า” จัดว่าเป็นกิจกรรมกีฬาท้องถิ่นที่สร้างสรรค์ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นให้อยู่ยั่งยืนและมีคุณค่า การเริ่มต้นของผู้นำท้องถิ่นและชาวตำบลชัยมงคลถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า หากพลังของคนในชุมชนท้องถิ่นร่วมมือแข็งขันกันอย่างจริงจัง การป้องกันและต่อสู้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่ทำได้ และบทเรียนของ อบต.ชัยมงคล จังหวัดสมุทรสาคร สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีในการขยายผลเป็นแม่แบบแก่พื้นที่อื่นทั่วประเทศ เพื่อให้คนในชุมชนและผู้คนต่างถิ่นที่มาเยือนได้เรียนรู้ เข้าใจ และเข้าถึงประเพณีแข่งเรือยาวของเมืองไทยอย่างแท้จริง

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ 

Shares:
QR Code :
QR Code