สานต่อพระราชปณิธานองค์ราชันของชาวไทย
ที่มา : พัชรี บอนคำ Team Content www.thaihealth.or.th
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
"…ร่างกายของเรานั้น ธรรมชาติสร้างมาสำหรับให้ออกแรงใช้งาน มิใช่ให้อยู่เฉยๆ ถ้าใช้แรง ให้พอเหมาะ พอดีโดยสม่ำเสมอ ร่างกายก็เจริญแข็งแรง คล่องแคล่ว ดังนั้น ผู้ที่ปรกติทำการงานโดยไม่ได้ใช้กำลัง หรือใช้กำลังแต่น้อย จึงจำเป็นต้องหาเวลาออกกำลังกายให้พอเพียงกับความต้องการตามธรรมชาติเสมอ ทุกวัน…" พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพิธีเปิดการประชุมใหญ่สัมมนาเรื่องการออกกำลังเพื่อสุขภาพ วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๒๓
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงต่อพสกนิกรชาวไทย แม้พระองค์ท่านจะมีพระราช
กรณียกิจมากมายในการพัฒนาประเทศ แต่พระองค์ก็ยังทรงฝึกฝน ใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ ประกอบกับพระราชอัธยาศัยที่ทรงเป็นนักวิเคราะห์ นักทดลอง ทำให้พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถหลากหลายด้าน ทั้งด้านวิชาการ ด้านการพัฒนา ด้านงานวิจัย ด้านศิลปะ
รวมไปถึงด้านการกีฬาอีกด้วย เห็นได้จากที่พระองค์ทรงโปรดเล่นกีฬาหลายประเภท เช่น สกีน้ำแข็ง ,ยิงปืน ,กอล์ฟเล็ก ,ว่ายน้ำ ,เทนนิส ,แบตมินตัน และเรือใบ ซึ่งล้วนเป็นกีฬาที่ต้องใช้ความรู้ การวางแผน และไหวพริบในการเล่นทั้งสิ้น
อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังออกกำลังพระวรกายเพื่อสุขภาพเสมอ ด้วยการเดินเร็ว และวิ่งเหยาะ โดยมีการบันทึกพระชีพจรและความดันพระโลหิตก่อนและหลังออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ เพื่อให้พระวรกายแข็งแรงสมบูรณ์ พร้อมที่จะเสด็จพระราชดำเนินทรงงานเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ของพระองค์
ดังพระราชดำรัสที่ว่า "…การรักษาความสมบูรณ์แข็งแรง เป็นปัจจัยของเศรษฐกิจที่ดีและสังคมที่มั่นคง เพราะร่างกายที่แข็งแรงจะอำนวยผลให้สุขภาพจิตใจสมบูรณ์ และเมื่อมีสุขภาพสมบูรณ์ดีพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว ย่อมมีกำลังทำประโยชน์ สร้างสรรค์เศรษฐกิจและสังคมของบ้านเมืองได้เต็มที่…" พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๒๒
ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นพระราชดำรัสแสดงให้เห็นถึงว่าการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่คอยส่งเสริมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมรวมไปถึงการพัฒนาประเทศด้วย
สอดคล้องกับการทำงานของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ที่มีหน้าที่คอยผลักดัน กระตุ้น สนับสนุนร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในสังคม ในการขับเคลื่อนกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพดีทั้ง กาย จิต ปัญญา สังคม และร่วมสร้างประเทศไทย
ด้วยการทำงานสานต่อพระราชปณิธานของพระองค์ท่านในการส่งเสริมสุขภาพของประชาชนในด้านต่างๆ เช่น สสส. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดงานวิ่งขึ้นเป็นประจำทุกปี มีเป้าหมายที่จะรณรงค์ส่งเสริมการเดิน การวิ่งเพื่อสุขภาพ ในวัยเด็ก,วัยรุ่น และวัยทำงาน เพื่อมุ่งหวังให้ประชาชนคนไทยได้มีสุขภาพที่แข็งแรง หรือจะเป็นกิจกรรม “คนหัวใจหิน งดเหล้าครบพรรษา ถวายความอาลัยพ่อของแผ่นดิน” ช่วยคนงดเหล้าให้ได้ครบตลอดพรรษา เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าบุคคลที่สามารถเลิกดื่มสุข้าไปอยราได้อย่างถาวรต้องมีความมานะ ตั้งใจ อดทน แข็งแกร่งต่อสิ่งยั่วยุทั้งหลาย ที่สำคัญ คือหากมีกำลังใจและสร้างการยอมรับจากครอบครัว ชุมชน จะช่วยให้ผู้เลิกดื่มสุรารู้สึกมีคุณค่าและเชื่อมั่นว่าตนเอง และกลายเป็นกำลังที่สร้างประโยชน์ให้สังคมและประเทศชาติต่อไป รวมถึงการเกิดตำบลสุขภาวะ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็ง ภายใต้กระบวนการใช้ปัญหาและความต้องการของพื้นที่เป็นตัวตั้งในการแก้ ปัญหา การพัฒนาอย่างมีส่วนร่วมของหลายภาคส่วน ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน และหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่
ให้เกิดเป็นตำบลต้นแบบหรือตำบลเรียนรู้ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็งและยั่งยืนตามรอยพระยุคลบาท อีกทั้งสนับสนุนชุดโครงการหมู่บ้านสร้างเสริมสุขภาพตามแนวพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จำนวน 236 หมู่บ้าน เพื่อน้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงเข้าเป็นแนวทางในการพัฒนาหมู่บ้าน นำไปสู่การเป็นศูนย์เรียนรู้ที่สำคัญของชุมชนต่างๆ
นอกจากนี้เพื่อเป็นการสานต่อพระราชปณิธานการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาพ อีกไม่นานนี้ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมนานาชาติครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย ว่าด้วยการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาพ (The International Society for Physical Activity and Health – ISPAH) เพื่อนำไปสู่นโยบายระดับชาติ โดยมีผู้เข้าร่วมจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ในวันที่ 16-19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีสมาคมนานาชาติเพื่อการมีกิจกรรมทางกายและสุขภาพและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. เป็นเจ้าภาพหลัก เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้การจัดการและแนวทางแก้ไขปัญญหาด้านสุขภาพต่อไป