สาธารณสุขอาเซียนบวกสาม ร่วมสร้างเครือข่ายระบาดวิทยา
สาธารณสุขอาเซียนบวกสาม ร่วมสร้างเครือข่ายระบาดวิทยา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศภายใต้กรอบข้อตกลงอาเซียนในการควบคุมป้องกันโรคระบาดที่เกิดขึ้นในภูมิภาคไม่ให้ลุกลาม ก่อผลเสียต่อสุขภาพอนามัยและผลกระทบด้านอื่น ๆ
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดประชุมคณะกรรมการความร่วมมือเครือข่ายด้านฝึกอบรมระบาดวิทยา ภาคสนาม ระหว่างประเทศ ครั้งที่ 3 (the 3rd steering committee meeting of asean+3 plus three field epidemiology training network : fetn) ซึ่งมีผู้บริหารระดับจากกระทรวงสาธารณสุขในกลุ่ม 10 ประเทศอาเซียนบวก 3 ประกอบด้วย บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
รวมทั้งผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ องค์การอนามัยโลกศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (us cdc) มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ (rockefellerfoundation) ร่วมประชุม 60 เพื่อสร้างเครือข่ายด้านการฝึกอบรมนักระบาดวิทยาภาคสนาม ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศภายใต้กรอบข้อตกลงอาเซียนในการควบคุมป้องกันโรคระบาดที่เกิดขึ้นในภูมิภาคไม่ให้ลุกลาม ก่อผลเสียต่อสุขภาพอนามัยและผลกระทบด้านอื่น ๆ
นพ.ณรงค์ กล่าวด้วยว่า อาเซียนบวก 3 จัดเป็นภูมิภาคใหญ่ มีประชากรรวมกันประมาณ 2,500 ล้านคนหรือประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรโลก นอกจากนี้ ในปี 2558 หรืออีก 2 ปี จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งในการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนบวก 3 เมื่อ ปี 2553 ได้มีการแถลงร่วมกันสนับสนุนให้มีการสร้างเครือข่ายในการผลิตนักระบาดวิทยา ภาคสนามของภูมิภาคเพื่อสอบสวนหาสาเหตุการระบาดและควบคุมป้องกันโรคติดต่อไม่ให้แพร่ระบาดลุกลาม
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ไทย เป็นตัวแทนในการผลักดันให้เกิดเครือข่ายด้านการอบรมระบาดวิทยาภาคสนามในภูมิภาคอาเซียนบวก 3 ขึ้น เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งระบบการควบคุมป้องกันโรคในแต่ละประเทศและเป็นเครือข่ายควบคุมโรคในภูมิภาคให้สงบโดยเร็ว ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียทั้งการเจ็บป่วยและด้านเศรษฐกิจลงได้ โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีโรคระบาดสำคัญเกิดขึ้นในภูมิภาคอาเซียนหลายโรค เช่น โรคซาร์ส ไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่โรคไวรัสนิปาห์ไวรัสที่มาเลเซีย การระบาดของโรคอุจจาระร่วงจากเชื้ออีโคไล 0157 (e coli 0157) ที่ญี่ปุ่น ซึ่งเชื้อดังกล่าวระบาดข้ามประเทศได้จากการเดินทางหรือปนเปื้อนมากับอาหารและน้ำ ส่งผลกระทบกับทุกประเทศในภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยขณะนี้มีทีมระบาดวิทยาเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคมากถึง 1,200 ทีม
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เพื่อสร้างศักยภาพของไทยในการเป็นประเทศผู้นำในการพัฒนาด้านระบาดวิทยาและประสานเครือข่ายความร่วมมือสนับสนุนให้ประเทศสมาชิก พัฒนาปรับปรุงศักยภาพด้านระบาดวิทยาภาคสนามของแต่ละประเทศ สร้างความเข้มแข็งในการควบคุมและป้องกันโรคในประเทศของตนและประเทศข้างเคียง
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า