สังเกตอย่างไร เมื่อผู้สูงวัยมี “ภาวะซึมเศร้า”
ที่มา: คู่มือการดูแลผู้สูงอายุ: สูตรคลายซึมเศร้า
ภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ เป็นปัญหาที่มักถูกมองข้าม เพราะไม่แสดงอาการทางร่างกายที่ชัดเจน แต่แท้จริงแล้ว หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแล อาจพัฒนาเป็น “โรคซึมเศร้า” ซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจ คุณภาพชีวิต และคนในครอบครัว
ผู้ดูแลควรใส่ใจสังเกตอาการต่อไปนี้ หากพบ ควรดูแลและให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม
สัญญาณเตือน “ภาวะซึมเศร้า” ในผู้สูงอายุ พร้อมแนวทางดูแล
1.กินอาหารได้น้อย น้ำหนักลด
คำแนะนำ:
- ผู้สูงอายุอาจขาดสารอาหาร ควรจัดอาหารอ่อน ย่อยง่าย
- กระตุ้นให้ทานอาหารอย่างเพียงพอ และเหมาะสมกับโรคประจำตัวที่มี
2. เบื่อหน่าย ไม่อยากทำสิ่งที่เคยชอบ ไม่ดูแลตัวเอง
คำแนะนำ:
- ชวนทำกิจกรรมง่าย ๆ ที่ทำให้รู้สึกภูมิใจ เช่น รดน้ำต้นไม้
- กระตุ้นให้ดูแลความสะอาดร่างกาย เช่น แปรงฟัน แต่งตัว
- หากมีปัญหาทางการมองเห็นหรือได้ยิน ควรพาไปตรวจรักษา
3. ปลีกตัว ไม่อยากไปไหน
คำแนะนำ:
- อย่าบังคับ แต่เริ่มจากกิจกรรมเล็ก ๆ ในบ้าน
- สร้างบรรยากาศสนุกสนานและไม่กดดัน
4. นอนไม่หลับตอนกลางคืน
คำแนะนำ:
- หลีกเลี่ยงการนอนกลางวันนานเกินไป
- หากไม่หลับตอนกลางคืน ให้ฟังเพลง ฟังธรรมะ หรืออ่านหนังสือ
- ถ้านอนไม่หลับต่อเนื่อง 3–4 วัน ควรพาไปพบแพทย์
5. พูดคุยน้อย ไม่รู้จะชวนคุยเรื่องอะไร
คำแนะนำ:
- ใส่ใจรับฟัง เปิดโอกาสให้พูด ไม่ขัดจังหวะ
- ชวนคุยเรื่องที่ผู้สูงอายุสนใจ เช่น เรื่องในอดีตหรือช่วงเวลาที่มีความสุข
- เริ่มบทสนทนาโดยผู้ดูแลเป็นฝ่ายถามก่อน
6. หงุดหงิดง่าย ฉุนเฉียว
คำแนะนำ:
- อย่าโต้เถียงหรือเสียงดัง ควรฟังอย่างเข้าใจ
- พยายามเบี่ยงเบนความสนใจไปเรื่องที่ทำให้รู้สึกดี
- สัมผัสอย่างอ่อนโยน เช่น จับมือเบา ๆ ระหว่างพูดคุย ช่วยให้ใจสงบขึ้น
7. บ่นปวดเนื้อตัวตลอดเวลา ทั้งที่ตรวจไม่พบอะไร
คำแนะนำ:
- ไม่ควรพูดว่า “ไม่ได้เป็นอะไร” แม้จะไม่มีโรคทางกาย
- ให้ความสนใจ รับฟังอาการที่บ่น เพื่อให้รู้สึกว่าได้รับความรักและใส่ใจ
สัญญาณอันตราย เมื่อผู้สูงอายุ “รู้สึกไร้ค่า” หรือ “อยากตาย” อาการเหล่านี้ถือเป็น สัญญาณเตือนอันตราย ของภาวะซึมเศร้าที่รุนแรง ซึ่งอาจนำไปสู่การทำร้ายตัวเอง
สัญญาณเตือนที่ควรเฝ้าระวัง
- พูดว่า “ไม่ไหวแล้ว”, “เบื่อโลก”, “ไม่อยากอยู่ต่อ”
- ฝากฝังลูกหลานหรือพูดราวกับลาจาก
- เริ่มจัดการทรัพย์สิน ทำพินัยกรรมโดยไม่มีเหตุผล
- อยู่ดี ๆ ก็ร่าเริงผิดปกติ เหมือนพบ “ทางออกสุดท้าย”
แนวทางการดูแลอย่างใกล้ชิด
- เฝ้าระวังพฤติกรรมแปลกไปจากเดิม แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย
- เก็บสิ่งของอันตราย เช่น เชือก ยา กรรไกร ยาฆ่าแมลง ให้พ้นมือ
- พูดถึงคุณค่าในตัวผู้สูงอายุ บอกให้ท่านรู้ว่าท่านมีความหมายต่อคนรอบข้าง
กล้าถาม = กล้าช่วยชีวิต อย่ากลัวที่จะถาม ผู้สูงอายุว่า “ช่วงนี้รู้สึกท้อแท้หรือคิดอยากทำร้ายตัวเองบ้างไหม?”
การเปิดใจพูดคุยอาจช่วยให้ผู้สูงอายุระบายความทุกข์ใจ และเปิดโอกาสให้ดูแลได้ทันท่วงที การถามไม่ได้ทำให้เกิดความคิดฆ่าตัวตาย แต่กลับเป็นการแสดงออกถึงความรักและความใส่ใจ
หากพบว่าผู้สูงอายุมีความคิดทำร้ายตัวเอง ควรรีบแจ้งผู้เกี่ยวข้องในชุมชน เช่น อสม. / ผู้ใหญ่บ้าน / ทีมพยาบาลเยี่ยมบ้าน / หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่
“การดูแลด้วยใจ” คือยารักษาที่ดีที่สุด การสื่อสารด้วยความรัก การสัมผัสด้วยความอ่อนโยน และการรับฟังด้วยความเข้าใจ เปรียบเหมือนการเยียวยาจิตใจของผู้สูงอายุอย่างลึกซึ้ง เมื่อเรามองเห็นคุณค่าในตัวท่าน ท่านก็จะเริ่มมองเห็นคุณค่าในตนเองอีกครั้ง