สสส.แนะเปิดอาเซียน ห้ามเด็กเรียนหนักขึ้น

สสส. แนะเปิดอาเซียนห้ามเด็กเรียนหนักขึ้น เชื่อเด็กเครียด – ไม่เกิดผลสัมฤทธิ์เพิ่ม

ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า เนื่องจากอนาคตเด็กไทยต้องเก่งขึ้นเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน ทำให้ทัศนคติของอาจารย์ ผู้ปกครองบางกลุ่ม สนับสนุนให้เด็กเรียนหนักขึ้น โดยนอกจากชั่วโมงเรียนปกติแล้วยังต้องเรียนพิเศษอีกด้วย แต่แนวคิดดังกล่าวจะก่อให้เกิดปัญหาตามมา เด็กจะเครียดมากขึ้น ในขณะที่ไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นเลย

“ทุกวันนี้นายจ้างยังบ่นอยู่เสมอว่า เด็กไทยคิดไม่เป็น ปรับตัวไม่ได้ เพราะทัศนคติและระบบของเราสอนให้เด็กคิดมากกว่าจำ” ทพ.กฤษดา กล่าว

สำหรับแนวทางที่ถูกต้อง ควรฝึกให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักแก้ปัญหาต้องสอนให้น้อยลง เปิดโอกาสให้คิดเองเรียนเองมากขึ้น เมื่อนั้นเด็กจะรู้ว่าตัวเองมีความสามารถและคุณค่าด้านไหน ไม่ต้องติดอยู่กับกรอบของประเทศไทยที่มีค่านิยมให้เด็กต้องเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยในกลุ่มคณะ 3-4 สาขายอดนิยมของประเทศ และท้ายที่สุดเด็กจะมีความสุขมากขึ้น เพราะไม่ต้องรับแรงกดดันของพ่อแม่และสังคม

ทั้งนี้ ในสิงคโปร์ได้ประกาศนโยบายการศึกษาอย่างชัดเจนแล้วว่าให้ “teach less, learn more” และมาเลเซียเองก็มีแนวคิดทางการศึกษาลักษณะเดียวกัน

ทพ.กฤษดา กล่าวอีกว่า การเปิดประชาคมอาเซียนยังอาจช่วยให้เกิดการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ (paradigm shift) ในสังคมไทย ขณะนี้เริ่มเห็นแนวโน้มสถาบันการศึกษาของอาเซียนเข้ามาซื้อที่ดินเพื่อตั้งสาขาในไทยบ้างแล้ว เมื่อมีการขยายสาขาหรือเปิดแฟรนไชส์ของสถาบันเหล่านี้เพิ่มขึ้น จะมีอิทธิพลต่อทัศนคติของกลุ่มอาจารย์และผู้ปกครอง และแทรกแซงตลาดการศึกษาและระบบการศึกษาไทยให้เปลี่ยนแปลงได้ทั้งระบบ

ที่ผ่านมาแม้จะมีสถาบันการศึกษาจากสหรัฐอเมริกาเข้ามาเปิดโรงเรียนนานาชาติในไทยบ้าง แต่ไม่ช่วยเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์เท่าที่ควร เนื่องจากค่าเล่าเรียนในแต่ละภาคการศึกษาสูงกว่าโรงเรียนไทยมาก แต่เมื่อเปิดประชาคมอาเซียน เชื่อว่าค่าเล่าเรียนของสถาบันการศึกษาอาเซียนน่าจะถูกกว่า ผู้ปกครองและเด็กทั่วไปที่ต้องการทางเลือกก็สามารถเข้าไปเรียนได้

เมื่อมีการกระบวนทัศน์เกิดขึ้นแล้วเชื่อว่าจะช่วยเปลี่ยนให้เด็กไทยหันมาเรียนสายอาชีพเพิ่มขึ้น ไม่ได้มุ่งแต่การเรียนต่อในมหาวิทยาลัย มีส่วนช่วยสร้างสรรค์สังคมให้หลากหลาย และทดแทนตลาดแรงงานส่วนที่ขาดแคลนได้

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

Shares:
QR Code :
QR Code