สสส.เปิดคอร์สกู้ชีพอบรม จนท.สภา

แนะการช่วยชีวิต

          กมธ.สาธารณสุข สภาฯ จับมือ สสส. เปิดคอร์สกู้ชีพ อบรมเจ้าหน้าที่สภา-ผู้ติดตาม ส.ส.และ ส.ว.-สื่อมวลชน หลังพบผู้บริหารระดับสูง วูบกว่า 9 ราย เสียชีวิตกลางสภา ถึง 2 คน ชี้ภาวะหัวใจหยุดเต้น มีเพียง 4 นาที ช่วยชีวิต 

          เมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดอบรมหลักสูตรหลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการกู้ชีพ ให้กับเจ้าหน้าที่ประจำรัฐสภา ผู้ติดตามและพนักงานขับรถ ส.ส.และ ส.ว. รวมทั้งสื่อมวลชนประจำรัฐสภา จำนวน 40 คน

          นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า โรคที่เกิดจากการทำงานในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงมีมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีรัฐมนตรี ส.ส. และ ส.ว. เป็นลมและวูบในระหว่างการปฏิบัติงานไปแล้วถึง 9 ราย จึงเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่า สุขภาพของผู้บริหารระดับสูงทางการเมืองกำลังมีปัญหา นอกจากนี้ยังเกิดเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตในรัฐสภาถึง 2 ราย ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน  ซึ่งการเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น โรคหัวใจ การสำลักอาหาร การแพ้พิษ จมน้ำ รวมทั้งการหยุดหายใจ หรือที่เรียกว่า หัวใจวาย ซึ่งเมื่อเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น มีเพียง 4 นาทีเท่านั้น ที่จะทำการช่วยชีวิต  ดังนั้นการจัดกิจกรรมครั้งนี้จึงถือเป็นช่องทางในการเข้าถึงความรู้ที่จะสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้ประสบอุบัติเหตุได้อย่างทันท่วงทีและถูกวิธี และยังสามารถนำความรู้ที่ได้ ไปถ่ายทอดแก่ครอบครัวหรือผู้ใกล้ชิด รวมทั้งประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

          นางเบญจมาภรณ์ จันทรพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพและบริการสุขภาพ สสส. กล่าวว่า การจัดอบรมหลักสูตร “การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการกู้ชีพ” มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ในการกู้ชีพ และการปฐมพยาบาล สามารถนำไปใช้ในการช่วยเหลือชีวิตผู้ประสบภัยเบื้องต้น ก่อนส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาต่อไป ซึ่งการอบรมจะประกอบด้วยการให้ความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การแก้ไขภาวะช็อค และการหมดสติ ภาวะตกเลือด การช่วยเหลือกรณีหัวใจหยุดเต้น การรักษาบาดแผล และสิ่งมีพิษ จากนั้นจะเข้าสู่การฝึกปฏิบัติการ ซึ่งมี 3 ฐานปฏิบัติการ ฐานแรกเป็นการช่วยชีวิตขั้นมูลฐาน ฐานที่ 2 คือ การห้ามเลือด และฐานที่ 3 คือการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างถูกวิธี  โดยมีศูนย์นเรนทร เป็นผู้สาธิตและฝึกอบรม

ที่มา : สำนักข่าว สสส.

Update : 08-09-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร