สสส.อบรมผู้นำเรียนรู้กระโดดเชือกถูกวิธี
ที่มา : เว็บไซต์คมชัดลึกออนไลน์
แฟ้มภาพ
สสส. จับมือ สมาคมกีฬากระโดดเชือก (ไทย) จัดอบรมทักษะการกระโดดเชือกเพื่อสุขภาพให้กับเยาวชนและเเกนนำชุมชน มุ่งหวังให้มีสุขภาพที่ดีและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ร่วมถึงสามารถพัฒนาเพื่อการแข่งขันอีกด้วย ณ โรงเรียนวัดประดู่ธรรมธิปัตย์ 21-22 ต.ค.นี้
รศ.ชัชชัย โกมารทัต อุปนายกสมาคมกีฬากระโดดเชือกไทย ร่วมด้วย อ.มณฑป ผลสินธุ์ เลขาธิการสมาคมกีฬากระโดดเชือกไทย เปิดโครงการการสร้างเสริมสุขภาพทางกายด้วยกีฬากระโดดเชือก ครั้งที่ 3 เพื่อสุขภาพให้แก่เยาวชนและแกนนำชุมชนเพื่อเพิ่มกิจกรรมทางกาย นำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เมื่อวันที่ 21-22 ต.ค. ที่ ร.ร.วัดประดู่ธรรมาธิปัตย์
โครงนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสมาคมกีฬากระโดดเชือกไทย จัดอบรมทักษะการกระโดดเชือกเพื่อสุขภาพให้เยาวชนและแกนนำชุมชนเพื่อเพิ่มกิจกรรมทางกายนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยแบ่งเนื้อหาเป็น 3 ส่วนดังนี้ 1.รู้จักภัยร้ายที่มาจากการขาดกิจกรรมทางกายอย่างพอเพียง 2.การกระโดดเชือกที่ถูกวิธีเพื่อสุขภาพที่ดีในทุกช่วงวัย และ 3.การกระโดดเชือกเพื่อการแข่งขันกีฬากระโดดเชือก
สำหรับกิจกรรรมนี้เกิดขึ้นเนื่องจากในสถานการณ์ผลเสียที่มาจากการมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอที่นำไปสู่การเจ็บป่วยนั้น มีรายงานจากองค์กรอนามัยโลกว่าในปัจจุบันมีประชากรเสียชีวิตจากการมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอรวมปีละ 3.2 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 5.5 ของประชากรโลก และ มีแนวโน้นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในส่วนของประเทศไทยพบว่าการตายก่อนวัยอันควรและการเจ็บป่วยพิการของไทยคิดเป็นมูลค่าการสูญเสียมากถึง 9.3 แสนล้านบาท หากนับเฉพาะการขาดกิจกรรมทางกายคิดมูลค่าการเสียเป็นเงินราว 5,977 ล้านบาท รวมถึงภาวะอ้วน น้ำหนักเกินจากการขาดกิจกรรมทางกายควบคู่กับการบริโภค อาหารไม่เพียงพอคิดเป็นเงินราว 12.142 ล้านบาท การมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอจึงมีมีความสาคัญ อย่างยิ่ง ประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปควรมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ ขณะที่ประชากรวัน 11-17 ปี ควรมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลาง อย่างน้อย 60 นาทีต่อทุกวัน ซึ่งผลลัพธ์ของการ
มีกิจกรรมที่เพียงพอทำให้ประชากร ทุกช่วงวัยมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคอ้วนหรือภาวะโภชนาการเกินเพิ่มมากขึ้นตลอดจนลดพฤติกรรมเนือยนิ่งในระดับบุคคล ปราศจากอบายมุขและปัจจัยที่ทำลายสุขภาพต่างๆ การออกกำลังกายด้วยกีฬากระโดดเชือกจึงเป็นกิจกรรมที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ดังนั้นสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้ร่วมกับสมาคมกีฬากระโดดเชือกไทย จัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้นมาเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ทักษะการกระโดด เชือกอย่างถูกวิธีเพื่อลดปัญหาดังกล่าว
โปรแกรมการอบรมสัมมนาเมื่อวันที่ 21-22 ตุลาคม ประกอบด้วยการรู้จักกีฬากระโดดเชือกและการแข่งขันกระโดดเชือกจาก อ.มณฑป ผลสินธุ์ ต่อด้วยองค์ความรู้ใหม่เรื่องการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายสำหรับผู้นำกีฬากระโดดเชือก โดย รศ.ชัยชัย โกมารทัต และจิตวิทยาการกีฬาสำหรับผู้นำกีฬากระโดดเชือก โดย อ.ปฐมพร สมบัติทวี และยังมีการจำลองการแข่งขันกีฬากระโดดเชือกให้ผู้อบรมอีกด้วย