สสส.หนุน “กลุ่มฮักบ่อเกลือ” ดูแลป่ารักษาธรรมชาติ

สร้างจิตสำนึกชุมชน เห็นคุณค่าทรัพยากรท้องถิ่น

 

สสส.หนุน “กลุ่มฮักบ่อเกลือ” ดูแลป่ารักษาธรรมชาติ 

          ปัญหาการบุกรุกผืนป่าเพื่อขยายพื้นที่ทำกินทางการเกษตร ในพื้นที่ป่าต้นน้ำสายสำคัญต่างๆ ของประเทศ ได้ส่งผลกระทบต่อระบบและความสมดุลทางธรรมชาติ ความอุดมสมบูรณ์ในด้านต่างๆ ที่เคยมีในอดีตได้ลดน้อยลงไป จนเริ่มส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตทั้งชุมชน ที่อาศัยอยู่ในป่าต้นน้ำและชุมชนที่อยู่ปลายน้ำ

 

          อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ประสบปัญหาดังกล่าว เนื่องจากเป็นพื้นที่ภูเขาชุมชนส่วนใหญ่ชาวบ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าต้นน้ำสายสำคัญคือ ลำน้ำว้าและ ลำน้ำมางซึ่งจะไหลรวมกันเป็นแม่น้ำน่าน

 

          เมื่อป่าต้นน้ำเริ่มเสื่อมโทรมลงด้วยปัญหาการถูกบุกรุก เพื่อทำการเกษตรและการใช้สารเคมี ทำให้ระบบนิเวศวิทยาเกิดความเปลี่ยนแปลง ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยลำน้ำทั้งสองสายหล่อเลี้ยงชีพมานานหลายชั่วอายุคน

 

          กลุ่มคนฮักเมืองน่าน อำเภอบ่อเกลือ ซึ่งประกอบด้วยผู้นำชุมชนในทุกระดับได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์แหล่งน้ำและพื้นที่ป่า จึงได้จัดทำ โครงการน้ำว้า น้ำมาง สายน้ำแห่งชีวิต ชุมชนบนพื้นที่สูง

 

          เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ต้นน้ำ เห็นถึงความสำคัญของการรักษาแหล่งน้ำและป่าให้คงความอุดมสมบูรณ์ไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน โดยมี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้การสนับสนุน

 

          น.ส.งามจิตต์ จันทรสาธิต ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนโครงการเปิดรับทั่วไป สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า สสส.เล็งเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ เพราะน้ำมีความเกี่ยวโยงกับการดำเนินชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

          ชุมชนที่ใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติในการอุปโภคและบริโภค จึงจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการลุ่มน้ำในชุมชนของตนเอง ให้คงความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืนยาวนาน

 

          โครงการนี้จะช่วยส่งเสริมให้คนในชุมชนที่อาศัยอยู่ต้นน้ำน่าน ได้ตระหนักถึงคุณค่าทรัพยากรน้ำ ซึ่งชาวบ้านจะเกิดความระมัดระวังในการใช้ทรัพยากรน้ำมากยิ่งขึ้น ทั้งการนำน้ำไปใช้ในภาคการเกษตร หรือการทำกิจกรรมอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำ เช่น การตัดไม้ หรือการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม เป็นต้นน.ส.งามจิตต์ กล่าว

 

          นายเมธาวัฒน์ พุทธิธาดากุล ประธานโครงการน้ำว้า น้ำมางฯ เปิดเผยว่า โครงการฯ นี้ได้เริ่มดำเนินการเมื่อเดือนกันยายน 2551 เพื่อสานต่อโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของกลุ่มคนฮักบ่อเกลือที่ต้องการอนุรักษ์ป่าและน้ำซึ่งเป็นฐานทรัพยากรอาหารและอาชีพ

 

          โดยดำเนินการในพื้นที่ 4 ตำบลในอำเภอบ่อเกลือ ได้แก่ ต.ดงพญา ต.บ่อเกลือเหนือ ต.บ่อเกลือใต้ และ ต.ภูฟ้า ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม

 

           ในอดีตเกษตรกรมักทำไร่เลื่อนลอย มีการตัดไม้ที่อยู่บริเวณต้นน้ำไปใช้ประโยชน์ โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ประกอบกับสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชันจึงเกิดการชะล้างพังทลายของดิน คุณภาพดินต่ำ ทำให้ต้องขยายพื้นที่ทำกิน จึงเกิดปัญหาการบุกรุกทำลายป่าเพื่อเปิดพื้นที่ทำการเกษตรใหม่

 

          ผลกระทบที่ตามมานอกจากพื้นที่ป่าจะถูกทำลายแล้ว ยังเกิดปัญหาแม่น้ำตื้นเขิน แม่น้ำปนเปื้อนสารเคมีทางการเกษตร จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรณรงค์ สร้างจิตสำนึกให้เกษตรกรชุมชนบนพื้นที่สูงได้ร่วมกันอนุรักษ์ ป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิตชุมชนบนพื้นที่สูงนายเมธาวัฒน์ กล่าว

 

          โครงการน้ำว้า น้ำมางฯ เริ่มดำเนินการโดยค้นหาแกนนำกลุ่มอนุรักษ์ ทั้งในกลุ่มผู้นำชุมชน และผู้นำเยาวชนของท้องถิ่น ซึ่งจะลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับคนในชุมชนผ่านเวทีทั้งในระดับตำบลและหมู่บ้าน เพื่อให้ทุกคนเกิดความตระหนักและเข้าใจในแนวทางการทำงาน ซึ่งตำบลดงพญา เป็นอีกตำบลหนึ่งที่นำแนวทางการดำเนินการของโครงการฯ มาใช้เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรของท้องถิ่น

 

          โดยในตำบลแห่งนี้มี 7 หมู่บ้าน มีประชากรราว 3 พันคน ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวโพด และข้าวไร่ ซึ่งเกิดปัญหาการตัดถางป่าเพื่อใช้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมเช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ

 

          นายมี งามนิธิวุฒินันท์ รองนายก อบต.ดงพญา เปิดเผยว่า ปัจจุบันตำบลดงพญาได้กำหนดให้เขตพื้นที่บริเวณที่เป็นป่าต้นน้ำให้เป็นเขตป่าชุมชน มีกฎระเบียบป่าชุมชนห้ามตัดไม้และห้ามทำเกษตรกรรมในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ไว้ให้มากที่สุด

 

          จากการสำรวจพบว่า พื้นที่ตำบลดงพญามีลำห้วยซึ่งไหลมาจากป่าต้นน้ำทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่จำนวน 239 ลำห้วย จึงได้มีการจัดพื้นที่ป่าต้นน้ำของทุกลำห้วยให้เป็นเขตป่าชุมชน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ที่อาศัยอยู่บริเวณริมน้ำทุกแห่งมีน้ำใช้เพียงพอต่อการอุปโภคและบริโภคโดยไม่ขาดแคลน และมีการขอความร่วมมือในการลดใช้สารเคมีในการทำเกษตรกรรมทุกประเภท ซึ่งชาวบ้านก็เห็นด้วยเพราะต่างตระหนักดีว่าน้ำคือชีวิตนายมี กล่าว

 

          กิจกรรมที่ทาง อบต.ดงพญา ทำร่วมกับสมาชิกในชุมชน เน้นหนักในการสร้างจิตสำนึกให้รู้จักหวงแหนและสานต่อดูแลทรัพยากรที่มีอยู่แล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนจะมีการจัดกิจกรรม ทำประวัติแม่น้ำ

 

          โดยให้เยาวชนขอข้อมูลจากผู้อาวุโสเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของแหล่งน้ำสายต่างๆ ในชุมชนรวมถึงสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์ที่เคยมีอยู่ในอดีต แล้วนำมาเปรียบเทียบด้วยตนเองว่าในปัจจุบันมีทรัพยากรสิ่งใดที่สูญหายไปบ้าง แล้วนำมาร่วมคิดร่วมทำกับเครือข่ายเยาวชนนักอนุรักษ์ใน อ.บ่อเกลือ ในการหาวิธีฟื้นฟูธรรมชาติในท้องถิ่น

 

          ด้าน นายวัน อินสุด คณะกรรมการป่าชุมชน ต.ดงพญา กล่าวว่า กว่า 66 ปีที่ตนเองได้ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำน่านได้เห็นความเปลี่ยนแปลงมากมาย ในอดีตป่ามีความอุดมสมบูรณ์มีสัตว์ป่าหลายชนิดชุกชุม แต่ได้สูญหายไปเนื่องจากการรุกล้ำเขตป่าต้นน้ำซึ่งเป็นแหล่งหากินของสัตว์ สายน้ำที่เคยใสสะอาดก็กลายเป็นน้ำโคลนสีแดงขุ่นจนใช้บริโภคไม่ได้

 

          ในวันนี้ชาวบ้านต่างตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น และได้ช่วยกันดูแลรักษาป่าต้นน้ำอย่างเต็มที่ ทำให้เริ่มพบเห็นสัตว์ป่าที่เคยสูญหายอีกครั้ง ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นว่าป่าเริ่มกลับมาอุดมสมบูรณ์เหมือนในอดีต

 

          ซึ่งหากเรามีป่าที่สมบูรณ์ก็จะทำให้ลูกหลานและเด็กรุ่นใหม่ได้อาศัยอยู่ในผืนแผ่นดิน ซึ่งมีสายน้ำแห่งชีวิตอันอุดมสมบูรณ์ไว้คอยหล่อเลี้ยงทุกลมหายใจของคนต้นน้ำและคนปลายน้ำไปอีกนานแสนนาน

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

 

 

update 12-01-52

 

Shares:
QR Code :
QR Code