สสส.มุ่งพัฒนาสร้างสุขอนามัยโรงเรียน

สสส.มุ่งพัฒนาสร้างสุขอนามัยโรงเรียน 

 

            นายชายกร สินธุสัย นักวิชาการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีแห่งชาติ (ไบโอเทค) ผู้จัดการโครงการ “โครงงาน (เชิง) วิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า” สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ โครงการได้จัดอบรมโครงงานวิทยาศาสตร์ ให้เกิดการพัฒนาด้านคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา แก่นักเรียนในเขตภาคกลางและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นเครือข่ายของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พบว่า มีนักเรียนให้ความสนใจส่งโครงงานเข้าร่วมถึง 86 โครงงาน โดยส่วนใหญ่จะทำโครงงานที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพพื้นฐานใกล้ตัว ได้แก่ อาหาร ขยะ ห้องน้ำ น้ำดื่มน้ำใช้ และความเสี่ยงของพาหะนำโรค เป็นต้น

 

            นายชายกร กล่าวต่อว่า โครงงานที่นักเรียนนำเสนอ มีคุณค่ามากกว่าโครงงานวิทยาศาสตร์ตามหลักสูตรปกติ ทั่วไป ที่มักเน้นไปที่การแข่งขัน เด็กที่เข้าร่วมจึงต้องเป็นเด็กเก่ง เรียนดี ทำให้เด็กเกิดความรู้สึกว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องยาก ทั้งที่ความเป็นจริงวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องใกล้ตัว หากพวกเขารู้จักสำรวจ วิเคราะห์และประเมินผลอย่างเป็นขั้นตอน นั่นละคือวิทยาศาสตร์แล้ว ดังนั้นการทำโครงงานนี้ นักเรียนต้องสร้างกระบวนการคิด การทำงานทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องนำไปใช้ได้จริงในโรงเรียนซึ่งพัฒนาสุขภาพได้ และต้องนำความรู้ที่ได้ไปกระจายสู่ชุมชนของตนเอง นอกจากนี้ ยังได้ฝึกการแก้ปัญหาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมผ่านโครงงานที่ทำด้วย

 

สสส.มุ่งพัฒนาสร้างสุขอนามัยโรงเรียน

 

            “สำหรับโครงการ “โครงงาน (เชิง) วิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า” ยังอยู่ระหว่างการดำเนินงานในระยะที่ 2 ปี 2552 ถึง 2555 โดยจะยังจัดกิจกรรมเช่นนี้ให้แก่นักเรียนที่สนใจทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาระบบสุขอนามัยแก่สถาบันการศึกษาให้มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น โดยโครงการจะจัดลำดับสำคัญ และมุ่งการพัฒนาด้านสุขลักษณะในโรงเรียน ทั้งในด้านอาหาร โรงครัว สิ่งแวดล้อม ห้องน้ำ หอพัก ที่ทิ้งขยะให้มากขึ้น เนื่องด้วยประเด็นปัญหาเหล่านี้ เป็นเรื่องใกล้ตัวและเป็นประเด็นร่วมที่เกือบทุกโรงเรียนประสบอยู่มากน้อยต่างกัน มีการพยายามสร้างกิจกรรมเพื่อจัดการ สามารถมองเห็นเป็นรูปธรรม จนนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาจับต้อง และคลี่คลายปัญหาให้เห็นผลชัดเจนได้ ช่วยให้นักเรียนและครูสามารถมีส่วนร่วมกับโครงงานวิทยาศาสตร์ ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กเก่ง เพราะไม่ได้เน้นที่ผลการแข่งขัน” นายชายกรกล่าว

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

 

update : 04-01-54

อัพเดทเนื้อหาโดย : ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน

Shares:
QR Code :
QR Code