สสส.ชูผลคอร์สลดพุงสส.-สว.
กินถูกหลักน้ำหนักลดสุขภาพดี
สสส. สรุปผลคอร์สลดพุงส.ส.-ส.ว. “ภราดร” คว้ารางวัลมีสเตอร์สุขภาพดี ขณะที่ส.ส.หญิงเพื่อไทย-นักข่าวช่อง 9 คว้ามีสสุขภาพดี แพทย์รามาฯ แนะ 4 วิธีดูแลสุขภาพของคนวัยทำงาน
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เครือข่ายคนไทยไร้พุง และคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี แถลงข่าวผลการจัดกิจกรรมคอร์สลดพุง เพื่อมอบรางวัล “มีสเตอร์แอนด์มีสสุขภาพดี” ในองค์กรนิติบัญญัติ โดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เป็นประธาน
นายชัย ชิดชอบ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมตามโครงการสร้างเสริมสุขภาพในองค์กรทางนิติบัญญัติของสสส.ในครั้งนี้ นับว่าเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ที่ได้มีการเฟ้นหา “บุคลากรต้นแบบ” เพื่อเป็นตัวอย่างนำร่องให้กับหน่วยงานอื่น ๆ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพ รวมทั้งเป็นการสร้างค่านิยมให้ประชาชนได้เห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการดูแลรักษาสุขภาพ จนเกิดเป็นพฤติกรรมที่เป็นปกติในชีวิตประจำวันต่อไป
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ รองผู้จัดการสสส. กล่าวว่า กิจกรรมคอร์สลดพุง ประกอบด้วย 3 ปฏิบัติการที่สำคัญคือ 1. ปฏิบัติการ“มหันตภัยจากความอ้วนที่คุณคาดไม่ถึง” โดยการเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงเคล็ดลับการลดน้ำหนัก 2. ปฏิบัติการ “กินอย่างไร ให้หุ่นสวย” ที่มีการให้ความรู้เรื่องเมนูอาหารที่เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละคน และ3. ปฏิบัติการex ex_exercise ซึ่งเป็นเทคนิคการออกกำลังกายที่เหมาะสมในแต่ละวัย และเทคนิคการควบคุมอารมณ์เพื่อควบคุมน้ำหนักอย่างถาวร ซึ่งกิจกรรมการอบรมดังกล่าวได้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม-25 พฤศจิกายน 2552 ก่อนปิดสมัยการประชุม
ทพ.กฤษดา กล่าวว่า ในช่วงเปิดสมัยการประชุมได้มีการวัดผลติดตามการลดน้ำหนักของผู้เข้าอบรม เพื่อหาต้นแบบของการมีสุขภาพที่ดีในองค์กรนิติบัญญัติ ซึ่งพบว่า มี ส.ส. ข้าราชการ และสื่อมวลชน ที่เป็นต้นแบบสุขภาพ 4 รางวัล ประกอบด้วย มีสเตอร์สุขภาพดีในกลุ่มส.ส. คือ นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา โดยมีน้ำหนักแรกเข้าคอร์ส 63 ก.ก. และหลังเข้าคอร์ส 58 ก.ก. ลดได้ 5 ก.ก., มีสสุขภาพดีในกลุ่มส.ส. คือ น.ส.สุนทรี ชัยวิรัตนะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยมีน้ำหนักแรกเข้าคอร์ส 84 ก.ก. หลังเข้าคอร์ส 82 ก.ก. ลดได้ 2 ก.ก. สำหรับมีสสุขภาพดีในกลุ่มข้าราชการคือ น.ส.หทัยรัตน์ ครุฑบุญ โดยมีน้ำหนักแรกเข้าคอร์ส 77 ก.ก. หลังเข้าคอร์ส 72 ก.ก. ลดได้ 5 ก.ก. และมีสสุขภาพดีในกลุ่มสื่อมวลชนคือ น.ส.ดาวี ไชยคีรี ผู้สื่อข่าว
นพ.ฆนัท ครุธกูล ผู้จัดการศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลรามาธิบดี ในฐานะผู้อบรมคอร์สลดพุง กล่าวว่า โรคอ้วนเป็นปัญหาสำคัญที่คนส่วนใหญ่ในสังคมเริ่มตื่นตัวมากขึ้น แม้กระทั่งส.ส. ส.ว. เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจ ซึ่งในแต่ละครั้งของการอบรมมีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 150 คน ในการอบรมจะเน้นเรื่องการดูแลสุขภาพ ควบคุมน้ำหนักและสัดส่วนของร่างกาย รวมถึงการให้ความรู้ด้านโภชนาการ หลายคนพบว่ามีสุขภาพดีขึ้นอย่างชัดเจน แม้บางคนน้ำหนักไม่ลด แต่มีกล้ามเนื้อแทนไขมันเพิ่มขึ้น ซึ่งกลุ่มข้าราชการเป็นกลุ่มที่เห็นผลอย่างชัดเจน ส่วนส.ส.และส.ว.เนื่องจากติดภารกิจ ทำให้บางส่วนเข้าไม่ต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่เข้าต่อเนื่องและน้ำหนักลดอย่างเห็นผลคือ นายภราดร และน.ส.สุนทรี ที่สามารถเป็นต้นแบบของการมีสุขภาพที่ดี อย่างไรก็ตามเรื่องน้ำหนักตัวควรดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
“สำหรับความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการลดน้ำหนักในกลุ่มส.ส.และส.ว. คือ พฤติกรรมอดมื้อเช้า แล้วทานมื้อเย็นหรือทานมื้ออดมื้อ ทำให้น้ำหนักไม่ลด เพราะมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญ แต่ควรลดปริมาณมื้อเย็นแทน และยังพบว่าอาหารว่างในห้องประชุมที่มีน้ำตาลสูง เป็นตัวการณ์สำคัญที่ทำให้น้ำหนักขึ้น รวมทั้งการพักผ่อนน้อยทำให้สุขภาพแย่ลง ดังนั้น 4 วิธีการดูแลสุขภาพสำหรับวัยทำงาน คือ 1.รับประทานอาหารเช้า 2.ลดปริมาณอาหารมื้อเย็น 3.หลีกเลี่ยงอาหารว่างระหว่างประชุม และ4.หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้การมีสุขภาพดีก็ไม่ใช่เรื่องยาก” นพ.ฆนัท กล่าว
ที่มา : สำนักข่าว สสส.
update 10-05-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ฤทัยรัตน์ ไกรรอด