สร้างโอกาสเด็กพิเศษ สู่โลกการทำงาน
ผลวิจัยชี้เด็กออทิสติกเรียนสายอาชีพได้ พร้อมจัดระบบ-หลักสูตร-ครูรองรับ หากสามารถดึงเด็กพิเศษเข้าสู่ตลาดงาน จะสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ พร้อมผนึกกำลังการเรียนรู้สู่โลกของงาน ดึงกรมสุขภาพจิต ร่วมคัดกรองศักยภาพผู้เรียน-พม.พร้อมหนุนกองทุนผู้พิการปลอดดอกเบี้ยผู้ประกอบการรายใหม่
4 พ.ย. 58 ที่วิทยาลัยสารพัดช่างนครหลวง ได้มีการจัดงาน “สารพัดช่าง…สร้างโอกาสเด็กพิเศษ” โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว และเครือข่ายผู้ปกครองเด็กพิเศษ
นายวณิชย์ อ่วมศรี รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า การจัดการสอนสายอาชีพของวิทยาลัยสารพัดช่างมีความยืดหยุ่นสูงสำหรับผู้ที่มีความต้องการพิเศษทางการเรียนรู้ เพราะเป็นการฝึกทักษะการประกอบวิชาชีพที่สามารถเลือกเรียนสาขาอาชีพได้หลากหลายตามความสนใจ เพื่อให้เขาสามารถเข้าทำงานในสถานประกอบการ หรือออกไปประกอบอาชีพได้เอง ซึ่งเป็นการลดภาระผู้ปกครองและสามารถดูแลตัวเองได้ในสังคม
ทั้งนี้จากข้อมูลของ สสค.พบว่า หากสามารถสร้างทักษะการทำงานที่เหมาะสมให้แก่เด็กที่มีความต้องการทางการเรียนรู้พิเศษอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปีแล้ว เด็กพิเศษเหล่านี้สามารถประกอบอาชีพเพื่อหาเลี้ยงตนเองได้ตลอดวัยทำงานนานถึง 45 ปี ดังนั้นหากเด็กพิเศษที่เกิดในแต่ละปีจำนวนเฉลี่ยปีละ 10,000 คน (ข้อมูลของสำนักงานบริหารการศึกษาพิเศษ สพฐ. รายงานจำนวนนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษทางการเรียนรู้ ในระดับชั้นม.3 ในปี 2556 จำนวน 9,546 คน) ได้รับโอกาสในการสร้างเสริมทักษะการทำงานเช่นเดียวกันนี้ จะช่วยสร้างโอกาสและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจจากการเพิ่มอัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานของประชากรกลุ่มนี้ได้สูง
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นมิติใหม่ในการจัดการสอนแก่ผู้บกพร่องทางการเรียนรู้ของอาชีวศึกษาจึงต้องมีการพัฒนาครูและหลักสูตรรองรับ แต่ขณะนี้ยังขาดข้อมูลว่าเด็กบกพร่องการเรียนรู้มีจำนวนเท่าใด มีมากน้อยที่จังหวัดใด ระบบข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากเพื่อช่วยจัดระบบไว้รองรับ
ดร.ชนิศา ตันติเฉลิม หัวหน้าโครงการวิจัยแนวทางการจัดการศึกษาสำหรับผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษทางการเรียนรู้ในสายอาชีพเพื่อการมีงานทำ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการสนับสนุนของ สสค. กล่าวว่า จากผลการวิจัยเชิงลึกถึงการเปิดสอนหลักสูตรระยะสั้นสำหรับเด็กบกพร่องทางการเรียนรู้พบว่า ผู้เรียนที่มีภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้สามารถเรียนสายอาชีพได้และครูอาชีวะมีศักยภาพในการสอนอาชีพ แต่ยังขาดความเข้าใจในวิธีจัดการพฤติกรรมอารมณ์ของผู้เรียน ทั้งนี้รูปแบบการจัดระบบการสอนอาชีวศึกษาต้องมีทั้งเชิงรับและเชิงรุก โดยเชิงรับ คือ การเปิดหลักสูตร การเตรียมความพร้อมบุคลากรเพื่อรองรับ ส่วนเชิงรุกคือเปิดตามความต้องการของตลาดและความสนใจของผู้เรียนแล้วจัดหลักสูตรระยะสั้นรองรับ รวมถึงการจัดทำระบบการรับเด็ก อาจจัดเป็น open house 108 อาชีพ ให้ได้ทดลองฝึกเพื่อดูความสนใจของผู้เรียน
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันนี้มีรูปแบบการเรียนสายอาชีพสำหรับเด็กพิเศษตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมเพื่อเตรียมความพร้อมเด็ก ถ้ามีการเชื่อมต่อมายังอาชีวศึกษาจะทำให้เด็กมีทักษะเพียงพอในการประกอบอาชีพได้จริง สิ่งสำคัญต้องดำเนินการอยู่ 3 ด้าน คือ 1.เตรียมผู้เรียนให้พร้อมเมื่อเข้าสู่สังคมใหม่ซึ่งเหมือนกับเด็กทั่วไป จึงควรจัดปฐมนิเทศและการทดลองฝึกในช่วงก่อนเปิดเรียนเพื่อสร้างความคุ้นเคยระหว่างครูกับเด็ก 2.การเตรียมครูผู้สอนกับครูผู้ดูแล โดยให้ครูผู้สอนมีความเข้าใจ แต่ควรมีครูผู้ดูแลทำหน้าที่ช่วยครูผู้สอนหากเด็กมีพฤติกรรมรุนแรงในชั้นเรียน โดยอาจนำเด็กออกจากห้องและต้องรู้จักวิธีการปรับให้เด็กสามารถกลับเข้าสู่ชั้นเรียนได้ตามปกติ รวมถึงเป็นผู้ช่วยให้เด็กปรับตัวในโรงเรียนซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เปิดสำหรับเด็กโต ในส่วนนี้วิทยาลัยสารพัดช่างเชียงใหม่ มีครูผู้ดูแลได้อย่างเป็นระบบ 3.พ่อแม่ต้องผ่านการอบรมเพื่อทำความรู้จักโรงเรียนและหลักสูตรที่ลูกจะเรียน เพื่อเป็นคนสนับสนุนลูกอย่างไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ซึ่งกรมสุขภาพจิตมีจิตเวชกระจายอยู่ทั่วประเทศยินดีเป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือวิทยาลัยของอาชีวศึกษา
นายสมชาย เจริญอำนวยสุข อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีศูนย์สำหรับพัฒนาทักษะของผู้ที่พิการทางสติปัญญา 2 แห่ง ทั้งศูนย์ออทิสติกนนทบุรี และศูนย์ออทิสติกขอนแก่น ซึ่งรับคนทั่วประเทศดูแลคนกว่าพันคนโดยเน้นฝึกทักษะการใช้ชีวิตและการฝึกอาชีพ ซึ่งพบว่า นายจ้างพึงพอใจและต้องการกลุ่มคนเหล่านี้ในสถานประกอบการหากเขาสามารถทำงานในสิ่งที่ใช่และชอบ มีตัวอย่างการทำงานร่วมกับศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการแห่งเอเชียและแปซิฟิกซึ่งพบว่ามีเด็กออทิสติก 10 คน ชอบทำขนมปัง ทางศูนย์จึงประสานร้านค้ายามาซากิเพื่อรับเด็กเหล่านี้มาร่วมฝึกจนกระทั่งทำเป็นและเปิดร้านยามาซากิข้างตึกสมเด็จพระเทพฯ รพ.รามาธิบดี ซึ่งจะมีเด็กที่ทำขนมปัง แคซเชียร์ เด็กเสิร์ฟ ทั้งร้านเป็นเด็กออทิสติก ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมการสอนทักษะการบริหารร้าน โดยมีพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำ ซึ่งวิทยาลัยสารพัดช่างมีจุดเด่นคือ หลักสูตรระยะสั้น 108 อาชีพ จึงเป็นหลักสูตรอาชีพที่หลากหลายตามที่เด็กสนใจ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการจึงยินดีประสานเพื่อส่งต่อเด็ก เพราะการฝึกอาชีพบางครั้งก็มีข้อจำกัดทั้งบุคลากรและอุปกรณ์การฝึก รวมถึงมีกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผู้ทรงคุณวุฒิ สสค. กล่าวว่า โครงการนำร่องที่วิจัยสารพัดช่างสร้างโอกาสแก่เด็กพิเศษโดยการสนับสนุนของสอศ. ร่วมกับสสค.และครุศาสตร์จุฬาฯ ทำให้เกิดข้อค้นพบว่า เด็กออทิสติกสามารถเรียนได้ โดยต้องมีการจัดระบบ จัดเงื่อนไขปัจจัยให้เขา องค์ความรู้เหล่านี้จะช่วยให้เกิดการขยายผลไปยังวิทยาลัยสารพัดช่างหรือสถาบันการอาชีวศึกษาอื่นๆ ต่อไป ในระยะยาวจึงคาดหวังการทำงานร่วมกันเชิงระบบ เช่น กรมสุขภาพจิตมีส่วนช่วยเหลือครูอาจารย์ในอาชีวศึกษาให้มีความรู้เรื่องการคัดกรอง มีความรู้เรื่องการออกแบบกิจกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของเด็ก ส่วนกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการก็มีบทบาทในการสนับสนุนทุนส่งเสริมอาชีพ ถ้าเป็นความร่วมมือหลายภาคีจะเป็นระบบที่มีความยั่งยืน ทำให้เห็นว่าการอาชีวศึกษาไม่ใช่สร้างโอกาสในการแข่งขันของประเทศเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทในการลดความเหลื่อมล้ำสู่เส้นทางอาชีพที่ยั่งยืน
สำหรับวิทยาลัยสารพัดช่างทั้ง 6 แห่ง ที่เปิดสอนหลักสูตรระยะสั้นเพื่อเด็กพิเศษ ประกอบด้วย วิทยาลัยสารพัดช่างนครหลวง พระนคร สี่พระยา ธนบุรี สมุทรปราการ และเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้ได้เปิดรับรอบใหม่แล้ว รับสมัครตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือน พ.ย.58 สอบถามรายละเอียดหลักสูตรและการรับสมัครได้ที่วิทยาลัยสารพัดช่างทั้ง 6 แห่ง หรือ 081-751-6605
ที่มา : สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.)
ภาพประกอบจากเว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.)