สร้างสุขอนามัยดี เริ่มต้นที่บ้าน
กรมอนามัยเผย ขยะในประเทศไทยเพิ่มขึ้นสูงถึงปีละ 15 ล้านตัน ส่วนใหญ่มากจากเศษอาหารและอินทรีย์สาร แต่รีไซเคิลได้แค่ 1 ใน 4 ชวนคนไทยสร้างสุขอนามัยที่ดีโดยเริ่มต้นที่บ้าน ยึดหลัก เก็บ กวาด เช็ดถู ล้าง คัดแยก ปลุกกระแสสร้างความสะอาดในครัวเรือน ขยายสู่ชุมชน สร้างสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืน…
ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่าประเทศไทยมีขยะเกิดขึ้นกว่า 15 ล้านตันต่อปี ส่วนใหญ่เป็นเศษอาหารและอินทรีย์สารร้อยละ 64 รองลงมาคือขยะมูลฝอยที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ร้อยละ 30 แต่มีการนำไปใช้ประโยชน์หรือรีไซเคิลเพียง 3.91 ล้านตัน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 336 เหลือแค่ 1 ใน 4 เท่านั้น
กรมอนามัยได้เร่งส่งเสริมเรื่องการสร้างสุขอนามันที่ดี เพื่อลดปัญหาการเจ็บป่วยเนื่องจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เน้นย้ำให้ประชาชนลด และคัดแยกขยะมูลฝอยที่ต้นทาง หรือตั้งแต่ที่บ้าน หรือครัวเรือน เพื่อส่งเสริมกลไกการคัดแยกขยะให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ หรือใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด โดยให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการสุขาภิบาลที่พักอาศัยและปรับปรุงสภาพแวดล้อมของบ้านโดย 1) เก็บสิ่งของเครื่องใช้ให้เป็นระเบียบ 2) กวาดหยากไย่และเศษขยะทั้งใน – นอกบ้าน และบริเวณโดยรอบ 3) เช็ดถูทำความสะอาดฝุ่นละออง และคราบสกปรกให้ทั่วถึงทุกซอกทุกมุม 4) ล้างทำความสะอาดห้องน้ำห้องส้วม อย่างสม่ำ เสมอ และ 5) คัดแยกขยะ อย่างถูกสุขลักษณะ ได้แก่ ขยะรีไซเคิล เช่น แก้ว กระดาษ โลหะ พลาสติก สามารถนำไปจำหน่ายได้ ขยะอันตราย เช่น ขวดน้ำยาทำความสะอาด ถ่ายไฟฉาย หลอดไฟ ให้นำไปทิ้งในสถานที่ที่ราชการกำหนด เพื่อรอการนำไปกำจัดอย่างปลอดภัย โดยขยะทั่วไปให้เก็บรวบรวมใส่ถุงที่ไม่ฉีดขาด ไม่รั่วซึม มัดปากถุงให้แน่น และทิ้งลงถังขยะ
“ทั้งนี้การพัฒนาชุมชนและบ้านให้สะอาดเพื่อส่งเสริมประชาชนให้มีสุขภาพอนามัยที่ดี เพื่อลดอัตราการเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากปัจจัยสิ่งแวดล้อมให้ประสบผลสำเร็จนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคนในบ้าน และขยายผลไปสู่การพัฒนาหมู่บ้านหรือชุมชน สร้างจิตสำนึกสาธารณะให้ร่วมกันรับผิดชอบ แก้ไขปัญหา และพัฒนาท้องถิ่นซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชนและหน่วยงานภาครัฐ ในระดับตำบล อำเภอ และจังหวัดด้วย” อธิบดี กรมอนามัยกล่าวในที่สุด.
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต