“สร้างสุขภาคใต้ ครั้งที่ 14” ปลุกพลังวิถีถิ่น สสส.-ภาคีฯ ร่วมเคลื่อนสุขภาวะ 4 มิติ สู่ชุมชนสีเขียว 21 พื้นที่
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข
ภาพประกอบจาก สสส.
20 ปีสร้างสุขภาคใต้ สสส. สานพลังภาคียุทธศาสตร์สุขภาพ จัด “สร้างสุขภาคใต้ ครั้งที่ 14” รวมพลัง 4,000 ภาคี 137 เครือข่าย 14 จังหวัด ขับเคลื่อนสุขภาวะ 4 มิติ เกษตรยั่งยืน–รับมือสังคมสูงวัย–กองทุนสุขภาพจังหวัด สู่ชุมชนสีเขียว 21 พื้นที่ พัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายภาคใต้แห่งความสุขอย่างยั่งยืน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ส.ค. 2568 ที่ ศูนย์ประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง จ.ตรัง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง สมัชชาสุขภาพจังหวัดตรัง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และภาคีเครือข่ายภาคใต้ จัดงาน “สร้างสุขภาคใต้ ครั้งที่ 14” ภายใต้แนวคิด 20 ปี ปลุกพลังวิถีถิ่นใต้ สู่สุขภาวะแห่งอนาคต
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า การจัดงานสร้างสุขภาคใต้ ครั้งที่ 14 มีเป้าหมายสำคัญเพื่อสร้างให้เกิด ‘ภาคใต้แห่งความสุข’ ที่เกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วนที่ต้องการขับเคลื่อนเครือข่ายสุขภาวะ ผสานพลังกันทั้งข้ามพื้นที่และข้ามประเด็น เพื่อสะท้อนถึงปัญหาจริงในภาคใต้และนำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายที่ตอบโจทย์พื้นที่ได้อย่างแท้จริง โดยเริ่มต้นนับตั้งแต่ปี 2549 งานสร้างสุขภาคใต้ได้เริ่มต้นขึ้นในรูปแบบเวที ‘โชว์ แชร์ เชื่อม’ เพื่อเป็นพื้นที่ให้ภาคีเครือข่ายได้แลกเปลี่ยน เรียนรู้ และสร้างความร่วมมือร่วมกัน จนพัฒนาสู่การใช้เครื่องมือสมัชชาสุขภาพที่เปิดโอกาสให้พลังทางสังคม ปัญญา และนโยบายได้บรรจบกัน ขับเคลื่อนสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายที่ยั่งยืน ทำให้เกิดการกำหนดวาระสร้างสุขของภาคใต้ใน 4 ประเด็นหลัก และสื่อสารต่อสังคมผ่านเครือข่ายสื่อ 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อให้เห็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
“ท่ามกลางความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบัน จำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งทางสุขภาวะ พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ งานสร้างสุขภาคใต้จึงเป็นเวทีกลางที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนร่วมกันกำหนดแนวทางการทำงาน และผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบายที่จะพัฒนาภาคใต้ให้ก้าวข้ามข้อจำกัด และมุ่งสู่ความสุขอย่างยั่งยืน โดยได้ต่อยอด 4 ประเด็นสำคัญ พัฒนาเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย 1. ความมั่นคงทางอาหาร ขับเคลื่อนระบบเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน 2. ความมั่นคงทางมนุษย์ สานพลัง ‘5 ดี’ สู่วิถีความสุข ให้ทุกกลุ่มวัยได้เข้าถึง การเรียนดี ดูแลดี เศรษฐกิจดี ที่อยู่อาศัยดี และสังคมดี 3. ความมั่นคงทางสุขภาพ เน้นการสร้างเสริมสุขภาพทุกกลุ่มวัย และป้องกันปัญหาบุหรี่ โรคไม่ติดต่อ และสุขภาพจิต 4. ความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผลักดันการจัดการทรัพยากร ‘จากภูผาสู่มหานที’ รวมถึงการบริหารจัดการภัยพิบัติ และการท่องเที่ยวโดยชุมชน” นพ.พงศ์เทพ กล่าว
นพ.สุเทพ เพชรมาก เลขาธิการ สช. กล่าวว่า สร้างสุขภาคใต้ครั้งที่ 14 เป็นเวทีสำคัญที่สะท้อนให้เห็นพลังของการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เป็นพื้นที่ที่ทำให้เสียงของประชาชนจากทุกสาขาอาชีพและทุกกลุ่มวัย ที่สามารถส่งต่อไปสู่การกำหนดนโยบายสาธารณะ ตลอดกว่า 20 ปีที่ผ่านมา งานสร้างสุขภาคใต้พิสูจน์แล้วว่า การใช้เครื่องมือสมัชชาสุขภาพเป็นกลไกหลักสามารถเชื่อมพลัง 3 ด้าน พลังทางสังคม พลังทางปัญญา พลังเชิงนโยบาย ข้อเสนอจากเวทีนี้ไม่ได้พัฒนาแค่ในระดับจังหวัดหรือภูมิภาค แต่ยังถูกนำไปเชื่อมโยงกับการตัดสินใจในระดับชาติ เช่น การจัดการทรัพยากรธรรมชาติในภาคใต้ การส่งเสริมระบบสุขภาพชุมชน หรือการจัดการปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นโจทย์ที่ประเทศต้องเผชิญร่วมกัน เวทีสร้างสุขภาคใต้ยังเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง ทำให้ภาคีเครือข่ายในพื้นที่เกิดความเข้มแข็งและสามารถทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐและวิชาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สช. จะทำหน้าที่เป็น ‘สะพานเชื่อม’ เพื่อขับเคลื่อนข้อเสนอเหล่านี้ให้เข้าสู่ระบบนโยบายสาธารณะในระดับประเทศ และทำให้การสร้างสุขภาวะในภาคใต้เกิดขึ้นได้จริงในทุกมิติ ทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของประชาชน
นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า จ.ตรังได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน “20 ปี ปลุกพลังวิถีถิ่นใต้ สู่สุขภาวะแห่งอนาคต” หรือ งานสร้างสุขภาคใต้ ครั้งที่ 14 ประจำปี 2568 ซึ่งเป็นความร่วมมือจาก สสส. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง และภาคีเครือข่าย การเป็นเจ้าภาพครั้งนี้นับเป็นโอกาสสำคัญที่ จ.ตรังจะได้ต้อนรับทุกท่านจาก 14 จังหวัดภาคใต้ และได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของจังหวัดตรังในฐานะเมืองแห่งความสุขและความหลากหลาย ทั้งในด้านทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า จ.ตรังพร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนงานสุขภาวะในทุกมิติ ทั้งงบประมาณ กลไกความร่วมมือ และการอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกัน และร่วมขับเคลื่อนข้อเสนอเชิงนโยบายที่ได้ในงานสร้างสุขภาคใต้ เพื่อผลักดันให้เสู่แผนพัฒนาภาคใต้ งานสร้างสุขภาคใต้ คือโอกาสสำคัญที่ทุกฝ่ายจะได้รวมพลังเพื่ออนาคตของภาคใต้”
นายไมตรี จงไกรจักร์ ตัวแทนเครือข่ายสร้างสุขภาคใต้ กล่าวว่า ปัจจุบันมีเครือข่ายย่อยกระจายกว่า 137 เครือข่ายใน 14 จังหวัดภาคใต้ ผลลัพธ์จากทำงานอย่างต่อเนื่อง เช่น ความมั่นคงทางอาหาร พัฒนาขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืนและวนเกษตร เช่น แปลงต้นแบบสวนยางผสมผสาน 20 แปลงในชุมพร–ระนอง ยกระดับเป็น ‘ชุมชนสีเขียว’ 5 รูปแบบในพื้นที่นำร่อง 21 พื้นที่ทั่วภาคใต้ ความมั่นคงทางสุขภาพ เกิดกองทุนส่งเสริมสุขภาวะระดับจังหวัด และคณะกรรมการสุขภาวะระดับจังหวัด เพื่อบูรณาการการแก้ปัญหาปัจจัยเสี่ยง ความมั่นคงทางมนุษย์ มีการเตรียมรับมือสังคมสูงวัย ครอบคลุมทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้สูงอายุ โดยมีแผนรองรับ 5 ด้าน ได้แก่ สุขภาพ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และเทคโนโลยี ความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ผลักดันพื้นที่พิเศษท่องเที่ยวโดยชุมชนเพื่อการอนุรักษ์ เช่น ศาลาด่านโมเดล จ.กระบี่ และ มะรุ่ยแห่งความสุข จ.พังงา รวมถึงข้อเสนอการจัดการภัยพิบัติ
“การทำงานที่ผ่านมาเกิดกลไกขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบทั้ง 3 ระดับ 1. กลไกปฏิบัติการในพื้นที่ เช่น เครือข่ายเกษตรกรรมภาคใต้ พชอ. สมัชชาสุขภาพจังหวัด เครือข่ายเยาวชนและการท่องเที่ยวโดยชุมชน 2. กลไกทางวิชาการที่ทำหน้าที่รวบรวมและพัฒนาความรู้เพื่อยกระดับเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย 3. กลไกระดับนโยบายจากหน่วยงานรัฐและองค์กรท้องถิ่นที่นำผลลัพธ์เหล่านี้ไปขับเคลื่อนต่อในเชิงแผนงานและโครงการ ส่งผลให้เกิดภาคีเครือข่ายเชิงประเด็นที่สำคัญ เช่น เกษตรกรรม อาหาร เยาวชน ผู้สูงอายุ การจัดการภัยพิบัติ ขยะ การแพทย์พหุวัฒนธรรม รวมถึงเครือข่ายตำบลจัดการตนเองและสื่อสร้างสุข” นายไมตรี กล่าว
นายสายันต์ อาจณรงค์ รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 12 กล่าวว่า สปสช.ใช้เวทีนี้ในการทำงานเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะการนำข้อมูลจริงจากพื้นที่มาเป็นฐานการพัฒนานโยบาย เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพ การลดความเหลื่อมล้ำ และการส่งเสริมสุขภาพเชิงป้องกัน โดยมุ่งหวังให้กองทุนสุขภาพท้องถิ่นมีศักยภาพมากขึ้น เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงค์เทพ สุธีรวุฒิ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ได้กล่าวถึงบทบาทสำคัญของมหาวิทยาลัย ในการเป็นกลไกขับเคลื่อนงานด้านสุขภาวะว่า ม.อ. ไม่ได้เป็นเพียงสถาบันการศึกษาที่ผลิตองค์ความรู้เท่านั้น แต่ยังมีหน้าที่ในการนำความรู้เหล่านั้นมาปรับใช้เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพและสังคมในภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคม เพื่อพัฒนาและผลักดันนโยบายสาธารณะที่เอื้อต่อสุขภาวะ เวทีสร้างสุขภาคใต้เป็นจุดเชื่อมระหว่างความรู้เชิงวิชาการ นโยบาย และการทำงานของชุมชน เพื่อยกระดับสุขภาวะของภาคใต้ในระยะยาว งาน ‘สร้างสุขภาคใต้ ครั้งที่ 14’ คือ เวทีแห่งการสานสานงานและเสริมพลังข้ามประเด็น ข้ามพื้นที่ ที่รวมเอาภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม วิชาการ และชุมชนท้องถิ่น มาร่วมกันวางอนาคตใหม่ของภาคใต้ สนับสนุนให้เกิดระบบการทำงานที่เชื่อมโยงและขยายภาคีเครือข่ายให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยมุ่งหวังให้เกิดการสร้าง ชุดความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดจากการทำงานร่วมกันของภาคีเครือข่าย รวมถึงการพัฒนาระบบการสื่อสารที่ทันสมัยเพื่อเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำไปสู่การจัดการความรู้และสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ที่จะสามารถพัฒนาเป็นนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพบนฐานวิถีชีวิตของชาวใต้ ได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน