ที่มา :  สยามรัฐ

แฟ้มภาพ

"สพฐ." กำชับผู้บริหารสถานศึกษาหลีกเลี่ยง-งดกิจกรรมกลางแจ้ง "กรมการค้าภายใน" เตือน "ร้านค้า" กักตุน-ขึ้นราคาหน้ากากอนามัย หากพบเจอคุก 7 ปี ขณะที่"ยูนิเซฟ" เผยคลิปวิดีโอความอันตรายหากฝุ่นละออง เข้าสู่ร่างกายเด็กๆ ชี้ส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ในร่างกายอาจเกิดโรคได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายก รัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองจำนวนมากในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร หลังจากที่พบว่าในระยะนี้ กทม. และปริมณฑล มีปริมาณฝุ่นละออง ขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร หรือ PM 2.5 เพิ่มสูงขึ้นเกินมาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในอากาศ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสุขภาพว่าได้สั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร ไปดำเนินการแก้ปัญหา โดยให้มีการฉีดน้ำและรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงสวมหน้ากาก รวมทั้งให้สำรวจว่าต้นตอมาจากไหน เพราะสิ่งที่เป็นต้นตอของปัญหามีหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งโรงงานอุตสาหกรรม การจราจร การเผาไร่นาต่างๆ ทุกคนมีส่วนช่วยทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง ก็ต้องช่วยกันแก้ปัญหาร่วมกับรัฐบาลจะปล่อยให้รัฐบาลทำงานคนเดียวไม่ได้

ด้าน นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกรณีค่าฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพ เกินมาตรฐานมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนว่า ได้สั่งการให้ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ให้เฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศ เพื่อขึ้นปฏิบัติการทำฝนหลวง เพื่อให้ฝนมาตกในกรุงเทพฯ ชะล้างฝุ่นละอองในอากาศ โดยคาดว่าในวันที่ 15-18 ม.ค.นี้ มีแนวโน้มที่จะสามารถทำฝนหลวงได้โดยใช้เครื่องบิน CASA จำนวน 2 ลำ

ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวินขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมควบคุมมลพิษ กองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก ขสมก.การรถไฟแห่งประเทศไทยกรมอนามัย มาร่วมประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันโดยเร่งด่วน

ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน PM2.5 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้กำชับให้ผู้บริหารและสถานศึกษาในสังกัดกว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศ ว่า ขอให้ยึดหลักปฏิบัติตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยติดตามประกาศต่อเนื่อง เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อดูแลนักเรียนอย่างทั่วถึง โดยให้พิจารณาว่าหากกิจกรรมใดที่ทำให้เด็กได้รับฝุ่น หรือโรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองมาก ก็ขอให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือกิจกรรมที่ต้องเผชิญฝุ่นละออง อีกทั้งยังฝากให้ครูแนะนำการปฏิบัติตัวของเด็กและผู้ปกครองในการรับมือสถานการณ์ดังกล่าว

ส่วน นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้มีการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 และโพสต์ตามสื่อโซเชียลว่า หน้ากากอนามัยขาดแคลนและไม่เพียงพอ จึงได้สั่งการให้ค้าภายในจังหวัดต่างๆทั้งเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตรวจสอบปริมาณหน้ากากอนามัยว่ามีมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ได้กำชับให้พาณิชย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลสอดส่องติดตาม หากพบกักตุนเพื่อโก่งราคาในช่วงนี้ ทางกรมฯ จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพราะถือเป็นการเอาเปรียบสร้างความเดือดร้อนประชาชน โดยโทษกักตุนค่อนข้างสูงจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          "เชื่อว่าขณะนี้ประชาชนเกิดความตกใจและเร่งหาซื้อหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันฝุ่นละออง ทำให้บางพื้นที่ขาดแคลน ดังนั้น ทางกรมฯ จะสอบถามไปยังโรงงานผู้ผลิตหน้ากากอนามัยชนิดต่างๆ ว่ายังมีมากน้อยแค่ไหน เพื่อเร่งกระจายหน้ากากอนามัย ไปในเขตกรุงเทพฯ เพื่อให้ประชาชนหาซื้อมาป้องกันในช่วงเกิดวิกฤติฝุ่นละออง"

หลังเกิดปัญหาฝุ่นละอองในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯและปริมณฑลทางองค์การยูนิเซฟ @UNICEF Mongolia ได้จัดทำคลิปวิดีโอเกี่ยวกับอันตรายของฝุ่นละออง PM 2.5 เมื่อเข้าสู่ร่างกายของเด็ก โดยระบุว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมมนุษย์ถึง 25 เท่า เมื่อฝุ่นละอองเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูกและปากจะเข้าสู่ปอด และยังเข้าสู่ระบบบหมุนเวียนเลือดไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายซึ่งจะส่งผลกระทบต่อหัวใจ ระบบประสาท และการพัฒนาทางสมองของเด็กๆรวมไปถึงการเจริญเติบโตของเด็กในครรภ์นอกจากนี้ เมื่อเด็กโตขึ้นยังอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น สโตรก หรือโรคหลอดเลือดสมอง ปอดบวม โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง มะเร็งปอด เป็นต้น

ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล พบว่ามีค่าเกินมาตรฐานอยู่หลายจุดอยู่ โดยอยู่ในระดับเริ่มเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้คนกรุงเทพฯและปริมณฑล หลายคนต้องสวมใส่หน้ากาก N95 เพื่อป้องกันฝุ่นละออง เนื่องจากมีประสิทธิภาพมากกว่ากากหน้าอนามัยธรรมดา