สถานที่สาธารณะด้านการคมนาคมไม่ปลอดบุหรี่ไม่ได้แล้ว
แนะใช้ กม.ห้ามสูบบุหรี่เข้ม
ประเทศไทยได้รับการพูดถึงจากประชาคมโลกว่ามีมาตรการควบคุมยาสูบที่เข้มแข็ง
ปลายปี พ.ศ.2551 องค์กรอนามัยโลกได้จัดคณะผู้เชี่ยวชาญสิบกว่าคน ใช้เวลาสองอาทิตย์ในประเทศไทย เพื่อประเมินผลการดำเนินการควบคุมยาสูบในแง่มุมต่างๆ
เพื่อสรุปเป็นรายงาน เพื่อเป็นบทเรียนแก่ประเทศอื่น
เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ ผลการประเมินออกมาไม่ค่อยดี กล่าวคือ
– แม้จะมีการประกาศให้สถานที่สาธารณะเป็นเขตปลอดบุหรี่อย่างกว้างขวาง แต่จำนวนประชาชนที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง ยังสูงเกินระดับที่จะยอมรับได้
– การปฏิบัติตามกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ 100% ยังไม่ดีเท่าที่ควร
– ความพยายามที่จะรณรงค์ให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายยังทำไม่เพียงพอ
– การตรวจตราการบังคับใช้กฎหมายโดยเจ้าหน้าที่ยังทำกันน้อยมาก
– การลงโทษผู้ฝ่าฝืนกฎหมายแทบจะไม่มีการทำกันเลย
โดยรวมก็คือ ประเทศไทยสอบตกในด้านการคุ้มครองประชาชนจากควันบุหรี่มือสอง ผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลกให้ข้อเสนอแนะว่า
– ควรปรับปรุงกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะให้ห้ามสูบ 100% และมีการบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
– ควรกระจายและสนับสนุนให้ท้องถิ่นบังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่
– ควรระดมให้ความรู้ประชาชนและระดมภาคประชาสังคมสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย
– ควรใช้มาตรการลงโทษในผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยมีการประสานงานระหว่างผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
– ควรแก้ไขปรับปรุงกฎหมายโดยลดขั้นตอนให้ง่ายแก่การบังคับใช้
– ควรมีแผนเฝ้าระวังติดตามการบังคับใช้กฎหมายประเมินผล และการลงโทษผู้ฝ่าฝืน
– ควรมีระบบการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานบังคับใช้กฎหมาย
– ควรจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายทั้งด้านอัตรากำลังและงบประมาณสนับสนุน
จากจุดอ่อนในการบังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะตามที่ผู้ประเมิน นำมาซึ่งการทำโครงการประเทศไทยปลอดบุหรี่ 100% โดยสำนักงานบริโภคยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขโดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจำนวน 700,000 ดอลลาร์ หรือ ประมาณ 23 ล้านบาท จากมูลนิธิบลูมเบิร์กผ่านองค์กรอนามัยโลก เพื่อยกเครื่องกระบวนการบังคับใช้กฏหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะของไทยทั้งระบบ ตั้งแต่การศึกษาทบทวนปรับปรุงกฎหมาย การผลิตสื่อสนับสนุน การณรงค์ประชาสัมพันธ์ การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ฯลฯ
องค์การอนามัยโลกให้ความสำคัญกับการจัดสถานที่สาธารณะด้านการคมนาคมปลอดบุหรี่ตามกฏหมายมากที่สุด เพราะสถานที่สาธารณะด้านคมนาคมเป็นที่ที่มีประชาชนมารวมตัวกันนับล้านคนในแต่ละวัน สมควรที่การปฏิบัติตามกฎหมายห้ามสูบบุหรี่เป็นไปอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ
สถานที่สาธารณะด้านคมนาคม รวมถึง สถานีขนส่ง สถานีรถไฟฟ้า ท่าเรือ ป้ายรถเมล์ สนามบินทั่วประเทศ รถเมล์ รถไฟ รถแท็กซี่ทั่วประเทศ
เงินทุนช่วยเหลือจากมูลนิธิบลูมเบิร์กผ่านองค์การอนามัยโลกให้แก่กระทรวงสาธารณสุขครั้งนี้ คาดหวังว่าประเทศไทยจะมีมาตรการคุ้มครองผู้ไม่สูบหรี่ในที่สาธารณะได้ขึ้น เพื่อนำไปเป็นบทเรียนแก่ประเทศอื่นๆ
จึงเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายในสังคมไทย ที่จะช่วยกันคนละไม้คนละมือรักษาหน้าตาของประเทศไทยด้วยการทำให้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะมีการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อคุ้มครองสุขภาพของคนไทยที่ไม่สูบบหรี่ และเพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่ประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ต่อไป
ความจริงไม่ใช่เรื่องยากเลยเพียงแต่ผู้สูบบุหรี่ทุกคนจะปฏิบัติตามกฎหมาย โดยการไม่สูบบุหรี่ในทุกที่ที่ห้ามสูบ
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
Update: 06-10-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: อัญณิกา กฤษสมัย