สงขลาปลุกพลังคนรุ่นใหม่ “ไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” จัดมหกรรมวันงดสูบบุหรี่โลก 2568 พร้อมประกาศพื้นที่ปลอดควันชายหาดชลาทัศน์

ที่มา : งานมหกรรม “วันงดสูบบุหรี่โลก” ประจำปี 2568 

                    เครือข่ายนักสื่อสารรุ่นใหม่ ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ภาคีเครือข่ายจัดภายในจังหวัดสงขลา จัดงานมหกรรม “วันงดสูบบุหรี่โลก” ประจำปี 2568 อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด “นิโคตินเสพติด จน ตาย กระชากหน้ากาก ธุรกิจบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า” สร้างกระแสสังคมสงขลาปลอดควัน พร้อมรวมพลังเครือข่ายเยาวชน ประกาศเจตนารมณ์ “พวกเราคนสงขลาไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” และเปิดพื้นที่ชายหาดชลาทัศน์เป็นเขตปลอดควัน

                    โดยงานในครั้งนี้จัดขึ้น ณ บริเวณศาลาไทย แหลมสมิหลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา มีผู้ร่วมงานจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคการศึกษา ภาคสาธารณสุข เครือข่ายเยาวชน และประชาชนทั่วไปจำนวนมาก เข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์ “Smoke Free Revolution พลิกชีวิต ปลุกโลก” ซึ่งเริ่มต้นกิจกรรมด้วยขบวนเดินรณรงค์อย่างคึกคักจากหลายภาคส่วน นำโดยวงโยธวาทิตโรงเรียนวรนารีเฉลิม และขบวนเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่พร้อมใจประกาศสงครามกับบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า


                    ภายในงานมีการแสดงเปิดตัวอย่างสร้างสรรค์จากโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา สะท้อนพลังและความหวังของคนรุ่นใหม่ ตามด้วยกิจกรรม “Talk Show” สานพลังเครือข่ายเพื่อปกป้องสังคมไทยจากบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ขึ้นร่วมแสดงวิสัยทัศน์และนำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนงานภายในจังหวัดสงขลา

                    จากนั้นเข้าสู่ช่วง พิธีเปิดอย่างเป็นทางการโดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลามอบหมายให้นายอำเภอเมืองสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดงานในครั้งนี้ พร้อมกล่าวประกาศเจตนารมณ์อย่างหนักแน่นว่า “พวกเราคนสงขลาไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” ท่ามกลางเสียงปรบมือและพลังของเครือข่ายที่พร้อมจะร่วมกันสร้างจังหวัดสงขลาให้เป็น พื้นที่ปลอดภัยจากควันบุหรี่ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน พร้อมประกาศให้บริเวณศาลาไทย จุดพักชมวิววงเวียนเช็คชื่อ และลานดนตรี-ลานวัฒนธรรม ชายหาดชลาทัศน์ เป็น “พื้นที่ปลอดควัน” อย่างเป็นทางการ

                    ภายในงานมีพิธีมอบ โล่เชิดชูเกียรติ แก่องค์กรต้นแบบด้านการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ อาทิ เทศบาลนครสงขลา อำเภอบางกล่ำ โรงเรียนวรนารีเฉลิม โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา และเครือข่ายนักสื่อสารคนรุ่นใหม่ รวมถึงมอบ ประกาศนียบัตร แก่หน่วยงานสนับสนุน เช่น สถานีตำรวจ สำนักงานสาธารณสุข โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย และหน่วยงานด้านการศึกษาในจังหวัดสงขลา

                    โดย นายสุรัตน์ ลายจันทร์ นายอำเภอเมืองสงขลาประธานในพิธี ได้กล่าวในช่วงพิธีเปิดว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้มอบหมายให้ผมได้เดินทางมาเป็นประในพิิธีเปิดงานมหกรรมวันงดสูบบุหรี่โลก และสร้างพื้นที่ปลอดควัน จังหวัดสงขลา โดยผมมีความห่วงใยสุขภาพและอนาคตของประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนในจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญของชาติ ผมขอประกาศเจตนารมณ์ร่วมกับ ทุกภาคส่วนในจังหวัด เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่อย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยมีแนวทางดังต่อไปนี้ ๑. พวกเราจะร่วมมือกันรณรงค์และป้องกัน ส่งเสริมให้ประชาชนในจังหวัดสงขลา โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน มีภูมิคุ้มกันและห่างไกลจากการเสพติดบุหรีไฟฟ้า ในทุกรูปแบบ ผ่านการให้ความรู้การส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวก และกิจกรรมรณรงค์อย่างทั่วถึง ๒. พวกเราจะร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในสถานศึกษาทุกระดับ เพื่อป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิด พร้อมทั้งสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด การกวดขันร้านค้า และการห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าโดยเด็ดขาด ๓. พวกเราจะร่วมกันสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าในหมู่ประชาชนจังหวัดสงขลา เสริมสร้างความตระหนักรู้และความร่วมมือในการต่อต้านการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในทุกระดับ พวกเราคนสงขลา จะไม่ยอมให้บุหรี่ไฟฟ้ามาทำลายสุขภาพและอนาคตของลูกหลานของเรา

                    ด้านนายสงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่จังหวัดสงขลาได้แสดงเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและสนับสนุนมาตรการที่มุ่งปกป้องสุขภาพของเด็ก เยาวชน และประชาชนในจังหวัดจากอันตรายของนิโคตินและบุหรี่ไฟฟ้า ตลอดจนการสร้างพื้นที่ปลอดควันบุหรี่ในสังคมอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ยังได้แสดงความขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน รวมถึงหน่วยงานภาคีเครือข่ายในจังหวัดสงขลาที่ได้ร่วมแรงร่วมใจในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมืออย่างเข้มแข็งของทุกภาคส่วนในการสร้างสังคมปลอดภัย ห่างไกลบุหรี่และสารเสพติด

                    ด้านนายวิชากร บัวหอม รองนายกเทศมนตรีนครสงขลา ในฐานะหน่วยงานผู้รับผิดชอบพื้นที่    ได้ให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่เราคาดหวังจากวันนี้ ไม่ใช่แค่ความสำเร็จระยะสั้น แต่คือการวางรากฐานของการเปลี่ยนแปลงระยะยาว อยากเห็นเยาวชนสงขลาเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยจากควันบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อคนรุ่นใหม่มีความรู้เท่าทัน เขาจะเป็นพลังในการเปลี่ยนแปลงครอบครัว โรงเรียน และชุมชน และในอนาคตจะกลายเป็นผู้นำนโยบายเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน เป้าหมายของเราคือการขยายเครือข่ายนักสื่อสารรุ่นใหม่ให้เข้มแข็ง ให้เยาวชนทุกอำเภอได้ลุกขึ้นมาเป็นกระบอกเสียงของสังคม วันนี้คือจุดเริ่มต้น แต่อนาคตจะยั่งยืนได้ก็ต่อเมื่อเราร่วมกันต่อยอดเจตนารมณ์นี้ให้เดินหน้าต่อไป


                    ด้านนายโยธิน ทองพะวา รองผู้อำนวยการเครือข่ายนักสื่อสารรุ่นใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า ทางเครือข่ายฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นแกนนำนักสื่อสารที่มีบทบาทในการรณรงค์ป้องกันการเกิดนักสูบหน้าใหม่ โดยมุ่งส่งเสริมศักยภาพของเยาวชนในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในสังคม สำหรับแนวทางการดำเนินงานในปีนี้ เครือข่ายฯ ได้กำหนดกิจกรรมหลักที่จะขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กิจกรรมพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชนนักสื่อสารรุ่นใหม่ เพื่อสร้างสังคมปลอดภัยจากผลิตภัณฑ์ยาสูบ การจัดเวทีสาธารณะเพื่อเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น กิจกรรมให้ความรู้ในสถานศึกษา และเวทีถอดบทเรียน เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานและต่อยอดสู่การพัฒนาในระดับพื้นที่อย่างยั่งยืน

                    กิจกรรมปิดท้ายด้วยการแข่งขันครั้งนี้เป็นการประชันฝีปากระหว่าง ทีมนักเรียนจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา กับ ทีมตัวแทนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทักษิณ ซึ่งต่างนำเสนอข้อมูลอย่างรอบด้านทั้งด้านกฎหมาย สุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และผลกระทบเชิงนโยบาย ทั้งฝ่ายเสนอและฝ่ายคัดค้านต่างใช้เหตุผลและหลักฐานเชิงวิชาการมาสนับสนุนอย่างเข้มข้น ท่ามกลางความสนใจของผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก การโต้วาทีครั้งนี้ไม่ได้ชี้แพ้ชนะที่คำตอบว่า “ควรหรือไม่ควร” แต่เน้นกระบวนการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนอย่างเคารพซึ่งกันและกัน และเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้ใช้เสียงของตนในประเด็นที่ส่งผลต่ออนาคตของประเทศ

                    ด้านนายจตุพล จันทร์มล ประธานเครือข่ายนักสื่อสารรุ่นใหม่จังหวัดสงขลา กล่าวระหว่างกิจกรรมว่า“เราอยากให้เวทีนี้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง ให้คนรุ่นใหม่ไม่เพียงแต่รับข้อมูลจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่สามารถวิเคราะห์ วิจารณ์ และตั้งคำถามได้ด้วยตัวเอง เพราะการตัดสินใจเรื่องนโยบายสาธารณะ ต้องมาจากสังคมที่มีความเข้าใจรอบด้าน ไม่ใช่แค่ความเชื่อหรืออารมณ์”

                    จังหวัดสงขลามุ่งหวังว่าเสียงจากคนรุ่นใหม่ในวันนี้ จะเป็นพลังสำคัญในการสร้าง “สังคมปลอดบุหรี่” อย่างยั่งยืนต่อไป

Shares:
QR Code :
QR Code