วิทยุเด็กจะอยู่ได้ต้องปรับตัวให้เป็นของเล่นเด็ก
รายการวิทยุเด็กน้อยมากที่จะมีหลายภาคส่วนให้ความสำคัญ ปัจจุบันรายการของเด็กจะอยู่ได้ต้องปรับตัวทวนกระแสสังคม โดยดึงเด็กเข้ามามีส่วนร่วม และมีการใช้โซเชียลมีเดียเข้ามาประกอบในรายการวิทยุด้วย
รายการวิทยุเด็ก สมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน จัดเสวนาความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ของวิทยุเด็กและเยาวชน ในงานสัมมนาผลการวิจัยสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน
นางริสรวล อร่ามเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัทแปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด กล่าวถึงรายการวิทยุ เพื่อเด็กและเยาวชนว่า ปัจจุบันเด็กไม่คุ้นกับสื่อด้านเสียง อย่างวิทยุ แต่เสียงเอ็ฟเฟ็กต่างๆ จะช่วยให้เกิดจินตนาการ การช่วยสร้างประสบการณ์กับเด็ก จึงเป็นสิ่งสำคัญในการพูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่างพ่อแม่กับลูก และจะช่วยให้ลูกได้เกิดการเรียนรู้
นอกจากนี้รูปแบบรายการวิทยุก็ควรมีการแลกเปลี่ยนในรายการด้วยวิทยุจึงจะอยู่รอด และต้องจัดเนื้อหารายการให้เหมาะสมกับช่วงวัย เช่น เด็กเล็กพูดคุยกับพ่อแม่ เด็กโตเน้นการสร้างจินตนาการ อย่างเน้นเรื่องความเร็ว พ่อแม่เองก็ต้องเป็นตัวอย่างให้กับลูก ที่สำคัญก็คือ องค์กรสื่อต้องช่วยกันสนับสนุน” นางริสรวล กล่าว
นางสาวเข็มพร วิรุณราพันธ์ ผู้จัดการสถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.) กล่าวถึงความท้าทายในการทำรายการวิทยุ ต้องนำรายการเด็กกลับมา และผลักดันให้เป็นโยบายของรัฐให้ได้ ดึงเด็กเข้ามามีส่วนร่วม และการสร้างช่องวิทยุเด็กให้เกิดขึ้นนั้น ไม่ต้องซ้ำรอยซ้ำรูปแบบเดิม อาจจะออกสื่อหรือออนไลน์ในอินเตอร์เน็ตเหมือนสถานีวิทยุที่ จ.ชลบุรี ที่ให้เด็กเข้ามาเป็นผู้ร่วมบริหารสถานี สร้างการจัดราการที่สนุก แล้วรายการดีๆ ก็จะกลับมา
“ต้องมีความหวังว่าวิทยุจะกลับมา และผลักดันเชิงนโยบาย ทำให้วิทยุเป็นของเล่นของเด็ก ต้องสนุก ให้เด็กเข้ามามีส่วนร่วม เช่นเข้าไปในโรงเรียน ในชุมชน ให้เด็กได้ผลิต ที่สำคัญอีกอย่างก็คือการร่วมผลักดันให้เกิด พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่อยู่ในสภาฯ ขณะนี้ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยได้ ต้องมองรอบด้านทั้งเด็กเมืองและเด็กต่างจังหวัด เพื่อผลักดันให้เกิดเป็นนโยบาย” ผู้จัดการสถาบันสื่อเด็กและเยาวชนกล่าว
ด.ช.แสงจ้า ทาภา ตัวแทนเยาวชนที่เคยเป็นผู้จัดรายการเด็กในคลื่น fm 105 กล่าวว่าอยากให้มีรายการวิทยุเด็กต่อไปและให้ดีเจใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องและชัดเจน
“ผมว่ารายการวิทยุเด็กไม่มีวันตายครับ ถ้ายังมีการรายการอยู่ และมีคนฟัง อยากให้รายการวิทยุเด็กเข้าถึงโรงเรียนไม่ใช่แค่เป็นตัวฆ่าเวลาในขณะที่ฟังในรถ ปัจจุบันมีสื่อที่มีภาพเต็มไปหมด รายการวิทยุเด็กจะฝึกให้เด็กได้คิด ได้ใช้จินตนาการและมีสมาธิในการฟังมากขึ้น” ด.ช.แสงจ้า กล่าว
ด้านนายธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการ สถาบันวิชาการสื่อสารสาธารณะสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เผยว่ารายการวิทยุตายไปแล้วแต่ยังมีชีวิตอยู่ในรถที่มีคนเปิดฟัง และสื่อวิทยุออนไลน์กำลังมาแรง เพราะต้นทุนต่ำและผลิตได้ง่าย ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อความอยู่รอด จากสื่อเสียงก็ปรับเป็นสื่อภาพได้
“สื่อวิทยุต้องปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตประจำวัน ปรับรูปแบบการนำเสนอทั้งเวลา เนื้อหา เพราะเป็นสื่อเฉพาะบุคคล บางที่ บางเวลา บางสื่อ บางเนื้อหา จึงต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ทั้งดีเจเองก็ต้องมีทักษะในการจัดรายการ ต้องใช้โซเชียลมีเดียเข้ามาช่วย เพราะคนในปัจจุบันอยากจะสื่อสารมากกว่าการรับสาร” นายธามกล่าว
ที่มา : สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.)