วัดปลอดบุหรี่ สุขภาวะวิถีธรรม สร้างต้นแบบสงฆ์สุขภาพดี ชุมชนปลอดอบายมุข
เรื่องโดย: อัจฉริยา คล้ายฉ่ำ Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลจากงาน สานพลังพระพุทธศาสนาสร้างสุขสังคมไทย ระหว่างวันที่ 13-14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ณ ศูนย์การเรียนโพธิยาลัย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
ภาพโดย: อัจฉริยา คล้ายฉ่ำ Team Content www.thaihealth.or.th
“วัด…ไม่ใช่แค่สถานที่ประกอบศาสนกิจ แต่ คือหัวใจแห่งศูนย์รวมของศรัทธา ปัญญา และจิตวิญญาณของชุมชนไทยที่ไม่เพียงแค่สัญลักษณ์ แต่ยังเป็นโรงเรียนแห่งแรกของเด็กไทย เป็นศูนย์กลางของงานบุญตามวิถีชีวิตไทยและเป็นสถานที่พึ่งพาทางใจในยามทุกข์ให้เกิดความสงบเย็นได้ในที่สุด…”
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพระสงฆ์และสามเณร ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ด้าน “สุขภาพ” โดยเฉพาะ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่เกิดจากพฤติกรรม เช่น ขาดการออกกำลังกาย การบริโภคอาหารหวาน มัน เค็ม และการสูบบุหรี่ กำลังเป็นภัยเงียบที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ชี้ว่า พระจำนวนมากป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน และหนึ่งใน พฤติกรรมเสี่ยงที่พบบ่อย คือ “การสูบบุหรี่” ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพพระโดยตรง แต่ยัง บั่นทอนภาพลักษณ์ศาสนา และลดทอนการเป็นแบบอย่างแก่เยาวชนอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ “วัดปลอดบุหรี่” จึงกลายเป็นความสำคัญมากกว่าแค่เป็นนโยบาย หนึ่งตัวอย่างชัดเจนในขบวนการสร้างวัดให้เป็นต้นแบบสุขภาวะของชุมชน คือ “ศูนย์การเรียนโพธิยาลัย” อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โรงเรียนพระปริยัติธรรมที่ไม่เพียง “สอนธรรมะ” แต่ “สร้างภูมิคุ้มกันต่ออบายมุข” อย่างมีระบบ
นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ คนที่ 2 นำคณะกรรมการบริหารแผนคณะ 1 ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้การสานพลังพระพุทธศาสนาสร้างเสริมสุขภาพสังคมไทย ณ โรงเรียนดอยสะเก็ดผดุงศาสน์ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568
พร้อมชี้ให้เห็นว่า พระพุทธศาสนาเป็น “กลไก” สำคัญในการเสริมสุขภาวะ ปัจจุบัน สสส.ดำเนินโครงการวัดปลอดบุหรี่แล้วกว่า 3,300 วัด ทั่วประเทศ พระสงฆ์ร่วมขับเคลื่อน 10,000 รูป ขณะนี้มีพระแกนนำปลอดบุหรี่กว่า 500 รูป ร่วมผลักดัน “งานบวชสร้างสุข” และป้องกันนักสูบหน้าใหม่ในชุมชน
นอกจากนี้ยังมี “ศูนย์การเรียนรู้โพธิยาลัย” อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และ โรงเรียนพระปริยัติธรรมต้นแบบปลอดบุหรี่ 80 แห่ง ที่ไม่เพียงสอนธรรมะ แต่ยังสอนให้สามเณรมีภูมิคุ้มกันต่ออบายมุขผ่านการศึกษาเชิงบูรณาการ เท่ากับยกระดับบทบาทวัดให้เป็น “ต้นแบบสุขภาวะ” ของชุมชนอย่างแท้จริง
ดังนั้นการรณรงค์สร้าง “วัดปลอดบุหรี่” จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับพระสงฆ์ สามเณร ปลอดอบายมุข บวชประหยัด และลดความรุนแรงในงานบวช ทั้งยังพัฒนา “ครูพระสุขภาวะเป็นกลไกไม่ให้เกิดนักสูบ-นักดื่มหน้าใหม่ในชุมชนและเยาวชน
ขณะที่ พระศรีสมโพธิ หัวหน้าโครงการสร้างเสริมสถาบันพระพุทธศาสนาสุขภาวะ เพื่อการลดปัจจัยเสี่ยง กล่าวในการประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อนวัด โรงเรียน และงานบุญปลอดบุหรี่ ว่า “ สามเณรไม่ใช่เพียงผู้ศึกษา แต่ คือ แบบอย่างของเยาวชนที่อยู่ในร่มเงาธรรมะ
การทำให้สามเณรไม่สูบบุหรี่ คือ การทำให้เยาวชนทั้งชุมชนมีแบบอย่างที่ดี โดยเน้นให้วัด มหาวิทยาลัยสงฆ์ และโรงเรียนพระปริยัติธรรมเป็นเขตปลอดภัย พร้อมส่งเสริมให้พระสงฆ์เป็นแบบอย่างและสร้างค่านิยมไม่สูบไม่ดื่มในสังคม”
พระศรีสมโพธิ กล่าวปิดท้ายด้วยว่า “เรากำลังเปลี่ยนคำว่า ‘งานบุญ’ ให้มีความหมายยิ่งกว่าเดิม คือปลอดเหล้า ปลอดบุหรี่ ปลอดอบายมุข และเต็มไปด้วยความรู้ ความเข้าใจ และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน”
ด้าน พระวิสิทธิ์ ฐิตวิสิทโธ, ผศ.ดร. ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมวิชาการ มจร. เชียงใหม่ และเลขาธิการมูลนิธิโพธิยาลัย กล่าวถึงความสำคัญของการขับเคลื่อนโครงการฯ ว่า โครงการนี้มุ่งเน้นให้วัดและโรงเรียนพระปริยัติธรรมเป็นต้นแบบในการลด ละ เลิกบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า คำนึงถึงกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนด้วยพระกันเอง สร้างพระแกนนำ โดยนำนโยบายแนวคิดทางธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติมาปฏิบัติ
พระวิสิทธิ์ ฐิตวิสิทฺโธ เล่าเสริมว่า “ผลลัพธ์ที่ผ่านมาเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการฯ มีวัดปลอดบุหรี่กว่า 3,000 วัดทั่วประเทศ และมีพระคิลานุปัฎฐาก พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด เฉลี่ย 1 วัด ต่อพระ 3 รูป คอยขับเคลื่อนงานพระประมาณ 10,000 กว่ารูป ร่วมกับทางกรมอนามัย โดยพัฒนาเป็นพระแกนนำปลอดบุหรี่ 500 กว่ารูป ชวนคนให้อธิฐานจิต ลด ละ เลิกบุหรี่
ถือว่าเป็นจำนวนมาก ที่ทำให้สังคมมีวัดที่จัดการสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่ ถูกต้องตามพรบ.กฎหมาย วัดเกิดความปลอดภัย ผู้คนที่เข้ามาทำบุญก็ได้มีสุขภาพที่ดี สิ่งแวดล้อมที่ดี อันนี้แหละจึงนำไปสู่สังคมสงบสุข ที่เราเรียกว่า พระแข็งแรง วัดมั่นคง ชุมชนเป็นสุข”
นายธวัชชัย จันจุฬา ผู้ประสานงานโครงการวัดปลอดบุหรี่ฯ สสส. เล่าให้ฟังว่า “ศูนย์การเรียนโพธิยาลัย” อ.ดอยสะเก็ด เป็น 1 ใน 80 โรงเรียนพระปริยัติธรรมปลอดบุหรี่ต้นแบบ ให้การศึกษาแก่สามเณรตั้งแต่ ม.1-6 ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่มาจากครอบครัวไม่สมบูรณ์ พ่อแม่หย่าร้าง เด็กไร้รัฐไร้สัญชาติ เราต้องขัดเกลาสามเณรด้วยทั้งธรรมะและกระบวนการเรียนรู้ที่มีพลัง
ดังนั้น ไม่ใช่แค่ห้ามพระ-เณร สูบบุหรี่ แต่ต้องอธิบายให้เข้าใจเหตุผลและผลกระทบ ทำให้รู้ว่าตัวเองมีคุณค่ามากกว่าการที่จะสูบแล้วมีอันตรายต่อสุขภาพอย่างไร โดยดำเนินงานตามตัวชี้วัดหลักและนโยบายชัดเจนเรื่องวัด/โรงเรียนพระปริยัติธรรมปลอดบุหรี่ ที่ยึดโยงกับมติมหาเถรสมาคม โดยไม่ใช้การลงโทษ เน้นให้คำปรึกษาและดูแลอย่างเป็นระบบ มีมาตรการช่วยเหลือผู้ที่มีความเสี่ยง
สสส.กับวัดปลอดบุหรี่ ไม่ใช่แค่โครงการ แต่ พยายามนำวิถีธรรมสู่สังคมสุขภาวะ สร้างต้นแบบสงฆ์สุขภาพดี ที่ไม่ได้อยู่แค่ในโรงพยาบาล แต่อยู่ในวัด ในศรัทธา และในศีลธรรม และสิ่งที่เกิดขึ้น ณ โพธิยาลัยดอยสะเก็ดวันนี้…