รักอย่างไร ให้ใจ “สมดุล”

เรียกว่ากลิ่นไอแห่ง “ความรัก” ตลบอบอวลครอบคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ เมื่อย่างเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักที่ใครหลายคนรอคอย


รักอย่างไร ให้ใจ “สมดุล”  thaihealth


และเมื่อพูดถึงเรื่องของ “ความรัก” ใครหลายคนมักจะคิดถึงความสัมพันธ์ที่เป็นเรื่องของคน 2 คน ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว สายสัมพันธ์ของ “ความรัก” มีหลายรูปแบบ ทั้งความรักระหว่างเพื่อนมนุษย์ และบุคคลในครอบครัว ซึ่งทุกสายสัมพันธ์นี้ หากไม่รู้จักรักษาสมดุล พร้อมเรียนรู้ที่จะ “รักให้เป็น” ย่อมส่งผลให้ “ความสุข” ของความรัก กลายเป็น “ความทุกข์” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


 “ความเข้าใจความรักในแต่ละมิติเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไปให้ความสำคัญกับอีกฝ่ายหนึ่งมากจนเกินไปความสมดุลก็จะขาดหายไป เราไม่สามารถบอกได้ว่าตะเกียบ 1 คู่ ข้างไหนที่มีความสำคัญกว่ากัน เพราะหากข้างใดข้างหนึ่งยาวกว่ากัน ก็จะไม่เกิดความสมดุล เพราะทั้ง 2 ข้างมีความสำคัญเท่ากัน ความรักก็เช่นกัน ทั้งการให้และการรับก็ควรจะสมดุลกัน” พิทยากร ลีลาภัทร บล็อกเกอร์ด้านธรรมะ และผู้เขียนหนังสือชุดธนาคารแห่งความสุข ร่วมถ่ายทอดมุมมองด้านความรัก


บล็อกเกอร์ด้านธรรมะให้แง่คิดเพิ่มเติมว่า ความรักไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดก็ตาม เมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมสวยงามเสมอ แต่จะทำอย่างไรเพื่อให้ความรักเกิดความสมดุลโดยที่ไม่ทำร้ายตนเองจนเกิดความทุกข์ และเป็นผลร้ายต่อคนอื่น ขอเอ่ยถึง หลักพรหมวิหาร 4 ซึ่งได้แก่ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ที่พระพุทธเจ้าได้ให้ไว้


รักอย่างไร ให้ใจ “สมดุล”  thaihealth


 "ความเมตตา" เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ความรักเริ่มก่อตัวขึ้น เราล้วนแล้วแต่อยากให้ความรักนั้นเปี่ยมไปด้วยความสุขทั้งสองฝ่าย ซึ่งความเมตตาที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องเมตตาทั้งตัวเราและตัวเขาด้วย


จากนั้นสิ่งที่จะตามมาคู่กันนั่นก็คือ “ความกรุณา” ที่ต้องเกิดขึ้นทั้ง 2 ฝ่ายด้วยเช่นกัน เพราะหากความสุขเกิดขึ้นกับเขาเพียงฝ่ายเดียว แต่ตัวเราเองกลับเป็นทุกข์นั่นหมายความว่า ความสมดุลของความรักได้ขาดหายไป


ต่อมาคือ “อุเบกขา” เมื่อต้องพบกับสิ่งที่ไม่สมหวัง ก็ควรจะต้องรู้จักยอมรับกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา


และหากเมื่อไหร่ที่ขาด “มุทิตา” ไม่เกิดความยินดีที่เห็นเขาไปมีความสุข ก็จะส่งผลต่อความเมตตา กรุณา กลับมาเบียดเบียนตนเอง ทำให้ตัวเราเกิดความทุกข์ สิ่งเหล่านี้ล้วนมีความสัมพันธ์กันทั้งสิ้น


"ไม่ว่าความรักจะอยู่ในรูปแบบใด หากเราสามารถทำความเข้าใจได้ด้วยหลักพรหมวิหาร 4 และใช้ “สติ” เป็นสิ่งกำกับควบคู่กันไป เพียงเท่านี้ความรักที่เกิดขึ้นก็สามารถอยู่บนความสมดุลได้ภายในจิตใจของเราเอง" พิทยากรฝากข้อคิด


สำหรับเทศกาลวันวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึงนี้ คงเป็นอีกหนึ่งวันที่สร้างความกังวลให้แก่คนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่น้อย หากมีลูกอยู่ในวัยที่กำลังเติบโตและเริ่มมีความรัก ด้วยวัยที่ยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร


 “วัยรุ่นภูมิใจปฏิเสธ” จึงเป็นอีกหนึ่งข้อคิดที่ นพ.สุริยะเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ชวนให้วัยรุ่นตระหนักถึงพฤติกรรมการแสดงความรักอย่างเหมาะสม พร้อมยก “3 อย่า + 1 พลัง” ได้แก่ 1. อย่าล่อตาล่อใจ 2. อย่าอยู่ด้วยกันสองคน 3. อย่าดื่มแอลกอฮอล์ และ 1 พลังพิสูจน์รักโดยการกล้าปฏิเสธ เพื่อเป็นอีกหนึ่งวิธีพิสูจน์ความรัก         


คุณหมอยังร่วมสะท้อนมุมมองของความรักเพิ่มเติมว่า ความรักที่แท้จริงไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความสุขและความสมหวังเสมอไป หากแต่อยู่บนพื้นฐานของความทุกข์และพร้อมที่จะเป็นผู้ให้บนความเสียสละ เพราะเมื่อไหร่ที่เราทุกข์ แล้วยังมีคนที่คอยอยู่เคียงข้าง คอยร่วมฝ่าฟันความทุกข์ยากนั้นไปกับเรา นั่นก็หมายถึง เมื่อเรามีความสุขเขาก็ยังคงไม่จากเราไปไหนเช่นกัน ซึ่งความรักประเภทนี้ คงหนีไม่พ้น “คนในครอบครัว”     


รักอย่างไร ให้ใจ “สมดุล”  thaihealth


 “ความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อไหร่ที่ขาดความรักความเข้าใจในครอบครัว เด็กจะหาความรักเข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ขาด ซึ่งประการสำคัญสำหรับพ่อแม่ที่จะทำให้ลูกเปิดใจและไม่ใฝ่หาความรักมาเติมเต็มตนเอง ก็คือการเป็นแบบอย่างที่ดี การสร้างบรรยากาศของความรักให้เกิดขึ้นในบ้าน ให้บ้านมีความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ซึ่งมีสิ่งควรระวังนั่นคือ “ไม่ให้เขาขาดความรัก แต่ก็ต้องไม่ทำให้เขาสำลักความรักด้วยเช่นกัน”


“นอกจากนี้ บรรยากาศของความรักความอบอุ่นภายในครอบครัวจะเป็นสิ่งสำคัญแล้ว การรับฟัง และการให้เกียรติของคนในครอบครัวก็สำคัญไม่แพ้กัน การมีโอกาสนั่งพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในบรรยากาศสบายๆ จะทำให้ลูกกล้าที่จะพูดคุยมากขึ้น หรือแม้แต่การใช้กรณีศึกษาปัญหาความรักในวัยรุ่น เพื่อใช้ยกตัวอย่างและรับฟังความคิดเห็นของลูกก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่จะทำให้ผู้ปกครองรับทราบถึงความคิดของเด็กได้” นพ.สุริยเดว เล่าเสริม


คงเห็นแล้วว่าการมีความรักและรู้จักรักให้เป็นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะหากรากของความรักเติบโตขึ้นในครอบครัวที่อบอุ่น และเป็นรักที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการมีสติ รักนั้นย่อมพัฒนาไปอย่างเหมาะสม


 


 


เรื่องโดย แพรวพรรณ สุริวงศ์ Team Content www.thaihealth.or.th


ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code