รวมพลังลดนักสูบหน้าใหม่ 5 ชายแดนใต้

ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์


ภาพประกอบจากเว็บไซต์สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์


รวมพลังลดนักสูบหน้าใหม่ 5 ชายแดนใต้  thaihealth


มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รวมพลังลดนักสูบหน้าใหม่ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ จัดอบรมเยาวชน ครู ผู้นำศาสนา ในพื้นที่ เร่งปรับพฤติกรรม โดยนำสมาชิกชมรมผู้ไร้กล่องเสียง ม.อ. มาร่วมแลกเปลี่ยนให้เห็นโทษของบุหรี่


ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาสุขภาพภาคใต้ (วพส.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากภาคใต้ของประเทศไทย มีอัตราการสูบบุหรี่สูงกว่าภาคอื่นๆ ในทุกรอบการสำรวจ โดยเฉพาะ 5 จังหวัดชายแดนใต้ที่มีความชุกของการสูบสูงที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งแนวโน้มของนักสูบรายใหม่มีอายุค่าเฉลี่ยต่ำลงเรื่อยๆ ยุทธศาสตร์การดำเนินงานควบคุมยาสูบในระดับชาติ คือ การลดอัตราการสูบ ลดนักสูบรายใหม่ ลดอัตราการสัมผัสควันบุหรี่มือสอง สถาบันฯ จึงได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยฟาฏอนี โดยการสนับสนุนของ สสส. โดยมี ผศ.สะลือรี วาลี อาจารย์สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี เป็นห้วหน้าโครงการ จัดอบรมแกนนำมาแล้ว 2 รุ่น รุ่นที่ 1 จัดให้แก่ครูและผู้นำศาสนา ณ โรงแรมคริสตัล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รุ่นที่ 2 จัดให้กับแกนนำนักเรียนจิตอาสาที่มีศักยภาพสูง 5 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นอาสาสมัครควบคุมยาสูบในห้าจังหวัดชายแดนใต้ ณ โรงแรมปาร์กวิว รีสอร์ต อ.เมือง จ.ปัตตานี


สำหรับการอบรมครอบคลุมตั้งแต่สถานการณ์การบริโภคยาสูบทั้งในและต่างประเทศ พิษภัยของยาสูบ ยาหรือสมุนไพรช่วยเลิกบุหรี่ แนวทางการสื่อสารหรือรณรงค์ในพื้นที่ที่สำคัญ และได้ให้เยาวชนร่วมแลกเปลี่ยนกับสมาชิกชมรมผู้ไร้กล่องเสียง ม.อ. ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีให้เห็นโทษของบุหรี่ นอกจากนี้ในวันสุดท้ายของการอบรม เยาวชนได้แสดงพลังคนรุ่นใหม่ด้วยการรณรงค์ร่วมกับรณรงค์ในพื้นที่อำเภอยะรัง จ.ปัตตานี


การลดนักสูบหน้าใหม่จะเดินหน้าพัฒนาอาสาสมัครควบคุมยาสูบไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับผู้ใหญ่และเยาวชน ให้ครอบคลุมและกระจายมากที่สุด โดยหวังว่าอาสาสมัครที่ได้รับการพัฒนาแล้วเหล่านี้จะเป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือเพื่อการดำเนินกิจกรรมในการควบคุมยาสูบในโรงเรียนและชุมชนได้ เช่น มาตรการลดการเข้าถึงบุหรี่ของเยาวชนในชุมชนโดยสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับร้านค้าปลีกยาสูบ


นอกจากนี้สามารถผลักดันให้มีการสร้างและใช้มาตรการทางสังคมในการสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดควันบุหรี่ เพื่อการป้องกันผู้สัมผัสควันบุหรี่มือสองในชุมชนโดยการกำหนดมาตรการ รูปแบบ กฎ กติกา เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดควันบุหรี่ที่มาจากชุมชน


หลังจากนี้ ผู้เข้าอบรมจะไปออกแบบกิจกรรมเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดควันบุหรี่ โดยคาดว่าผู้เข้าอบรมจะเป็นกำลังสำคัญในการรณรงค์ลดเลิกสูบบุหรี่ ในโรงเรียนหรือพื้นที่ของตนเองได้ เยาวชนบางส่วนอาจขับเคลื่อนร่วมกับอาสาสมัครซึ่งเป็นผู้ใหญ่ เช่น ครู ผู้นำศาสนา โดยทางสถาบันวิจัยและพัฒนาสุขภาพภาคใต้ ม.อ.จะติดตามประเมินผล


จากการสำรวจของ ดร.ศรัณญา เบญจกุล คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สถานการณ์การบริโภคยาสูบของคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2534 – 2554) พบว่า อัตราการสูบลดลงจากร้อยละ 32.0 เหลือร้อยละ 21.4 โดยจำนวนผู้สูบบุหรี่รวมลดลงจาก 12.26 ล้านคน เป็น 11.51 ล้านคน แต่ในรอบ 5 ปีสุดท้าย (พ.ศ.2549 – 2554) ผลการสำรวจกลับพบการเปลี่ยนแปลงมีแนวโน้มลดลงช้ากว่าช่วงแรก


ทั้งนี้ ได้พยากรณ์อัตราการสูบบุหรี่ของคนไทย ตั้งแต่ปี 2554 – 2568 พบว่า อัตราการสูบบุหรี่ของประชากรไทยที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จะลดลงจากร้อยละ 20.3 เป็นร้อยละ 17.5 และจะมีผู้สูบบุหรี่เท่ากับ 10.5 ล้านคน ในปี พ.ศ. 2568 ลดลงน้อยกว่าเป้าหมายของมติที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่ตั้งเป้าหมายระดับโลก (Global target) ไว้ว่าแต่ละประเทศควรลดการสูบบุหรี่ลง ให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี 2568 เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่เกิดจากการสูบบุหรี่

Shares:
QR Code :
QR Code