รพ.จิตเวชพร้อมรับมือ“พายุ เบบินคา”

ที่มา: กรมสุขภาพจิต


รพ.จิตเวชพร้อมรับมือ“พายุ เบบินคา” thaihealth


แฟ้มภาพ


                กรมสุขภาพจิตสั่งโรงพยาบาลจิตเวชทั่วประเทศพร้อมรับมือพายุโซนร้อนเบบินคา สามารถให้บริการผู้เจ็บป่วยทางใจตลอด 24 ชั่วโมง และป้องกันปัญหาขาดยา ขาดนัด  โดยที่โรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่ ได้เปิดใช้ระบบเทเลเมดิซิน ตรวจรักษาผู้ป่วยจิตเวชที่อยู่บนดอย พื้นที่สูง   ลดอุปสรรคอันตรายเดินทางเข้าเมืองช่วงหน้าฝน  พร้อมแนะหากผู้ป่วยจิตเวชป่วยอาทิเป็นไข้หวัดใหญ่ ท้องเสีย สามารถกินยารักษาควบคู่กับยาจิตเวชที่กินประจำได้  ไม่มีปัญหายามีปฏิกิริยาต่อกัน


             นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง  ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมรับมือพายุโซนร้อนเบบินคา ( BEBINCA) ที่จะมีผลกระทบต่อประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นทั้ง 4 ภาค และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ตามประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาว่า  กรมสุขภาพจิตได้สั่งการให้โรงพยาบาลจิตเวช 20 แห่ง ทั่วประเทศซึ่งมีครอบคลุมทุกภาค ดำเนินการ 3 มาตรการ ได้แก่ 1.การป้องกันน้ำท่วมโรงพยาบาล ซึ่งทุกแห่งได้จัดการไว้ล่วงหน้าแล้ว สามารถให้บริการประชาชนที่เจ็บป่วยทางใจ โดยเฉพาะในภาวะฉุกเฉิน เช่นคุ้มคลั่ง อาละวาดเป็นต้น ตลอด 24 ชั่วโมง 2.ให้จัดระบบการตรวจสอบคนไข้ที่จิตแพทย์นัดติดตามผลการรักษา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอาการกำเริบจากการขาดยา โดยเฉพาะผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่สูง  ห่างไกล  หรือพื้นที่ทุรกันดาร  ซึ่งจะเดินทางยากลำบากกว่าพื้นที่อื่น และ3.จัดเตรียมทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทหรือทีมเยียวยาใจพร้อมยาเวชภัณฑ์ที่จำเป็นรวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ ร่วมกับศูนย์สุขภาพจิตอีก 13 แห่ง  เพื่อสนับสนุนทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทในพื้นที่ในการดูแลจิตใจผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่


อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวต่อว่า  หากผู้ป่วยจิตเวชเกิดการเจ็บป่วยจากโรคที่มักเกิดในฤดูฝน เช่น  ไข้หวัดใหญ่ รวมทั้งโรคอุจจาระร่วง ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง   โดยผู้ป่วยหรือญาติควรแจ้งแพทย์ที่ตรวจทราบด้วยว่ามียาทางจิตเวชกินประจำและต่อเนื่อง  โดยผู้ป่วยจิตเวชสามารถกินที่แพทย์สั่งให้การรักษาร่วมกันได้  ไม่ต้องหยุดกินยาจิตเวชที่กินประจำแต่อย่างใด  ไม่มีปัญหายามีปฏิกิริยาต่อกัน ทั้งนี้เพื่อผลในการควบคุมการทำงานของสมองให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ


ทางด้านนายแพทย์ธรณินทร์  กองสุข  ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ)สวนปรุง จ.เชียงใหม่กล่าวว่า พื้นที่ภาคเหนือตอนบนเป็นพื้นที่โซนที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนเบบินคา ได้กำหนดแนวทางเพื่อให้ผู้ป่วยจิตเวชมียากินตลอดโดยให้คำแนะนำผู้ป่วยทุกรายเรื่องการเก็บยาระหว่างเดินทาง การเก็บยาที่บ้านที่ป้องกันยาเปียกน้ำหรือยาชื้นในช่วงฝนตกหนัก ในบางรายจำเป็นต้องจัดยาให้มากกว่าปกติและรายที่ได้รับยามากกว่า 1 เดือนขึ้นไป ทางเภสัชกรจะใส่สารดูดความชื้นไว้ในซองยาให้ด้วย  เพื่อป้องกันยาชื้น  ขณะเดียวกัน รพ.สวนปรุงได้นำระบบเทเลเมดดิซีน(Telemedicine) หรือการแพทย์ทางไกลผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต  มาใช้เพื่อลดปัญหาอุปสรรคในการเดินทาง เนื่องจากพื้นที่ประมาณร้อยละ 80 ของภาคเหนือจะเป็นพื้นที่สูง  การเดินทางในฤดูฝนจะยากลำบากและใช้เวลานานกว่าฤดูกาลอื่นๆ จากปกติ 4 ชั่วโมง เป็น 6 ชั่วโมง  ทั้งนี้เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาทั้งด้านการเข้าถึงบริการผู้ป่วยจิตเวชและป้องกันปัญหาการขาดยา   โดยมีระบบการสื่อสารเชื่อมต่อระหว่างรพ.สวนปรุงกับรพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล   เริ่มแห่งแรกที่รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านใหม่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาต่อเนื่องจากแพทย์เฉพาะทางตามวันเวลา นัดหมาย ทั้งแพทย์และผู้ป่วยสามารถมองเห็นกัน พูดคุยซักถามอาการกันได้อย่างชัดเจน ลดค่าใช้จ่ายเดินทางทั้งแพทย์เชี่ยวชาญและผู้ป่วย


นายแพทย์ธรณินทร์ กล่าวต่อว่า จากการประเมินผลพบว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี  ผู้ป่วยจิตเวชในต.บ้านใหม่และตำบลแม่ตื่นที่อยู่ใกล้เคียงที่มีประมาณ 50 คน ซึ่งร้อยละ 50 ป่วยเป็นโรคจิตเภท รองลงมาคือโรคซึมเศร้ามีร้อยละ 30  และติดสุราร้อยละ 20   สามารถอยู่ในชุมชนได้  ไม่มีปัญหาขาดยา  โดยระบบเทเลเมดิซีนนี้สามารถเปิดใช้ได้ในกรณีมีความจำเป็น เช่นถนนเข้าหมู่บ้านถูกตัดขาด เป็นต้น  ในเดือนหน้านี้ทีมจิตแพทย์เชี่ยวชาญจะลงติดตามประเมินผู้ป่วยในพื้นที่ที่อยู่ในโครงการด้วย  และในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้จะขยายผลใน จ.เชียงใหม่ เพิ่มอีก 2 แห่งคือ ที่เรือนจำ อ.แม่แตง  และรพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลแม่นาจร อ.แม่แจ่ม   โดยผู้ป่วยสามารถเบิกค่ารักษาได้ตามสิทธิ์ทุกประการ

Shares:
QR Code :
QR Code